posttoday

Vintage Bake Shop ตอน 1 Upside Down Cake

23 กุมภาพันธ์ 2557

โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ / ภาพ : Cookool Studio

โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ / ภาพ : Cookool Studio

บางครั้งการย้อนคืนเวลาด้วยของโบราณๆ บรรยากาศดั้งเดิม สนิมเหล็ก เสี้ยนไม้เก่า สีถลอกๆ จานชามกระเบื้องสีสัน “มอๆ” กลับทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจในบรรยากาศเสมือนไม่ปรุงเเต่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ

อาจเป็นเพราะด้วย “วัย” จึงมองว่าของเก่ากลายเป็นสิ่งที่น่ารักษาไว้ ของใช้ที่ผ่านการใช้งานมาจริงๆ ดูสวยด้วยอายุการใช้ คุณค่าของมันอยู่ที่เวลาที่ครอบครอง กลายเป็นความผูกผัน น่าเก็บรักษาไว้ไปได้เสียนี่....มิน่าเล่าคนถึงนิยมเก็บของเก่า เเละในที่สุด บรรยากาศที่เราเรียกว่า Vintage นั้น กลับกลายมาเป็นที่นิยมในปัจจุบันเรื่อยไปหมด ทั้งการตกเเต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ สิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงอาหารด้วย

Home Cuisine ฉบับนี้ จึงอยากเริ่ม “ซีรีส์” เค้กโบราณ ที่คุณผู้อ่านอาจไม่เคยชิม ยิ่งถ้าอายุยังไม่เข้า 30 อาจไม่เคยสัมผัสรสชาติเค้กพวกนี้มาก่อนเลยก็เป็นได้ หากอายุเลยเลข 3 คุณอาจได้ชิมเค้กหรือเห็นเค้กในรูปเเบบที่จะนำเสนอนี้มาบ้างหรือคุ้นตา

ในตอน Vintage Bake Shop นี้ ถือเป็นการรวบรวมสูตรเค้กโบราณที่นิยมปรุงกันในอเมริกาเป็นหลัก อย่างเค้กชนิดเเรก Pineapple Upside Down อาจย้อนไปได้ถึง 80 ปีที่เเล้ว ที่เริ่มมีการพูดถึงเค้กชนิดนี้ในหน้าสิ่งพิมพ์ครั้งเเรกในปี 1930 โดยข้อมูลนี้มาจาก The American Dictionary of Food and Drink รวมทั้งมีข้อมูลว่าเครื่องปอกสับปะรดเเบบเเว่นนี้คิดค้นขึ้นมาในปี 1911 จึงเป็นข้อมูลยืนยันได้ว่าเค้กชนิดนี้มีประวัติเริ่มต้นมาในราวช่วงเวลานั้นพอดี

ชื่อ “อัพไซด์ดาวน์” นั้น มาจากการเสิร์ฟด้วยการคว่ำเค้ก เอาด้านที่อยู่ก้นพิมพ์นั้นหงายขึ้นมาเสิร์ฟ ด้วยเพราะมีสับปะรดอิ่มไปด้วยซอสบัตเตอร์สกอตช์ เริ่มเเรกเดิมทีนั้นเค้กชนิดนี้ทำในกระทะเหล็ก Cast Iron จากนั้นจึงคว่ำเสิร์ฟ

เนื้อเค้กอัพไซด์ดาวน์นิยมใช้เป็นเค้กเนย เพราะเข้มข้นเข้ากับรสชาติอันหนักหน่วงของสับปะรดอบในบัตเตอร์สกอตช์ ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างน้ำตาลทรายเเดงเเละเนย ในสูตรอาจมีน้ำเชื่อมข้าวโพดมาช่วยให้หวานน้อยลงเเละมีความเป็นของเหลวมากขึ้น ผลไม้ที่นิยมที่สุดเห็นจะเป็นสับปะรด จากในช่วงปี 1800-1900 สับปะรดถือเป็นของหรูหราที่หายาก บ้านไหนได้กินถือว่าเป็นชนชั้นสูง เพราะต้องนำเข้ามาจากฮาวายหรือแอฟริกา ถัดมาจึงมีลักษณะกระป๋องขายในต้นปี 1900 ขนมเค้กที่ทำจากสับปะรดจึงถือเป็นขนมหรูหราในเหล่า Plantation ต่างในอเมริกา

เอกลักษณ์สำคัญต้องมีสับปะรดเป็นวงเเหวน ที่นิยมใช้เป็นสับปะรดกระป๋องเนื่องจากควบคุมรสชาติได้ง่าย ตกเเต่งรูวงเเหวนด้วยเชอร์รี Maraschino เชื่อมสีเเดงเเจ๊ด นี่เเหละ “ความเก๋า” ที่ต้องมีให้เห็น

เคล็ดลับในการผสมเค้กอธิบายไว้หมดในวิธีการเตรียม สังเกตได้ว่าวิธีผสมเค้กพิลึกจากขั้นตอนที่เรียกว่า TwoStage Method เพราะความเข้มข้นของเค้กเนยชนิดนี้ ทำให้ได้รสนุ่มหอมเนยเเบบไม่ต้องอาศัยสิ่งปรุงเเต่งอื่นใด ใน Facebook ของ Cookool Studio จะมีรูปภาพขั้นตอนคร่าวๆ ไว้ให้มือใหม่ได้สังเกต ลองติดตามกันได้

Vintage Bake Shop ตอน 1 Upside Down Cake

 

