ชุดราตรี 8 ทศวรรษนางสาวไทย
เอ-ครรชิต ตรีทอง ดีไซเนอร์วัย 21 ปี ประจำร้านชุดวิวาห์และชุดราตรีชื่อดัง “Emotions Atelier”
โดย...ภาดนุ ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
เอ-ครรชิต ตรีทอง ดีไซเนอร์วัย 21 ปี ประจำร้านชุดวิวาห์และชุดราตรีชื่อดัง “Emotions Atelier” เล่าถึงเส้นทางอาชีพนักออกแบบเสื้อผ้าให้ฟังว่า ทันทีที่เขารู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบและชอบงานด้านเสื้อผ้า เขาจึงตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบัน Bunka Fashion Academy ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนด้านแฟชั่นดีไซน์โดยเฉพาะอย่างไม่ลังเล
“บุนก้าฯ คือโรงเรียนสอนแฟชั่นที่มีหลักสูตรจากญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาเรียน 2 ปี โดยสอนวิชาพื้นฐานทุกอย่างตั้งแต่การออกแบบแพตเทิร์นเสื้อผ้า การตัดเย็บ และดีเทลของเสื้อผ้า ทั้งชุดผู้หญิง ชุดเด็ก และชุดทั่วไป เมื่อเรียนจบผมก็ได้เข้าทำงานเป็นดีไซเนอร์ที่ร้านนี้มาได้ 3 ปีแล้ว
“กระทั่งเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ‘กู้เกียรติ’ เจ้าของร้านได้รับมอบหมายให้ทำชุดราตรีให้กับ 8 อดีตนางสาวไทยที่ต้องไปร่วมปรากฏตัวบนเวทีประกวดนางสาวไทยประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘8 ทศวรรษแห่งตำนาน ความงดงามคู่แผ่นดิน’ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 80 ปีแห่งตำนานการค้นหาหญิงสาวที่สวยที่สุดในประเทศไทย ซึ่ง 8 อดีตนางงามรุ่นพี่ที่ต้องมาขึ้นเวทีครั้งนี้ก็เช่น สาวิณี ปะการะนัง
อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ อารียา สิริโสดา อัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์ และอื่นๆ”
แน่นอนว่า “เอ” ก็รับหน้าที่เป็นดีไซเนอร์ผู้ร่วมออกแบบชุดราตรีสุดอลังการทั้ง 8 ชุดนี้ร่วมกับเจ้าของร้านด้วยเช่นกัน เอเผยว่า เหตุผลที่ทางกองประกวดเลือกให้ Emotions Atelier เป็นผู้ออกแบบชุดราตรีให้ เพราะได้เห็นผลงานชุดราตรียาวจำนวน 28 ชุด ซึ่งทางร้านเคยออกแบบให้กับสาวงามผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายบนเวทีการประกวดนางสาวไทยในปี 2556 มาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นในปี 2557 ทางกองประกวดจึงได้ติดต่อมา
“ชุดทั้ง 8 ชุดนี้เป็นชุดราตรีที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทยในธีมสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำของการประกวด แต่สไตล์ของชุดจะมีความเป็นสากลมากขึ้น มีการปักเลื่อม มีดีเทลต่างๆ มากมาย ยกเว้นชุดราตรีของ ป๊อป อารียา ที่ตั้งใจให้เป็นชุดในโทนสีขาว-ดำ เพื่อให้กลมกลืนกับบุคลิกเท่ๆ ของเธอ”
เอบอกว่า แรงบันดาลใจในการออกแบบชุดราตรีทั้ง 8 ชุดนี้ได้มาจากดอกกล้วยไม้ของไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามโดดเด่นทั้งกลีบดอกและสีสันสีม่วงสะดุดตา โดยแต่ละชุดจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ชุดของ สาวิณี ปะการะนัง จะเป็นชุดผ้าไหมไทยจับเดรปคล้ายโบที่ช่วงไหล่ให้ตั้งๆ ดูอลังการ มีผ้าคลุมไหล่ที่มีลายปักเป็นรูปดอกไม้สีม่วงซึ่งปักด้วยมือทั้งหมด หรือชุดของ อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ที่ท่อนบนจะเป็นผ้าไหมสีม่วงเรียบ ปักด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ทั่วทั้งตัว มีผ้าคลุมบางๆ คล้ายกับผ้าสไบที่ด้านหลัง ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงที่ทำจากผ้าไหมไทยสีออกเหลือบๆ ม่วง เป็นต้น
“โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่านอกจากพรสวรรค์ในการออกแบบที่มีติดตัวมาแล้ว เราควรจะมีพรแสวงควบคู่กันไปด้วย โดยการศึกษาหาความรู้ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อย่าหยุดนิ่ง ผมเองชอบที่จะศึกษาและติดตามกระแสแฟชั่นจากเมืองนอกอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ได้แรงบันดาลใจในการต่อยอดสร้างสรรค์ผลงาน เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดของเรากับเขา แต่ต้องไม่ใช่การก๊อบปี้เขามานะครับ” (หัวเราะ)
เอทิ้งท้ายว่า สำหรับตัวเขาเองนั้นชอบออกแบบทั้งชุดวิวาห์และชุดราตรี ซึ่งชุดวิวาห์ที่สวยในความคิดของเขา คือชุดที่ออกแนวเท่ๆ เรียบๆ โก้ๆ เน้นการคัตติ้งที่เนี้ยบ ส่วนชุดราตรีที่สวยในความคิดของเขา ต้องเป็นชุดราตรีที่เน้นดีเทลเยอะๆ หน่อย ทั้งการปัก การจับเดรป การเลือกชนิดและสีสันของเนื้อผ้า พูดง่ายๆ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันหมด
“ในอนาคตผมอยากสร้างสรรค์ชุดวิวาห์ที่เรียบหรู แต่ก็ดูมีความเป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่ชุดวิวาห์ที่ดูเป็นเจ้าซ้าว เจ้าสาว จนเกินไปเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ซึ่งผมคิดว่าผู้หญิงสมัยนี้น่าจะชอบกันครับ” สำหรับผู้ที่สนใจติดตามผลงานของเอได้ที่
IG : amekores หรือ FB : Emotions Atelier


