ทุกอย่างคุมได้ด้วยการซ้อม ชัยอนันต์ ปันชู

“ทุกครั้งที่อ่านข่าวออกอากาศสด ผมมักจะตื่นเต้นเสมอ จนถึงวันนี้ทำงานมาได้ 5 ปี ผมก็ยังตื่นเต้นอยู่ สิ่งที่ผมทำเพื่อหยุดความตื่นเต้นก็คือ ตอนซ้อมอ่านจะปล่อยให้ตัวเองตื่นเต้นเต็มที่ แต่ถึงเวลาออกอากาศต้องหยุดต้องนิ่งที่สุดและอ่านตามบทที่ซ้อมมา ยิ่งซ้อมมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น”ต้นกล้า-ชัยอนันต์ ปันชู ผู้ประกาศข่าวหนุ่มหล่อ จากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เล่าเคล็ดลับเฉพาะตัวของเขา

ทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ต้นกล้า เรียนจบทางด้านสื่อสารมวลชน จากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เขามีความสนใจ อยากเป็นผู้ประกาศข่าวมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ต้นกล้า เล่าว่า “ตอนเด็กเราเห็นผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวในพระราชสำนัก เราก็เกิดความรู้สึกว่า เราอยากจะอยู่ในจอบ้าง ไปอ่านข่าวตรงนั้นบ้าง ก็เลยหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน พ่อฟังเสียงแล้วก็บอกว่าเหมือนผู้ประกาศอ่านข่าวในโทรทัศน์เลย จากนั้นมาจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราฝึกฝนตัวเองเพื่อเข้ามาทำงานตรงนี้

พอเรียนจบก็ลองไปสมัครงานที่สถานีโทรทัศน์หลายช่องแต่ก็ไม่ได้ จึงผันตัวเองมาทำงานเป็นพิธีกร เป็นเอ็มซีทำงานทางด้านมาร์เก็ตติ้ง และทำงานสายอีเวนต์ รวมทั้งงานวีเจช่องลูกทุ่งอยู่ช่องหนึ่ง

พอเห็นช่อง 7 เปิดรับสมัครงานก็มาสมัครที่นี่ ตอนนั้นจำได้ว่าคนมาสมัครงานประมาณ 3,000 คนได้ เราตื่นเต้นมาก เพราะเราไม่เคยเจอประสบการณ์ที่เราต้องเทสต์หน้ากล้องต่อหน้าผู้ประกาศข่าวอาวุโสรุ่นใหญ่หลายคน ครั้งแรกให้เราอ่านประโยคภาษาไทยแล้วก็อ่านประโยคภาษาอังกฤษ อ่านเสร็จก็กลับบ้าน

 

จากนั้นก็ประกาศผู้เข้ารอบ 100 คนแรก ปรากฏว่าเราติดก็ดีใจมาก ตอนนั้นคิดว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งละ จากนี้ต่อไปได้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ได้เท่านี้ก็ถือว่ากำไรแล้ว แต่เราก็ฝึกซ้อมมากขึ้น เวลาว่างก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน อ่านให้เพื่อนๆ ฟัง แรกๆ ก็เขินหลังๆ เพื่อนๆ ก็เริ่มระอา เอาอีกละหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านอีกละ

กระทั่งเราเข้ารอบ 21 คน ที่ต้องเข้ามาฝึกอบรมทุกเย็นทุกช่อง อ่านข่าวทุกอย่างจนกระทั่งสอบใหญ่ที่ต้องอ่านสด อ่านข่าวใหญ่ ที่จะคัดเหลือ 10 คน ที่ได้ทำงานจริง ตอนนั้นซ้อมอ่านข่าวหนักมาก เราไม่ได้คาดหวัง แต่ก็อยากทำให้เต็มที่ ตั้งสมาธิไม่ให้พลาด เราต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด บทที่ได้มาเราจะซ้อมแล้วซ้อมอีก เพื่อให้พลาดน้อยที่สุด แล้วเราก็ได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ท่ามกลางเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันที่มีความสามารถและโปรไฟล์ที่ดีกว่า”

