posttoday

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

24 มกราคม 2558

หนุ่มสาวนักเรียนศิลปะรุ่นใหม่ แตกต่างไปจากรุ่นพี่ที่เคยอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เขาเหล่านั้นพยายามหาเส้นทางที่เหมาะสม

หนุ่มสาวนักเรียนศิลปะรุ่นใหม่ แตกต่างไปจากรุ่นพี่ที่เคยอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เขาเหล่านั้นพยายามหาเส้นทางที่เหมาะสม เพื่อก้าวเดินไปให้ได้สุดปลายทาง ไม่ได้คิดเป็นศิลปินใหญ่ เพียงแค่ได้ทำงานที่ตัวเองรักนั่นก็เพียงพอแล้ว

หากใครเคยผ่านไปผ่านมาแถวศาลเจ้าพ่อเสือ ใกล้ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์ ใกล้กับอักษรเจริญทัศน์ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์คงจะคุ้นตากับร้านกาแฟเก๋ๆ ที่ชื่อ “SATI” ซึ่งที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ แต่จริงๆ แล้วเป็นสตูดิโอ ภายใต้ชื่อ “ชามเริญ สตูดิโอ” ซึ่งไม่ผิดเลยหากจะกล่าวว่า “ชามเริญสตูดิโอ” แห่งนี้เป็นสตูดิโอรวมฝันของ 3 หนุ่มสาวจากรั้วศิลปากร ที่ห่างหายจากวงการศิลปะไปเนิ่นนาน แต่มีโอกาสกลับมารวมกันเพื่อควักกระเป๋าเปิดสตูดิโอแห่งนี้

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

มิก-ณัฐพล วรรณาภรณ์ บุบ-ชาญชัย บริบูรณ์ และ ใหม่-ธนิตา โยธาวงษ์ ศิษย์เก่าคณะมัณฑนศิลป์ ภาควิชาออกแบบเครื่องเคลือบดินเผา มหาวิทยาลัยศิลปากร และทีมผู้ก่อตั้ง “ชามเริญ” ร่วมเล่าที่มาที่ไปของชามเริญ สตูดิโอให้ฟังว่า เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยมิกและบุบจะเรียนรุ่นเดียวกันและเป็นรุ่นพี่ของใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานประจำในองค์กรต่างๆ
หรือที่เรียกกันว่าเข้าระบบการทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะมีการทำงานนอกสาย

“ในวันที่มีโอกาสได้รวมตัว เจอกันกับกลุ่มก๊วนรุ่นพี่ๆ เมื่อสัก 2-3 ปีที่แล้ว ก็มีโอกาสได้คุยกันจนได้รู้สึกว่าทุกคนต่างคิดถึงงานที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตัวเองได้เรียนมา และทุกคนล้วนมีฝัน อยากมีสตูดิโอเซรามิกเป็นของตัวเอง เช่น พี่มิก เป็นคนเชียงใหม่ ก็เริ่มอยากกลับไปทำสตูดิโอเซรามิกที่บ้านที่เชียงใหม่ ซึ่งรุ่นพี่ๆ คนอื่นๆ ก็ให้แนวคิดว่าทำไมไม่ลองมาทำร่วมกันที่กรุงเทพฯ ก่อนที่จะหาหนทางของตัวเอง” ใหม่-ธนิตากล่าว

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

เปิดสตูดิโอร่วมกัน

บุบ-ชาญชัย เล่าว่า เรา 3 คนใช้เวลาเป็นปีในการเตรียมงาน ตั้งแต่เริ่มหาทำเลในการเปิดสตูดิโอซึ่งตอนแรกเลยอยากได้ในเมือง ย่านสุขุมวิท ตามแนวรถไฟฟ้า เช่น ทองหล่อ เพื่อสะดวกในการเดินทาง แต่ค่าเช่าแพงมากๆ คงยังไม่ไหว ก็เริ่มตัดตัวเลือกออกทีละทำเล จากในเมืองก็เริ่มกลับมาใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยศิลปากร เดินสำรวจหมดทั้งย่านเยาวราช ย่านบางลำภู ย่านเทเวศร์ ซึ่งถ้าถามว่าจริงๆ ชอบโซนไหน ชอบเยาวราชเพราะถูกใจกรอบอาคาร แต่ต้นทุนในการปรับปรุงไม่ต่ำกว่าหลักล้าน ก็ต้องตัดใจไปอีก

