กรกมล ชัยวัฒนเมธิน แบรนด์ไทย ไม่แพ้ใครในโลก
สาวหมวยสวยใส หน้าหวาน รูปร่างกะทัดรัด เธอผู้สวมหลายบทบาทหน้าที่ บทบาทเบื้องหน้าเธอคือนักร้องนำของวงละอองฟองและเป็นดีเจที่คลื่น 103 FM
โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล
สาวหมวยสวยใส หน้าหวาน รูปร่างกะทัดรัด เธอผู้สวมหลายบทบาทหน้าที่ บทบาทเบื้องหน้าเธอคือนักร้องนำของวงละอองฟองและเป็นดีเจที่คลื่น 103 FM สำหรับบทบาทการเป็นเบื้องหลังของเธอนั้น ก็คือการเป็นผู้บริหาร บริษัท ปวีณ์มล ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ KA และเธอยังเป็นเจ้าของร้านขายยา Health me
ทายาทรุ่นที่ 2 ยึดหลักคำพ่อสอน
ต้องเรียกว่า ลูกไม้หล่นใต้ต้น สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงของ KA “ออน-กรกมล ชัยวัฒนเมธิน”ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปวีณ์มล ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางและเวชสำอางภายใต้แบรนด์สินค้า KA ทายาทคนกลางของ “กมล-อรุณี ชัยวัฒนเมธิน” ผู้ก่อตั้งผลิตภัณฑ์ KA ซึ่งนอกจาก “ออน” จะเลือกเรียนเภสัชศาสตร์เหมือนคุณพ่อคุณแม่แล้ว ทุกวันนี้ยังมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว นั่งแท่นเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 2 ต่อจากคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
วันนี้เธอมาในบทบาทของสาวทำงานที่เป็นผู้บริหารของแบรนด์ KA ทางด้านการศึกษานั้น เธอจบจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การที่ครอบครัวของเธอมีธุรกิจทางด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เธอก็เลยมาถูกทางที่เรียนมาทางด้านนี้ได้มาต่อยอดสานต่อธุรกิจของคุณพ่อคุณแม่ที่ได้บุกเบิกงานนี้มาเกือบ 30 ปี
เธอเล่าว่า เธอช่วยดูแลงานด้านการตลาดในประเทศเป็นหลัก พี่สาวดูแลตลาดส่งออก นอกจากขายในประเทศไทยแล้วยังส่งออกไปย่านเอเชียในกลุ่มเออีซีอีกกว่า 10 ประเทศ และมีที่ส่งออกในรูปของโออีเอ็ม โดยส่งเป็นวัตถุดิบและไปติดยี่ห้อเองก็มีอยู่ 2-3 ประเทศ
“แบรนด์ไทยของเราก็สู้เขาได้นะคะ อย่างครีมกันแดดของเราก็มียอดขายเป็นอันดับ 4 สินค้าขายดีสุดในกลุ่มกันแดดของบ้านเรา ทั้งคุณภาพและราคาไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนตอนสงกรานต์ยอดขายจะดีมาก ตัวท็อปของเราก็คือครีมกันแดดนั่นเอง เพราะเราเป็นแบรนด์ไทยทำมาเพื่อผิวและอากาศแบบไทยๆ จึงไม่มันเยิ้มและซึมเข้าผิวเร็ว เราภูมิใจในความเป็นแบรนด์ไทย ใช้พรีเซนเตอร์ไทยด้วยเช่นกัน”
“ออน” เล่าว่า เห็นคุณพ่อคุณแม่เป็นเภสัชกรมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยเหมือนเป็นการปลูกฝังมาตลอด พอใครถามว่าอยากเรียนอะไร ตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องลังเลเลยว่า “อยากเรียนเภสัชศาสตร์” โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยบังคับว่า ต้องเรียนเหมือนท่าน แต่พอเห็นท่านทำงานก็เลยอยากเป็นอย่างท่านบ้าง เพราะรู้สึกเหมือนกับได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนเราห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ และด้วยความมุ่งมั่นก็ทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง เมื่อสามารถสอบเข้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตามที่ฝันไว้ และไม่เพียงแต่ผลการเรียนจะดีเยี่ยม เธอยังถือว่าเป็นนักกิจกรรมตัวยง เพราะนอกจากจะช่วยกิจกรรมของคณะและมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ อีกสิ่งที่ทำให้ภูมิใจ คือการได้รับเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ในการแข่งขันฟุตบอลประเพณี ครั้งที่ 60
นอกจากนี้ ในชีวิตรั้วมหาวิทยาลัย เธอยังได้ทำอีกหนึ่งความฝันของเธอสำเร็จ เมื่อได้รับการติดต่อให้เป็นนักร้องนำที่แฟนๆ รู้จักกันดีในชื่อ “ออน ละอองฟอง” อีกหนึ่งอาชีพที่ชื่นชอบ โดยมีคุณแม่เป็นผู้สนับสนุน ด้วยการส่งไปเรียนร้องเพลงตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งการที่เธอก้าวมาเป็นศิลปินตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน ก็ไม่ได้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ห่วงผลการเรียนแต่อย่างใด เพราะท่านทั้งสองบอกอยู่เสมอว่า ลูกไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เรียนดีที่สุดในชั้นเรียน ไม่จำเป็นต้องได้เกรด 4 ทุกวิชา ขอแค่มีความรู้ติดตัวและเอาตัวรอดได้ ซึ่งนั่นกลับทำให้เธอไม่กดดัน และกลายเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น