ฝึกอย่างไรให้เก่ง

ชัยอนันต์ แนะนำว่า “การฝึกเป็นผู้ประกาศข่าวที่ดีพื้นฐานต้องฝึกพูด ร.เรือ คำควบกล้ำให้ชัด ใหม่ๆ ผมจะมีปัญหาเรื่องการพูดคำเหล่านี้มากและพยายามซ้อมให้คล่อง เพราะเวลาพูดออกอากาศไปแล้ว ถ้าเราพูดผิด ก็จะถูกเรียกไปสอบถามว่าทำไมพูดผิด และให้ซ้อมพูดคำคำนั้นใหม่ให้ถูกต้อง เป็นมาตรฐานของช่องที่เข้มงวดอย่างมาก เพราะว่าภาษาไทยต้องใช้ให้ถูก ห้ามผิด ห้ามเพี้ยน ห้ามแปลง ห้ามเพิ่ม ทุกอย่างเราก็เลยต้องฝึก

ต่อมาก็คือ เราต้องทำความเข้าใจในข่าวให้มากที่สุด เนื้อหาเป็นอย่างไร ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ปกติแล้วเราจะใช้วิธีการดูคนอื่นว่าเขามีเทคนิคการพูดการนำเสนออย่างไร และเอามาปรับใช้กับตัวเอง หรือบางคนบกพร่องอย่างไร เราก็ดูไว้เตือนตัวเองว่าพยายามอย่าให้พลาดเหมือนเขา หรือหาทางแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเตรียมไว้อย่างไร

 

เพราะสถานการณ์เฉพาะหน้าฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างครั้งหนึ่งที่ผมต้องอ่านข่าวสั้นตอนเย็น ที่อ่านเพียงแค่ 5 นาทีช่วงเบรก เราก็ซ้อมอ่านข่าวที่เตรียมไว้ แต่ปรากฏว่าผู้กำกับรายการข่าวเอาข่าวมาให้ปึกใหญ่ เพราะรายการถัดไปไม่ได้เตรียมเทปไว้เลย ทำให้เราต้องอ่านข่าวคนเดียวทั้งหมด โดยที่เราไม่ได้ซ้อมอ่านข่าวนั้นมาก่อนเลย สิ่งที่ทำตอนนั้นก็คือ ตั้งสติ แยกประสาทส่วนหนึ่งอ่านข่าวแบบค่อยๆ อ่านไปช้าๆ ให้พลาดน้อยที่สุด อีกประสาทก็ค่อยฟังว่าเขาให้อ่านข่าวไหนก่อนหลัง เพราะเทปยังตัดต่อไม่เสร็จ ก็ค่อยๆ ประคับประคองไปตลอดรอดฝั่ง

บางเหตุการณ์ที่เรารายงานสถานการณ์ฉุกเฉินต้องรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ต้องอัพเดท รายงานข่าวไป หูฟังตัวเลขล่าสุดไป มือจดไป ก็ไม่รู้ว่าแยกประสาทสัมผัสได้อย่างไร แต่ยอมรับว่าก็ทุลักทุเลพอสมควร ดังนั้นเวลาที่เราเห็นผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวติดขัดไปบ้างก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะหูจะคอยฟังอยู่ว่าต้องอ่านข่าวไหนต่อไป หรือทำอะไรต่อ”

ความยากแต่ท้าทายของต้นกล้า

หลังจากที่ต้นกล้าเข้ามาเป็นนักข่าวและผู้ประกาศข่าวอย่างเต็มตัว เขาบอกว่างานแรกของการรายงานข่าวก็คือ การที่ต้องรายงานข่าวท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง ต้องไปอยู่ในม็อบกินอยู่หลับนอนกับม็อบ ผู้ประกาศข่าวหนุ่ม เล่าต่อว่า ตอนที่รายงานความขัดแย้งเป็นการยากที่จะรายงานถูกใจคนทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ทำได้ก็คือ ต้องรายงานโดยไม่ชักจูง ไม่บอกจำนวน และรายงานตามความเป็นจริง มีบ้างที่ผู้ชุมนุมเดินมาต่อว่า แต่ก็ต้องใจเย็นและพยายามรายงานข่าวไปตามความจริงให้ดีที่สุด แม้เป็นงานยากแต่ก็ท้าทายและฝึกความสามารถได้ดี

พอจบม็อบก็ต้องไปช่วยรายงานข่าวน้ำท่วมบนเฮลิคอปเตอร์ ผู้ใหญ่ก็บอกว่ารายงานใช้ได้ ไม่มีน้ำเสียงตื่นเต้นเลย เราก็เลยได้รายงานในส่วนของเหยี่ยวข่าวเจ็ดสีตั้งแต่ตอนนั้นมา “สิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดอย่างหนึ่งก็คือ ผมจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และหาข่าวในมุมมองใหม่ๆ ที่ท้าทายกว่าเดิม”