เรือนไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านแห่งความผูกพัน

โดย...ปอย ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

เรือนไทยโบราณสร้างเป็นเรือนหมู่ เรือนหลายหลังปลูกอยู่ในที่เดียวกัน มีพื้นที่ซึ่งเรียกว่า “หอกลาง” ไว้สำหรับนั่งเล่น เจ้าของบ้าน “แพท” ชนม์นิภา สังขทัต ณ อยุธยา ผู้บริหาร บริษัท ปริ๊นเซส โซไซตี้ ผู้นำเข้าสเปรย์น้ำแร่ OGUMA AquaKey ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ายอดขายอันดับ 1 จากไต้หวัน บอกว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ของบ้านเรือนไทย 5 หมู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านบางกรวย เมืองนนทบุรี แห่งนี้

เรือนไทยเปิดชานโล่งกว้างขวาง สำหรับส่วนที่อาศัยพักผ่อนนอนหลับก็มีฝากั้นเป็นห้อง อีก 34 ห้อง รูปแบบของเรือนไทยโบราณมีการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยภายนอกให้มีปริมาณมากกว่าห้องนอน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว เจ้าของบ้านสาวสวยบุคลิกเปรี้ยวเฉี่ยวทันสมัยพาคนมาเยือนเดินดูบ้านไม้สักทอง แล้วอธิบาย ก็คงเพราะบ้านเราดินฟ้าอากาศร้อนอบอ้าว แปลนบ้านไทยจึงเปิดโล่งรับลมแม่น้ำในรูปแบบนี้

 

“แพทคบหากับแฟนตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ สิบกว่าปีก่อนแต่งงานค่ะ สมัยก่อนกลับจากมหาวิทยาลัยก็นั่งเรือมากินข้าวกับครอบครัวเขาแทบวันทุก เป็นการเดินทางที่แม้ว่าบ้านอยู่ไกลนะคะ แต่ไม่ลำบากเลยค่ะ พอแพทแต่งงานจึงตัดสินใจอยู่ที่นี่เป็นเรือนหอก่อนที่จะแยกไปสร้างบ้านของตัวเองที่พุทธมณฑล ซึ่งบ้านก็เหลือเพียงการตกแต่งภายใน แต่แพทก็ยังรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้ อาทิตย์หนึ่งยังเลือกอยู่ที่นี่กัน 34 วัน เพราะคุณแม่สามีก็ยังอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ

คนเคยอยู่ริมแม่น้ำมาเป็นสิบปี ยอมรับค่ะว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน น้ำไม่สะอาดเหมือนสมัยก่อนทั้งที่แม่น้ำไหลแรงมากนะคะ แต่บางวันก็ยังมีกลิ่น แต่แพทก็ยังชอบแม่น้ำมีเทอเรสไว้นั่งเล่น มีศาลาท่าน้ำที่สร้างมาพร้อมๆ กับบ้านหลังนี้อายุ 50 กว่าปีแล้วนะคะ ตั้งแต่รุ่นคุณตาและเป็นมรดกมาถึงรุ่นคุณแม่ ใกล้ๆ กันก็เป็นบ้านของคุณลุงตามแบบสมัยก่อนที่ญาติพี่น้องต้องอาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

 

งานของแพทที่จริงก็ต้องอยู่ใจกลางเมือง แต่ความที่เราชอบติดธรรมชาติ แม่น้ำ ต้นไม้ บ้านหลังที่สองก็ยังขอไปอยู่ชานเมืองเลยค่ะ แล้วหลายๆ คนเพื่อนๆ ที่มาค้างที่นี่ก็เคยบอกนะคะว่าบ้านเรือนไทยตอนกลางคืนใครเดินแผ่นไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าด ฟังดูน่ากลัว แพทก็บอกว่าถ้าคิดอย่างนั้นก็ใช่ เพราะบ้านหลังนี้สร้างมาตั้งแต่รุ่นคุณตา แล้วตามธรรมเนียมคนไทยโบราณจะนำศพไว้ที่บ้านด้วยนะคะ (ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ) คือถ้าไม่มีความรู้สึกผูกพันก็น่ากลัวอย่างแน่นอน แต่อย่างที่บอกแพทรู้สึกว่านี่คือบ้านที่เราเห็น เรามานอนเล่นตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย จึงไม่กลัว แต่รู้สึกว่าเป็นความผูกพันมากกว่าค่ะ” ชนม์นิภา บอกพร้อมพาเดินชมบ้าน

บ้านหลังคาทรงจั่วสูงชายคายื่นยาวทำให้ดูเย็นสบาย คือเรือนที่ฝาทำจากไม้สัก มีไม้ลูกตั้งและลูกนอน และมีแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท ชนม์นิภาบอกตอนเย็นชอบมานั่งศาลาท่าน้ำรับลม บ้านไทยโบราณดูแตกต่างจากบุคลิกเจ้าของบ้านเปรี้ยวเฉี่ยว ยิ่งหน้าบ้านเจ้าของบ้านสร้างสระว่ายน้ำสีฟ้าตัดกับสีไม้สักทอง และเรือนบริเวณกลางบ้านก็มีห้องสนุกเกอร์ไว้เล่นแก้เหงา

 

“ลานกลางบ้านโล่ง กว้างขวาง ใช้เป็นที่จัดปาร์ตี้ได้สบายนะคะ สมัยก่อนคุณแม่เล่าให้ฟังว่าลูกๆ หลานๆ เล็กก็วิ่งเล่นกันตรงนี้แหละค่ะ เรียกว่าเลี้ยงเด็กกันตรงนี้ หรือกิจกรรมต่างๆ ช่วงปีใหม่หรือช่วงสงกรานต์ก็เลี้ยงอาหารกันตรงนี้ เรือนไทยหลังนี้ผูกเรือนแบบโบราณ ซึ่งมีคนเคยมาขอซื้อราว 80 ล้านบาท แต่ด้วยความผูกพัน ครอบครัวเราไม่ได้ขายค่ะ ตระกูลทางคุณแม่สามีของแพทนามสกุล บางกรวย เป็นคนพื้นที่ตัวจริงเสียงจริงเลยค่ะ ทุกคนรักที่นี่ แล้วทั้งๆ ที่ความเปลี่ยนแปลงเข้ามาเยอะมาก เมื่อก่อนตอนเย็นๆ กระโดดน้ำเล่นกัน แต่ตอนนี้ให้เล่นไม่มีกล้าเล่นน้ำแน่นอนค่ะ (หัวเราะ) ความเปลี่ยนแปลงมาพร้อมถนนที่ตัดเข้ามานะคะ แต่แพทกับครอบครัวสามีก็เลือกอาศัยอยู่ที่นี่เพราะบ้านหลังนี้คือความทรงจำของเราจริงๆ ค่ะ” ชนม์นิภา บอกพร้อมรอยยิ้ม

“อยู่ริมแม่น้ำมาเป็นสิบปี ยอมรับค่ะว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน น้ำไม่สะอาดเหมือนสมัยก่อน ทั้งที่แม่น้ำไหลแรงมากนะคะ แต่บางวันก็ยังมีกลิ่น แต่แพทก็ยังชอบแม่น้ำมีเทอเรสไว้นั่งเล่น มีศาลาท่าน้ำที่สร้างมาพร้อมๆ กับบ้านหลังนี้อายุ 50 กว่าปีแล้วนะคะ ตั้งแต่รุ่นคุณตาและเป็นมรดกมาถึงรุ่นคุณแม่ ใกล้ๆ กันก็เป็นบ้านของคุณลุงตามแบบสมัยก่อนที่ญาติพี่น้องต้องอาศัยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน”