posttoday

อาชีพทางเลือก

22 กุมภาพันธ์ 2557

กัปตันเรือ : ศุภชัย ปัณฑะโชติ

กัปตันเรือ : ศุภชัย ปัณฑะโชติ

เรียนจบจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จ.สมุทรปราการ ลงเรือครั้งแรกเมื่อ 8 ปีก่อน ปัจจุบันเลิกลงเรือมาได้ 2 ปีแล้ว เพื่อทำงานในโรงเรียนการเดินเรือเคมสตาร์ ในตำแหน่งเทรนนิ่ง แมนเนเจอร์

“การทำงานบนเรือไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อยากให้นึกภาพสนามฟุตบอล 3 สนาม 2 สนามครึ่งเป็นที่ระวางสินค้า ที่เหลือเป็นที่พัก มีทั้งห้องนอน ห้องครัว โต๊ะปิงปอง ห้องเล่นเกม ห้องดูหนัง ถ้าเรือลำใหญ่มากก็มีสระว่ายน้ำ มีคนทำกับข้าวให้กิน ทำงานเป็นเวลา เพียงแค่เราไม่ได้อยู่บนบกเท่านั้น ทุกอย่างมีระบบ คนเรือสมัยนี้ถูกกำหนด มีคุณสมบัติขั้นต่ำ อายุเท่าไหร่ ผ่านการฝึกอบรมอะไรมาบ้าง ข้อกำหนดค่อนข้างเยอะ จะมีที่น่ากลัวก็คือ โจรสลัด แต่ถ้าบนเรือจัดเวรยามดี เราก็สามารถป้องกันได้”

“งานนี้รายได้ดีอย่าง สามโอ (ผู้ช่วยต้นเรือ) ก็ได้ 6 หมื่นบาท คือ ตำแหน่งแรกสุดหลังจากเรียนจบ มีหน้าที่ดูแลอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งลำ ต้นหน 8 หมื่นบาท ต้นเรือ 1 แสนบาท ตำแหน่งกัปตัน 1.2 แสนบาท นี่คือต่ำสุดนะครับ แต่ต้องอดทนมากๆ เพราะลงเรือครั้งหนึ่ง 9 เดือน อาชีพนี้ต้องการพนักงานอีกเยอะ ปีหนึ่งรับเข้ามา 130 คน เหลือเรียนจริงไม่ถึง 80 คน เพราะฝึกหนักมาก ต้องให้เราพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ตรงนี้แหละจะรู้ว่าเราสามารถทนอยู่ได้ไหม”

ปัจจุบันมี 3 สถาบันที่รับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์คณิต เพื่อเข้าเรียนวิชาพาณิชยนาวี นั่นก็คือ ศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา และวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนการเดินเรืออีกหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตร 2 ปี และอีกหนทาง คือ ไต่เต้าตั้งแต่เป็นลูกเรือ คือ ทำตั้งแต่เคาะสนิม ทาสี ถือท้าย ฯลฯ เก็บประสบการณ์ให้ได้ 3 ปี แล้วมาเรียนต่อที่โรงเรียนการเดินเรือ ซึ่งมีหลายหลักสูตรทั้งระยะสั้นและยาว

นักออกแบบตัวอักษร : อนุทิน วงศ์สรรคกร

เรียนจบสาขากราฟฟิก ดีไซน์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยแพรตต์ นิวยอร์ก เจ้าของผลงานออกแบบตัวอักษรให้องค์กรใหญ่ๆ หลายแห่ง ผู้ออกแบบอักษร Helvetica เวอร์ชั่นภาษาไทย อาจารย์หลักสูตรนานาชาติด้านการออกแบบเพื่อการสื่อสาร คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ริเริ่มงานสัมมนาอักขรศิลป์นานาชาติกรุงเทพ

“หลักสำคัญของคนทำอาชีพนี้ คือ ต้องมีความรู้เรื่องสัดส่วนที่ดีจะได้คำนวณช่องไฟเวลาออกแบบตัวอักษรได้ ที่สำคัญต้องเป็นคนช่างสังเกต เห็นรายละเอียดยิบย่อยที่คนอื่นไม่เห็น สามารถลำดับความคิดในสมองแบบเลเยอร์ซ้อนเลเยอร์ได้ ยกตัวอย่าง ถ้าออกแบบตัวอักษร ก เราต้องคิดว่า ก ต้องมีลักษณะอย่างไรในบริบทต่างๆ เพราะ ก ไม่ได้อยู่หน้า น ตลอด บางครั้งก็อยู่หลัง หรือหน้าสระ เพราะฉะนั้น ต้องคิดในหลายมิติ เพราะตัวอักษรที่ออกแบบต้องไปอยู่ในหลายบริบท