ทำธุรกิจอย่างจริงใจและถูกต้อง
สำหรับธุรกิจ KA ของครอบครัว เธอเล่าว่า เห็นคุณพ่อคุณแม่ปลุกปั้นมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เท่ากับอายุของเธอ โดยเริ่มมาจากสมัยที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นเภสัชกร มีลูกค้าชาวเยอรมันมาถามหาวิตามินอีเพื่อเอาไปลบรอยแผลเป็น แต่คนไทยสมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จักว่าวิตามินอีคืออะไร คุณพ่อคุณแม่เลยลองติดต่อไปยังต่างประเทศ ให้ส่งตัวอย่างมาให้ลูกค้าที่โดนน้ำร้อนลวกทดลอง ปรากฏว่าหายสนิทแบบไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย คุณพ่อคุณแม่เลยหันมาทำธุรกิจผลิตครีมวิตามินอีรายแรกในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ KA นั่นจึงเท่ากับคำว่าผูกพัน
เธอจึงซึมซับวิธีการบริหารงานธุรกิจของครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ และเพื่อให้ลูกๆ เรียนรู้การบริหารธุรกิจ คุณพ่อคุณแม่จึงใช้วิธีให้ลูกสาวทั้ง 3 คนเข้าร่วมประชุมและออกความคิดเห็นอย่างเต็มที่ตั้งแต่ช่วงเป็นวัยรุ่น โดยมอบหมายให้เธอดูแลในส่วนงานมาร์เก็ตติ้งและผลงานชิ้นโบแดงของเธอ คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ KA Magic Lips ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับการกล่าวขานอย่างสูงสุด เพราะเป็นแบรนด์แรกในเมืองไทยที่ผลิตลิปเปลี่ยนสีได้ ซึ่งเท่ากับว่า เธอได้พิสูจน์ฝีมือให้คุณพ่อคุณแม่เห็น จนไว้วางใจให้เธอเข้ามาดูแลธุรกิจแบบเต็มตัวมากขึ้น
โดยล่าสุดเธอกำลังจะสร้างผลงานมาสเตอร์พีซอีกชิ้นกับการดูแลโปรเจกต์ยักษ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ KA White Cream ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ด้วยส่วนผสมของ Sabiwhite สารสกัดขมิ้นบริสุทธิ์ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า พร้อมกับการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” ที่งานนี้เธอลงมือดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้นทุกขั้นตอน โดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจสำคัญอยู่เบื้องหลัง
ดนตรีคือความสุขใจ
เมื่อถามว่างานบริหารกับการเป็นศิลปิน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เธอตอบทันทีว่า “การเป็นผู้บริหารต้องทำตามความต้องการของตลาด แต่ศิลปินคือการแสดงความเป็นตัวตนออกมาให้ชัดเจน แต่ออนก็ได้ใช้พลังเชิงบวกของการเป็นศิลปินมาสร้างทัศนคติที่ดีในเวลาเบรนสตรอมกับทีมงาน ทำให้การบริหารงานราบรื่นมากยิ่งขึ้น” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
นอกจากงานบริหาร KA และการเป็นนักร้องนำวงละอองฟองแล้ว เธอยังรับบทบาทเป็นดีเจ คลื่น 103 FM พิธีกรรายการ Happy Society และยังได้ใช้วิชาเภสัชกรที่เรียนมา ในการเป็นเจ้าของร้านยา Health Me อีกด้วย เรียกว่าตารางงานแน่นเอี้ยด แต่ทุกบทบาทล้วนเป็นสิ่งที่เธอรักจึงทำควบคู่กันไปได้อย่างดี โดยใช้วิธีแบ่งเวลาตามความสำคัญของแต่ละงานเป็นหลัก
ในอนาคต เธอตั้งเป้าจะขยายธุรกิจแบรนด์ KA ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งในแง่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการรับจ้างผลิต โดยอยู่บนพื้นฐานแนวความคิดการทำงานที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อ นั่นคือทำธุรกิจอย่างจริงใจ ยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง และภูมิใจที่เป็นผลิตภัณฑ์ของคนไทย เพื่อคนไทย เพราะของไทยก็คุณภาพดีไม่แพ้ใครในโลก เพราะสินค้าของไทยย่อมเข้าใจผิวและอากาศของไทยได้ดีกว่าอยู่แล้ว เธอมั่นใจเช่นนั้นว่าสินค้าไทยก็คุณภาพดีไม่แพ้ใครในโลก


