สินค้าจีนทะลัก กดดัน OEM พลิกธุรกิจสร้างแบรนด์รองเท้าสุขภาพ “Talon”

แบรนด์รองเท้าสุขภาพ “Talon” แม้ว่าเพิ่งโลดแล่นอยู่ในตลาดรองเท้าสุขภาพเพียง 5 ปี มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากยอดขาย 8 ล้านบาทในปี 2563 สู่ยอดขายแตะ 20 ล้านในปี 2567 และเป้าหมาย 60 ล้านบาทในปีถัดไป นั้น 

แท้ที่จริงแล้ว ก่อนจะมาเป็น “Talon” บริษัทคือผู้รับจ้างผลิตรองเท้า หรือ OEM ให้แบรนด์ดังมาก่อน มียอดขายถึงปีละ 100 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์การแข่งขันด้านราคาและสินค้าจากจีนทะลักเข้ามาในตลาดจำนวนมาก ทำให้ยอดขายลดลงต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ความสำเร็จ หรือ “ยุคทอง” ในสมัยก่อน จึงไม่ใช่คำตอบ หรือ เป็นเครื่องการันตีว่า บริษัทจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างยั่งยืนได้เหมือนเดิม

หมดยุคทอง OEM เดินหน้าสู่แบรนด์ “Talon”

พรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ ทายาทธุรกิจ ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท ฟุต คลีนิค จำกัด เจ้าของแบรนด์รองเท้าสุขภาพ “Talon” เล่าถึงยุคทองและจุดเปลี่ยนในสมัยรุ่นคุณพ่อจนมาถึงรุ่นลูกเพื่อเปลี่ยนภาพ OEM เป็นการสร้างแบรนด์ของตนเองว่า 

ต้นกำเนิดของ “Talon” เริ่มต้นขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ในฐานะโรงงานรับจ้างผลิตรองเท้าแตะ รายใหญ่ที่ยึดหัวหาดอยู่ในย่านสำเพ็ง ในยุคนั้น ธุรกิจคึกคักถึงขีดสุด ลูกค้าต่างชาติจากพม่าและฟิลิปปินส์ หิ้วเงินสดมาสั่งออเดอร์วันละเป็นล้านบาท สร้างยอดขายต่อปีได้สูงถึงหลัก 100 ล้านบาท และโรงงานนี้ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตให้แบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bata, Hush Puppies รวมถึงแบรนด์จากเกาหลี อเมริกา และญี่ปุ่น

แต่เมื่อตลาดเปิดกว้างขึ้น คู่แข่งจากจีนและเวียดนามเริ่มเข้ามามีบทบาท ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น ธุรกิจ OEM เริ่มเผชิญกับภาวะ "ความไม่ยั่งยืน" เมื่อลูกค้ามักจะต่อราคาลงทุกปี ในขณะที่ความต้องการวัสดุที่ดีมักถูกปฏิเสธ เพราะลูกค้าต้องการเพียงสินค้าที่ราคาถูกที่สุด

อินโฟร์ทำจาก NotebookLm

จากยอดขายที่เคยสูงกว่าร้อยล้านกลับค่อยๆ ตกลงมาต่ำกว่า 50 ล้านบาท นี่คือสัญญาณอันตรายที่ทำให้ “พรศักดิ์” เจ้าของแบรนด์รุ่นปัจจุบัน ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องสลัดภาพโรงงานรับจ้างผลิตเพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเอง แม้ว่าในตอนแรกครอบครัวจะไม่เห็นด้วย เนื่องจากกังวลเรื่องกำลังผลิตและความยากของการทำตลาดค้าปลีกก็ตาม

ปั้นแบรนด์ "Talon" ด้วยนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ฟื้นฟู

ชื่อแบรนด์ “Talon” ถูกเลือกนำมาใช้ โดยในภาษาอังกฤษหมายถึง "อุ้งเท้าเหยี่ยว" และในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "ส้นเท้า" ซึ่งสื่อถึงความเชี่ยวชาญเรื่องเท้าโดยตรง “พรศักดิ์” เลือกเจาะตลาด Niche Market อย่างรองเท้าสุขภาพ

โดยเริ่มต้นจากการทำ "รองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน" ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครทำในไทยขณะนั้น มีการนำเข้าวัสดุพิเศษที่เรียกว่า Plastazote ซึ่งมีความนุ่มพิเศษ ไร้ตะเข็บเพื่อป้องกันการเสียดสี และมีคุณสมบัติแอนตี้แบคทีเรีย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลของผู้ป่วย

นอกจากนี้ “Talon” ยังฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ของรองเท้าสุขภาพที่มักจะดูไม่ทันสมัย ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ Rebecca Lims จากเกาหลี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรองเท้าที่ทั้งใส่สบายและมีความสวยงามแบบแฟชั่น

สิ่งที่ทำให้ “Talon” โดดเด่นกว่าคู่แข่งคือการนำเทคโนโลยี AI มาใช้สแกนเท้าผ่านมือถือหรือ iPad เพื่อส่งข้อมูลไปออกแบบแผ่นรองเท้าเฉพาะบุคคล ที่ห้องแล็บในอเมริกา โดยมี "โพบิส" (Podiatrist) หรือนักวิทยาศาสตร์ฟื้นฟูเรื่องเท้า ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีเพียง 3 ท่านในประเทศไทย คอยให้คำปรึกษาและออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพเท้าของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

จากโรงพยาบาลไทยสู่ตลาดตะวันออกกลาง

ปัจจุบัน “Talon” มีสาขากว่า 12 แห่ง ซึ่งรวมถึงจุดจำหน่ายในโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น บำรุงราษฎร์, กรุงเทพ, พระรามเก้า และจุฬาฯ รวมถึงในห้างสรรพสินค้าอย่างสยาม ทาคาชิมายะ, กลยุทธ์สำคัญคือการเร่งให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ว่ารองเท้าสุขภาพที่แท้จริง ต้องช่วยปรับสมดุลของเท้า ไม่ใช่แค่มีความนุ่มเพียงอย่างเดียว

สำหรับเป้าหมายในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า Talon ตั้งเป้าที่จะเป็นแบรนด์แรกที่คนนึกถึงเมื่อมีปัญหาสุขภาพเท้า และเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ โดยเล็งเห็นโอกาสในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ และอินโดนีเซีย

พรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ

แต่ตลาดที่น่าสนใจที่สุดคือ ดูไบและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ผู้คนนิยมใส่รองเท้าแตะเพราะสภาพอากาศร้อน และมีสถิติผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมาก ซึ่งตรงกับผลิตภัณฑ์หลักของ “Talon” อย่างพอดิบพอดี