น้อย วงพรู กฤษดา สุโกศล กับชีวิตในธุรกิจโรงแรม
หากเอ่ยถึงชื่อของ “น้อย วงพรู” หลายคนคงรู้จักในฐานะของศิลปินอัลเทอร์เนทีฟที่โด่งดังเปรี้ยงปร้างในยุคหลายปีก่อน
หากเอ่ยถึงชื่อของ “น้อย วงพรู” หลายคนคงรู้จักในฐานะของศิลปินอัลเทอร์เนทีฟที่โด่งดังเปรี้ยงปร้างในยุคหลายปีก่อน แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาน้อยเริ่มห่างหายจากวงการบันเทิงไปทีละเล็กน้อย เพราะเขาต้องการมารับภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกว่าควรทำ นั่นก็คือ การกลับมาช่วยกิจการโรงแรมของที่บ้านนั่นเอง
น้อย วงพรู หรือกฤษดา สุโกศล แคลปป์ บุตรชายคนเล็กของ กมลา สุโกศล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศล ตัดสินใจเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ตั้งแต่ปี 2549 จากเดิมที่ชีวิตของเขาเอาจริงเอาจังอยู่กับงานเพลงและการแสดงมาโดยตลอด ไม่เคยได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัวเลย สาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาช่วยงานครอบครัว เพราะเหตุผลสั้นๆ คือ ความรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่เคยมีส่วนได้ช่วยเหลืองานของครอบครัวเลยในช่วงก่อนหน้านั้น
การตัดสินใจกลับมาทำงานให้กับครอบครัวครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการบีบบังคับของคุณแม่ น้อยรู้ดีแก่ใจว่าในใจของแม่นั้น อยากให้น้อยเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจโรงแรมนานแล้ว เพียงแต่แม่ไม่อยากบังคับให้น้อยทำและก็สนับสนุนให้น้อยได้ทำในงานเพลง สิ่งที่น้อยรักอยู่ตลอดเวลา
วันหนึ่งคุณแม่มาคุยกับน้อยว่า มีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ซื้อเอาไว้นานมากแล้ว ที่ผ่านมาก็ให้คนอื่นเช่าที่ดินทำกิจการอื่นๆ อยู่ เลยขอร้องให้น้อยไปลองดูที่ดินแปลงนี้เผื่อจะคิดออกว่า จะทำอะไรกับที่ดินแปลงนี้ดี ซึ่งก็ทำให้น้อยสามารถต่อจิ๊กซอว์ในใจได้ครบว่าตัวเองจะเข้ามาช่วยเหลืองานครอบครัวส่วนไหนดี โครงการแรกของน้อยก็คือ การทำที่ดินผืนนี้ให้กลายเป็นโรงแรม
เขาตัดสินใจพักงานเพลงชั่วคราว เพื่อมาทุ่มเทให้กับงานโรงแรมแบบ 100% ด้วยเหตุผลว่า การสร้างโรงแรมสร้างได้ครั้งเดียวแล้วตั้งอยู่ตลอดไป ไม่ใช่การทำอัลบั้มเพลงที่อัลบั้มแรกออกมาแล้วไม่ดี ก็ทำอัลบั้มต่อไปแก้ตัวได้ ดังนั้นการสร้างโรงแรมจึงไม่สามารถทำผิดพลาดได้ จึงต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานโรงแรมแบบเต็มร้อย
จนกระทั่งวันนี้ผลงานชิ้นแรกที่ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของน้อย สำหรับก้าวแรกในธุรกิจครอบครัวก็สำเร็จเป็นรูปร่าง เปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อโรงแรมเดอะสยาม ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิตของน้อยที่ได้มีส่วนร่วมกับธุรกิจครอบครัว สามารถลบความรู้สึกผิดในใจที่มีอยู่ออกไปได้
