posttoday

‘จิตติพร จันทรัช’ เวลาว่างมีให้แต่ครอบครัว

03 มกราคม 2558

“จิตติพร จันทรัช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติคฟู้ด (XO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร

“จิตติพร จันทรัช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติคฟู้ด (XO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอาหาร เช่น ซอสพริก น้ำจิ้มไก่ เครื่องประกอบอาหาร เช่น กะทิและเครื่องแกงต่างๆ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากผักและผลไม้ ฯลฯ เพื่อการส่งออกถึง 99% โดยมีกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐเป็นหลัก และเพิ่งนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมานี้

เมื่อถามถึงมุมส่วนตัวที่นอกเหนือจากงานทั้งหมดผู้บริหารหนุ่มวัย 40 ปีคนนี้ตอบได้ทันทีว่า ส่วนใหญ่เขาให้เวลากับ “ครอบครัว” นั่นคือภรรยา “พญ.ศิริวรรณ ตั้งเจริญชัยชนะ”แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามผู้ก่อตั้ง Health Avenue Clinic และลูกสาวอีก 2 คน คือ “ทรินนิตี้”วัย 8 ขวบ “ทรีทัญญ่า” วัย 4 ขวบ

เขาสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ใช้เพียงอีเมลในการติดต่อลูกค้า ติดต่องานกับลูกน้องเท่านั้น ยกเว้นจะเข้าออฟฟิศในกรณีที่ต้องประชุมหรือเซ็นเอกสารสำคัญ สามารถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน หรือรอรับลูกสาวที่บ้านได้ เพราะที่บ้านมีโต๊ะทำงานสีขาวขนาดใหญ่ที่มีเครื่องไอแมคเป็นตัวช่วยอย่างดีในการติดต่อหรือประสานงาน

“ถือว่าเป็นโอกาสและโชคดีที่ลักษณะการติดต่อมันสามารถทำได้ทุกที่จริงๆ วันไหนตื่นไปส่งลูกที่โรงเรียนก็กลับมาจากส่งลูกแล้วก็ทำงาน หรือจะกลับมานอนต่อแล้วทำงานได้ทั้งนั้น หรือพอลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนก็เล่นกับเขาสักแป๊บก่อน ก่อนที่เขาจะเรียนเปียโนที่บ้านต่อ ซึ่งก็รู้สึกแฮปปี้ดีที่มีเวลาให้กับลูกๆ ด้วย”

นอกจากนั้น เขายังเป็นตัวหลักในการวางโปรแกรมพาภรรยาและลูกๆ เที่ยวอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อตกลงกับภรรยาไว้ว่าจะต้องมีทริปที่เขาจะไปเที่ยวกับภรรยาเพียงสองคนอย่างน้อยปีละครั้ง แต่พออายุเขาเริ่มเข้าสู่วัย 40 ปีเลยขอกับภรรยาว่าขอเพิ่มเป็นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งที่ไปเที่ยวกับภรรยา โดยให้เหตุผลว่า ก็เพราะลูกๆ เริ่มโตขึ้นภรรยาก็ต้องให้เวลากับลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยขอพื้นที่สำหรับทริปสองคนเพิ่มอีก 1 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยปีนี้ที่ผ่านมาก็ไปกรุงโรม ประเทศอิตาลี กับเกาะโบราโบร่า ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศฝรั่งเศสมา

‘จิตติพร จันทรัช’ เวลาว่างมีให้แต่ครอบครัว

 

เขาเล่าว่า ที่ผ่านมาจะบอกกับภรรยาไว้ว่า จริงๆ ภรรยาไม่ได้มีลูกแค่ 2 คนนะ แต่ภรรยามีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตคือเขา ที่เป็นลูกชายคนโตที่ภรรยาจะต้องมีเวลาให้และคอยดูแลกัน (หัวเราะ) ซึ่งปัจจุบันก็มีข้อตกลงกันว่า ใน1 สัปดาห์ของการทำงาน เขาจะให้ภรรยาทำงานได้เพียงแค่ 3 วัน/สัปดาห์ ที่จะไปดูแลงานหรือธุรกิจคลินิกส่วนตัวนอกจากนั้นภรรยาต้องคอยดูแลลูกสาวที่น่ารักทั้งสองคนเป็นหลัก

สำหรับทริปไปเที่ยวกับลูกสาวทั้งสองคน ต้องมีอย่างน้อย1 ครั้ง/ปี ที่ต้องไปต่างประเทศกัน ใช้เวลาที่ไปต่อครั้งประมาณ 10-14 วัน และสถานที่ที่ไปด้วยกันบ่อยๆ ก็คือที่ควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เพราะบรรยากาศที่นั่นดี ไปแล้วทุกคนชอบ รู้สึกแฮปปี้มีความสุข โดยเฉพาะได้พาลูกสาวไปเรียนสกี ทุกคนได้มีเวลาเล่นสกี เจอหิมะ แต่ถ้าเป็นทริปในประเทศส่วนใหญ่นึกอะไรไม่ออกก็ไปเที่ยวเกาะสมุย ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่ก็ไปสิงคโปร์

“จะบอกว่าผมติดลูกๆ หรือติดครอบครัวก็ได้ เพราะรู้สึกว่าตอนนี้เขายังไปไหนกับเรา ทั้งเขาและเราก็ยังมีความสุขด้วยกัน แล้วอยู่กับเด็ก เขาได้ไปไหนต่อไหนเขาจะรู้สึกสนุก เราเห็นเขายิ้ม เราก็รู้สึกมีความสุขแล้วแค่นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผมเองที่คิดและวางโปรแกรมไว้ว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี เพราะสนุกและก็ชอบหาที่เที่ยวพาภรรยาและลูกๆ ไปเที่ยว แต่ถึงผมจะเที่ยวอยู่กับลูกและภรรยาก็ยังสามารถทำงานได้ทุกที่ที่ไปเที่ยวเสมอ เพียงมีมือถือหรือไอแพด ซึ่งโชคดีมากที่ลักษณะงานของผมไม่มีอะไรที่วางกรอบจำกัด นอกจากนี้ยังมีน้องสาวที่คอยช่วยงานที่บริษัทเป็นอย่างดีด้วย ก็เลยทำให้เราทำงานได้คล่องตัวเยอะ” จิตติพรเล่าให้ฟังอย่างมีความสุข

ต้องถือว่า “จิตติพร” เป็นสามีและคุณพ่อที่ดีคนหนึ่งเลย อย่างนี้คงไม่พ้นที่จะยกหน้าที่เป็นแฟมิลี่แมนตัวจริงให้ซะแล้ว

ข่าวล่าสุด

แข้งไทยช็อก! นำ 2 ตุง กลับพลิกแพ้ เวียดนาม 2-3 แค่รองแชมป์ซีเกมส์