Vintagen Pineapple Upside Down Cake

สูตรนี้ผู้เขียนได้มาจากเชฟ Jeanne สมัยเรียนหนังสืออยู่ เชฟเป็นคนน่ารักกุ๊กกิ๊ก สื่อออกมาในสูตรคือ ยังมีการเติม “a pinch” หรือหยิบมือเล็กๆ ลงในสูตรเสมอเลย เราคนไทยอาจใช้คำว่าปลายก้อยได้ เค้กเนยสูตรนี้มีวิธีทำที่ออกจะเเปลกสักหน่อย เรียกว่า 2stage method รับรองว่าถ้าทำตามทุกขั้นตอนออกมาอร่อยเเน่นอน

สำหรับซอสบัตเตอร์สกอตช์เเละสับปะรด

น้ำตาลทรายแดง 3 ใน 4 ถ้วย

เนยจืด 3 ออนซ์

น้ำเชื่อมข้าวโพด (Corn Syrup เเบบ Light) 1 ออนซ์

เกลือ ปลายก้อย

สับปะรดกระป๋อง 7 เเว่น

เชอร์รีเชื่อมสีเเดง 7 ลูก

ละลายเนยจืดด้วยไฟอ่อนๆ เติมน้ำตาลทรายเเดงลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำเชื่อมข้าวโพด

ทาเนยจืดให้ทั่วพิมพ์กลมขนาด 8 นิ้ว ร่อนเเป้งอเนกประสงค์บางๆ เคาะออก เทซอสลงไปก้นพิมพ์ พยายามอย่าให้เลอะขอบที่ร่อนเเป้งไว้ เรียงสับปะรดเเละเชอร์รีเชื่อม

สำหรับเนื้อเค้ก

เเป้งเค้ก 8 ออนซ์

น้ำตาลทรายขาว 8 ออนซ์

ผงฟู 1 ช้อนชา เเละอีกปลายก้อย

ผงเบกกิ้งโซดา 1 ส่วน 4 ช้อนชา เเละอีกปลายก้อย

เกลือ 1 ส่วน 4 ช้อนชา เเละอีกปลายก้อย

เนยจืด 6.75 ออนซ์

ซาวครีม ส่วนที่ 1 4 ออนซ์

ไข่เเดง 3 ออนซ์ (ประมาณ 4 ฟอง)

ซาวครีม ส่วนที่ 2 2 ออนซ์

วานิลลา 1.5 ช้อนชา

ในโถผสม เเนะนำเป็นหัวตีรูปใบไม้ เติมของเเห้งทั้งหมดลงไปตั้งเเต่เเป้ง น้ำตาล ผงฟูเบกกิ้งโซดาเเละเกลือ ผสมที่ความเร็วต่ำให้ของเเห้งเข้ากันประมาณ 2 นาที

เติมเนยจืดที่นุ่ม บี้ได้ ลงไปทีละก้อนขนาดเต๋า 1 นิ้วจนหมด เติมซาวครีมลงไป ผสมที่ความเร็วกลาง จนได้ลักษณะคล้ายๆ ครีมชีส ประมาณ 5 นาที (ห้ามน้อยกว่า 5 นาที เเต่ไม่ควรนานเกิน 8 นาที)

ผสมซาวครีมส่วนที่ 2 ไข่เเดงเเละวานิลลาเข้าด้วยกัน เติมลงในส่วนผสม ผสมต่อไปที่ความเร็วกลางอีก 3 นาที ส่วนผสมจะเนียนสวยเป็นสีครีม

เทลงในพิมพ์ที่มีสับปะรดอยู่ด้านล่าง นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศา ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือบวกไปอีกไม่เกิน 1015 นาที หรือจนทดสอบด้วยไม้เสียบลูกชิ้น จิ้มตรงกึ่งกลางขึ้นมาเเล้วไม่มีเศษเค้กติด เเละสังเกตว่าด้านข้างพิมพ์เริ่มเห็นเนื้อเค้กดึงตัวออกมา นำออกจากเตาอบ พักไว้บนตะเเกรงประมาณ 10 นาที

เวลานำออกจากพิมพ์ ใช้มีดปลายเเหลมเเซะรอบๆ พิมพ์ นำจานเสิร์ฟมาคว่ำลงบนปากพิมพ์ เเล้วใส่ถุงมือกันความร้อน จับพิมพ์คว่ำในขณะที่ยังร้อนๆ อยู่ลงบนจานเสิร์ฟ (หากรอนานเกินไปซอสก้นพิมพ์จะเเข็งตัวเเละทำให้เอาออกจากพิมพ์ยาก เเก้ได้โดยอุ่นเหนือไฟอ่อนๆ สักครู่)

เเนะนำให้เสิร์ฟอุ่นๆ พร้อมวิปป์ครีมหรือไอศกรีมวานิลลาก็ได้ ตามชอบ

หากยังฉ่ำไม่พอ Cookool ขอเเนะนำซอสบัตเตอร์สกอตช์ โดยผสมเนยจืด 1 ส่วน 4 ถ้วย กับเเป้งอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะให้เข้ากัน จากนั้นผสมกับน้ำตาลทรายเเดง 1 ใน 3 ถ้วย เเละน้ำสับปะรด 3 ช้อนโต๊ะ เคี่ยวให้เดือดเบาๆ พร้อมเสิร์ฟเป็นซอสคู่กับเค้กได้เลย

ข่าวล่าสุด

BOJ ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย! SET แกว่งตัว เน้นย่อสะสมหุ้นกำไรเด่น