งานออกแบบตัวอักษรให้องค์กรต่างๆ ธีมหลักๆ จะมาจากทางแบรนด์อยู่แล้ว เรามีหน้าที่ทำความเข้าใจกับแบรนด์ ซึ่งเปรียบเสมือนคนคนหนึ่งว่ามีหน้าตายังไง พูดด้วยน้ำเสียงอย่างไร มาสร้างสรรค์เป็นตัวอักษรที่สามารถพูดได้ตามที่แบรนด์นั้นๆ อยากบอกกับกลุ่มเป้าหมาย

เวลามีคนประดิษฐ์ตัวอักษร บางคนบอกรับไม่ได้ ทำไมตัวอักษรไม่มีหัว ทำไม ก เขียนหยักออก ไม่เป็นปากไก่ ผมว่าบริบทและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ย่อมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกวงการ เช่น ถามว่าคนไหนแต่งตัวเรียบร้อย คำจำกัดความของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หรือการนุ่งสไบ คือ มาตรฐานของความเรียบร้อยมั้ย คำตอบ คือ ไม่ (ในบริบทสังคมนี้)”

นักวิจารณ์อาหาร : เบญญาภา สวัสดิ์ชูโต

นิสัยส่วนตัวมีความสุขกับการชิมมาตั้งแต่เด็ก หลังเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปเรียนต่อทางด้าน Food Cultures and Communications ที่ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ แกสโตรโนมิค ซายน์ส อิตาลี

“สอนทั้งเรื่องประวัติของอาหาร วัตถุดิบ เทสติ้ง ได้ชิมอาหารเยอะมาก ทุกเดือนต้องเดินทางหนึ่งอาทิตย์ไปตามเมืองต่างๆ ของอิตาลี ไปดูอาหารประจำภูมิภาค ไปดูการผลิต เพราะพวกนี้มีผลต่อรสชาติอาหารอาหารฝรั่ง สำคัญเลยจะอร่อยไม่อร่อยอยู่ที่วัตถุดิบ”

กลับบ้านมาทำงานนักวิจารณ์อาหาร (Food Critic) และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร (Food Expert) ทั้งยังเปิดบริษัท “Fove Food Tour” ทัวร์ตะลอนชิมในต่างประเทศ (Food Tourism Business)

“เวลาเราวิจารณ์เรื่องรสชาติอาหาร จะบอกก่อนเสมอว่า ขึ้นอยู่ที่รสนิยมกับความเคยชิ้นว่าเติบโตมาแบบไหน อย่างเราชินกับอาหารฝรั่งมาแต่เด็ก ชอบรสเค็ม ก็จะมีการพูดถึงรสนิยมของตัวเองในเวลาวิจารณ์ร้าน และในการเขียนข้อความหรือรีวิวร้านอาหารแต่ละร้าน จะแทรกความรู้ให้คนตัดสินใจว่าดีไม่ดี อย่างไปกินสเต๊ก ก็ให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้อตั้งแต่การเลี้ยง การขนส่ง การจัดเก็บ เนื้อแบบนี้ควรคุกกิ้งแบบไหน คือ จะลงไปลึกถึงรายละเอียด จะไม่บอกแค่อร่อยไม่อร่อย เพราะเรื่องรสชาติอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน”

อาชีพนักชิมในประเทศไทย เบญญาภา บอกว่า ยังไม่เปิดกว้าง “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เมืองไทยจะเป็นนักชิม ที่คนจะจ่ายเงินให้เราไปร้านเขา แล้วถ้าเขาจ้างเราไปทำ เราก็จะเกิดความเกรงใจ ไม่อร่อยก็ต้องเขียนโพสิทีฟ เพราะเราได้เงินไง ถ้าเราเขียนแย่ก็ไม่มีคนไปกินร้านเขา ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ก็เหมือนเราไปกินเองจ่ายเองสบายใจกว่า ได้วิจารณ์ได้แล้วนำมาเขียนลงในเว็บพันทิป ทำวิดีโอแนะนำลงยูทูบ”

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี