posttoday

“แผลเก่า” อมตะรักแห่งทุ่งบางกะปิ

01 ธันวาคม 2556

เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม หวนคิดคิดแล้วขมขื่น ฝืนใจเจียม”

โดย...โจลิฟวิ่ง

เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม หวนคิดคิดแล้วขมขื่น ฝืนใจเจียม” (คำร้องทำนอง“เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญของเรียม หวนคิดคิดแล้วขมขื่น ฝืนใจเจียม” (คำร้องทำนอง พรานบูรพ์)

ไม่ต้องเหลือทน ขมขื่น หรือทำตัวเจี๋ยมเจี๊ยมกันอยู่ไย รู้อะไรมั้ยเอ่ย “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” กำลังจะหวนคืนจอมาสร้างความสุขให้แก่คอภาพยนตร์อีกแล้วนะเออ

เย้!!! (ขอออกนอกหน้านิดหนึ่ง เพราะนี่คือหนึ่งผลงานที่เราเฝ้ารอ)

“ไอ้ขวัญกับอีเรียม” เวอร์ชั่นใหม่นี้ การันตีความน่าดูโดย “หม่อมน้อย” (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) แน่นอน แฟนภาพยนตร์คงอยากรู้ใจจะขาดรอนๆ ใครน้าจะมารับบทคู่พระนาง

แถ่น แถ้น หวยออกที่ “นิว” (ชัยพล พูพาร์ต) กับ “ใหม่” (ดาวิกา โฮร์เน่)

ไม่ (ขอ) พูดอะไรให้ยืดยาว (ขอ) ตั้งตารอชมดีกว่า (ครึครึ)

“แผลเก่า” อมตะรักแห่งทุ่งบางกะปิ

 

ถือเป็นครั้งที่ 8 ของการหยิบบทประพันธ์สุดคลาสสิก “แผลเก่า” จากปลายปากกา “ไม้ เมืองเดิม” มาปัดฝุ่นทำใหม่

7 ครั้งที่ผ่านมา เรื่องราวอมตะรักแห่งทุ่งบางกะปิ ถูกสร้างในรูปแบบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ นับแต่นวนิยายตีพิมพ์สู่สาธารณะ พ.ศ. 2479

พ.ศ. 2483 “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ เป็นภาพยนตร์ขาวดำ ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม. โดยบริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุง ได้คู่พระนาง “สมพงษ์ จันทร์ประภา” กับ “ส่งศรี จันทรประภา” ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครเอก พร้อมส่งเพลงประกอบ “ขวัญของเรียม” เปรี้ยงปร้างเป็นดาวค้างฟ้าจน ณ บัดนี้

“เรียมเหลือลืมแล้วนั่น ขวัญคงหงอย หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงาใจคอย

อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสายน้ำนอง คลองที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง

เมื่อเราสอง ต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น เช้าสาย บ่ายเย็น ขวัญลงเล่นกับเรียม”

6 ปีถัดมา “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” มีโอกาสหวนคืนจอเงินอีกครั้ง ก่อนจะกลายมาเป็นละครโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม พ.ศ. 2510 แจ้งเกิดคู่ขวัญ “กำธร สุวรรณปิยะศิริ” กับ “นันทวัน เมฆใหญ่”

เวอร์ชั่นที่ดังสุดๆ และน่าประทับใจ ทั้งยังทำให้ภาพ “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” ตราตรึงมิรู้คลาย เห็นจะเป็นงานชิ้นโบแดงของผู้กำกับชั้นครู “เชิด ทรงศรี” ที่แม้จะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ทว่า “ไอ้ขวัญ” รับบทโดย “สรพงศ์ ชาตรี” และ “อีเรียม” รับบทโดย “นันทนา เงากระจ่าง” ก็ไม่เคยจางหายไปจากวงการภาพยนตร์ไทย

“แผลเก่า” อมตะรักแห่งทุ่งบางกะปิ

 

ไม่พอภาพยนตร์ยังทำสถิติรายได้สูงสุดกว่า 13 ล้านบาท ปี 2520 นอกจากนี้ยังตอกย้ำความซาบซึ้งด้วยรางวัลกรังด์ปรีซ์งาน Festival des 3 Continents ณ เมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศสปี 2524

แต่ที่น่าปลื้มใจสุดๆ คือ “แผลเก่า” ได้รับเลือกจากหอภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งชาติอังกฤษ (National Film and Television Archive) ร่วมกับนิตยสาร Sight and Sound สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ (British Film Institute) ผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลก ยกย่องให้เป็น 1 ใน 360 ภาพยนตร์คลาสสิกของโลก ประกาศผลเมื่อเดือน ธ.ค. 2544

“แผลเก่าของคุณเชิดออกมาฉายในช่วงจังหวะที่พอเหมาะ พอดีคนไทยทั้งประเทศกำลังเหนื่อยหน่ายและยังคงขวัญผวากับเหตุการณ์สยองขวัญที่เพิ่งเกิดขึ้น แล้วคุณเชิดก็พาพวกเรากลับไปสู่สังคมชนบท ที่มีแต่ความสงบร่มรื่นในอดีต ชีวิตที่เรียบง่ายที่คนไทยกำลังใฝ่หา” นักวิจารณ์ภาพยนตร์รุ่นเก๋า “กิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน” พูดถึงผลงานอมตะเรื่องนี้

ห่างกัน 11 ปีเต็ม “แผลเก่า” ก็ได้กลับมาโลดแล่นบนจอแก้ว เมื่อวิกหมอชิตมอบหมายให้ค่ายดาราวิด ีโอ ชุบชีวิต “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” ขึ้นอีกรอบ มี “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” กับ “ชุติมา นัยนา” แสดงนำ โดยฝ่ายชายครองรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักแสดงนำชายดีเด่น

อีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ พ.ศ. 2544 แต่ครานี้ผู้กำกับ “สุทธากร สันติธวัช” นำชื่อตัวละคร “ขวัญเรียม” มาตั้งเป็นชื่อภาพยนตร์ ส่วนคู่พระนางรับบทโดย “นินนาท สินไชย” กับ “ภัครมัย โปรตระนันท์” ซึ่งผลลัพธ์หลังภาพยนตร์เข้าฉาย ผู้ชมแยกเป็น 2 ข้างอย่างเห็นได้ชัด คนชอบก็ชอบมาก คนไม่ชอบก็เกลียดไปเลย

แค่ปีเดียว “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” ก็มาโผล่ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครโทรทัศน์ที่โดนผู้ชมวิจารณ์แหลกเหลว ด้วยลุคของนักแสดงนำ “ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” กับ “เข็มอัปสร สิริสุขะ” ที่ดูไม่เหมาะสักนิดกับการมาเป็นหนุ่มบ้านนาสาวบ้านทุ่งแห่งบางกะปิ

ถึงอย่างนั้น ด้วยเนื้อหาอันเข้มข้น ดราม่ากระชากใจ สะท้อนโศกนาฏกรรมรัก ก็ไม่แปลกหาก “แผลเก่า” และ “ไอ้ขวัญกับอีเรียม” จะยังคงความเป็นอมตะตลอดกาลและมีคนนำมารีเมกซ้ำแล้วซ้ำเล่า