“ก็เดินจนบังเอิญมาเจอตึกย่านศาลเจ้าพ่อเสือประกาศให้เช่าอยู่ บังเอิญว่าเจ้าของอยู่ เราก็ขอเข้าไปดูเลย พอดูก็ถูกใจ ขอเช่าเลย”

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

ใหม่-ธนิตา เล่าว่า ความที่ทำการบ้านมาเยอะมากพอเห็นตัวอาคารก็รู้เลยว่าจะทำอะไรบ้าง โดยตึกนี้เป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ 4 ชั้นติดกัน 6 ห้อง มีคนเช่าแล้ว5 ห้อง แต่ผู้เช่าปัจจุบันเช่าแค่ชั้น 1 กับชั้น 2 จะมี 1 ห้องที่ว่าง 4 ชั้น ส่วนชั้น 3 กับชั้น 4 ของอีก 5 ห้องจะว่างยาว6 ห้อง ขอเช่าหมด แล้วขอทุบผนังออกให้ยาวต่อกันไปเลยเพื่ออนาคตจะให้ชั้น 3 เป็นแกลเลอรี่ไว้โชว์งานต่างๆ ซึ่งไม่จำกัดแค่งานเซรามิก แต่เป็นผลงานของศิลปินที่สนใจมาเช่าพื้นที่แสดงงาน ส่วนชั้น 4 เปิดเป็นพื้นที่โล่งไว้สำหรับตากผ้าย้อม

“ชามเริญ สตูดิโอ” มีที่มาจากคำว่า “จำเริญ” ที่มีความหมายว่า เจริญ แต่ถ้าใช้คำว่า “จำเริญ” ชาวต่างชาติจะอ่านออกเสียงยาก เลยนำคำว่า “ชาม” ซึ่งหมายถึง ถ้วยชามก็จะสะท้อนถึงงานเซรามิกได้ดีบวกกับคำว่า “เริญ” เป็น “ชามเริญ” เปิดเป็นสตูดิโอเวิร์กช็อปวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. มี 6 คอร์สหลักๆ คือ

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

1.Ceramic Handforming (ปั้นเซรามิกด้วยมือ) อัตราค่าเรียน 6,000-7,500 บาท/คน 2.Ceramic Wheel Throwing (ปั้นเซรามิกด้วยแป้นหมุนไฟฟ้า) อัตราค่าเรียน 3.2 หมื่นบาท/คน และ 3.Ceramic Paint (เพนต์สีเคลือบภาชนะ) อัตราค่าเรียน 3,000 บาท/คน 4.Indigo Tie-Dyed Course (ย้อมเย็นเป็นสีคราม) อัตราค่าเรียน 4,000 บาท/คน 5.Natural Tie Dye Workshop (ย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ ใบ และดอก) อัตราค่าเรียน 3,000 บาท/คน และ 6.BeginerPhotography Course (คอร์สถ่ายภาพเบื้องต้น) อัตราค่าเรียน 4,000 บาท/คน

ใหม่-ธนิตา กล่าวว่า จากวันที่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ แม้จะมีอะไรอีกมากที่ยังไม่ได้ทำ แต่ก็ถือว่าหนทางที่เดินมาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน ทั้งหลักสูตรต่างๆ ทั้งผู้ที่สนใจเรียน คนรู้จักมากขึ้น ซึ่งการที่มีร้านกาแฟ SATI ซึ่งเป็นของรุ่นพี่ที่ศิลปากรที่รักในการชงกาแฟมาเปิดให้บริการในทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น. ก็ช่วยทำให้คนรู้จักชามเริญ สตูดิโอมากขึ้น

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

ส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อนบอกต่อ และการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง ทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊ก facebook.com/charmlearnstudio95 การประชาสัมพันธ์ผ่านไอจี harm_learn_studio รวมถึงการที่มีสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มรู้จักและช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย ก็ล้วนเป็นช่องทางที่ทำให้ชามเริญมีโอกาสที่จะแจ้งเกิดได้มากขึ้นซึ่งเป้าหมายในปีนี้จะเน้นเรื่องการจัดนิทรรศการงานศิลปะต่างๆ บนชั้น 3 มากขึ้น

กว่าจะมีวันนี้ มิก-ณัฐพล เล่าว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชามเริญเปิดในช่วงเดือน ส.ค. 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่มีวิกฤตทางการเมือง พอปลายปีประมาณเดือน ต.ค. 2556 ก็มีการชุมนุมทางการเมืองที่ใกล้กับชามเริญ สตูดิโอ จากที่ว่ายากแล้วก็ยากขึ้นไปอีก คนมาเรียนไม่สามารถมาได้ หรือไม่มั่นใจเรื่องการเดินทาง เรียกว่าต้องอดทนผ่านช่วงเวลานั้นมาให้ได้ ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ ก็จบเลย ซึ่งเวลาได้กำลังใจจากเพื่อนๆ ทั้งเพื่อนที่ร่วมกันทำ และเพื่อนๆ คนอื่น

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

“ในเวลาที่คนทั่วไปไม่มา แต่เพื่อนเรายังมา แค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับช่วงเวลาที่วิกฤต”

หลายคนถามว่า ทำไมพอจบมา ถึงไม่ได้ทำงานที่รัก ก็ต้องยอมรับเลยว่า การมาลงทุนทำเซรามิกเองคนเดียวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเป็นสายงานที่มีต้นทุนสูงมาก ทั้งค่าเตาอบ ต้นทุนวัตถุดิบ ที่สำคัญคนเรียนศิลปะมีจุดอ่อนเหมือนกัน คือ ผลิตชิ้นงานได้ แต่คิดต้นทุนจริงๆ ไม่ได้ จะตั้งราคาอย่างไรจะทำการตลาดอย่างไร ไปต่อไม่ได้เลย ทำให้คนจบเซรามิกสายศิลป์ส่วนใหญ่หันไปทำงานนอกสาย มีเพียง 5% เท่านั้นที่มีโอกาสได้ทำงานในสายที่ตัวเองเรียนมา

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

ทั้งนี้ ภาควิชาออกแบบเครื่องเคลือบดินเผา หรือเรียกง่ายๆ ว่า ภาควิชาเซรามิก มีด้วยกัน 2 สาย คือ สายอุตสาหกรรม และสายอาร์ต มิก-ณัฐพล กล่าวว่า สายอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะม่ีงานรองรับชัดเจน ส่วนสายอาร์ตจะหางานสายตรงยาก ซึ่งมองว่าในอนาคต หากภาควิชาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะมีหลักสูตรที่เกี่ยวกับการคิดต้นทุน หรือหลักการตลาด หรือแนวทางที่จะทำให้คนจบศิลปะมีเส้นทางในการทำอาชีพเสริมเข้าไปตอนใกล้เรียนจบก็อาจพอจะทำให้ศิลปินน้องใหม่พอจะเห็นหนทางของตัวเองบ้าง

หนทางของศิลปินแค่เริ่มต้นว่ายากแล้ว แต่ระหว่างทางกว่าจะก้าวไปสู่เส้นทางของศิลปินที่ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน แต่ทั้ง 3 ผู้ก่อตั้งชามเริญกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า หนทางไปสู่ความเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมีแน่นอน แต่ต้องใช้เวลาและอดทน เด็กรุ่นใหม่อาจจะเห็นรุ่นพี่ๆ ในวันที่เขาประสบความสำเร็จแล้ว และอยากประสบความสำเร็จเลยคงจะไม่ได้ ต้องใช้เวลาเรียนรู้กับเรื่องราวระหว่างทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หากมีความอดทนและมีฝันที่ดีแล้ว เชื่อว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

เด็กศิลป์รุ่นใหม่เส้นทางศิลปะที่เลือกได้

 

ข่าวล่าสุด

‘เท้ง ณัฐพงษ์’ เยี่ยมศูนย์อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา หวัง สถานการณ์คลี่คลาย