ช่วงแรกของการเข้ามาช่วยเหลือธุรกิจครอบครัวนั้น เป็นสิ่งท้าทายสำหรับน้อยมาก เพราะการทำงานโรงแรมต่างจากงานแสดง หรืองานเพลงที่เคยทำมา ความรับผิดชอบที่มีต่างกัน การทำงานเพลงขอเพียงซ้อมให้ดี ขึ้นเวทีก็ร้องเพลงได้ ส่วนการแสดงหนังขอเพียงท่องบทให้ดีก่อนขึ้นแสดงเช่นกัน ทั้งสองงานนี้มีขั้นตอนการทำงานที่เขารู้แน่ชัดตั้งแต่เริ่มต้นและมีเวลาสิ้นสุดของงานที่ชัดเจน ขณะที่งานโรงแรมน้อยรับผิดชอบดูแลด้านการออกแบบโรงแรม มีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากกว่า ไม่สามารถรู้ขั้นตอนว่าจะเริ่มต้นตรงไหนและไปจบที่ไหน
อย่างไรก็ตาม น้อยก็ใช้ประสบการณ์จากงานเพลงและงานแสดงที่เคยทำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานโรงแรม เขามองว่าตัวเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจ เรื่องตัวเลข สิ่งที่เขาใช้เป็นแนวทางในการทำงานโรงแรมก็จะมองในมุมของศิลปินที่มีแนวคิดอยากจะสร้างโรงแรมให้เป็นโลกใหม่ สร้างจินตนาการที่มีอยู่ให้ออกมาเป็นความจริง
“ผมอยากทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ก็เป็นนักร้องอัลเทอร์เนทีฟ เป็นศิลปินอินดี้ พอมาทำงานโรงแรมก็เลยอยากทำโรงแรมให้เป็นอินดี้ โฮเทล คือเป็นโรงแรมที่มีบุคลิกชัดเจน ไม่เหมือนโรงแรมแห่งอื่น สร้างโรงแรมให้เป็นตัวของตัวเองที่สุด ที่จะหาโรงแรมแห่งอื่นมาเปรียบเทียบด้วยลำบาก”
สำหรับการออกแบบโรงแรมเดอะสยามนั้น น้อยระบุว่า เขาใช้แนวคิดการออกแบบไม่ต่างจากการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มองโรงแรมในมุมของการเล่าเรื่อง เริ่มจากความคิดว่า อยากให้คนที่เขามาเยี่ยมเยือนโรงแรมแห่งนี้ได้มาสัมผัสกับอะไร ซึ่งก็คือการให้คนที่มาเยือนรู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่อีกโล่งหนึ่ง สามารถสัมผัสกับบรรยากาศสมัยเก่าของไทย นำวัฒนธรรม เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 200 ปีที่แล้วในไทย มาถ่ายทอดผ่านสิ่งของที่จัดแสดงไว้ตามมุมต่างๆ ในโรงแรม
เมื่อใครได้เข้ามาแล้ว ก็อยากให้ได้รู้สึกลึกไปถึงจิตวิญญาณของคนไทยสมัยก่อน วิธีการของน้อยคือ การไปสรรหาของเก่าที่สามารถเล่าเรื่องราวของการใช้ชีวิตของคนไทยในอดีตมาตกแต่ง ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากของสะสมที่เขามีอยู่นั่นเอง เช่น ภาพถ่ายโบราณวิวกรุงเทพฯ สมัยก่อน หรือการสร้างห้องฉายหนังจำลองรูปแบบอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงหนังไทยสมัยก่อน เป็นต้น และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้บรรยากาศในโรงแรมเดอะสยามเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีบรรยากาศร่มรื่น
ที่สำคัญคือทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นมากกว่าโรงแรม เป็นสถานที่ที่ไม่ใช่แค่คนต่างชาติมาสัมผัสบรรยากาศ แต่ให้คนไทยอยากมาลองสัมผัสบรรยากาศด้วย มาเห็นเรื่องราวของไทยในสมัยเก่าผ่านสิ่งของสะสมเก่าๆ ที่ถูกนำมาใช้จัดแสดงและตกแต่งในโรงแรมแห่งนี้
ทุกครั้งที่มีใครเดินมาบอกว่า สร้างโรงแรมแห่งนี้ออกมาได้ดีและรู้สึกว่าดีที่กรุงเทพฯ มีโรงแรมแบบนี้อยู่ ก็ทำให้น้อยรู้สึกดีทุกครั้ง
จนถึงวันนี้น้อยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่เกิดมาในชีวิตได้ทำอะไรที่หลากหลาย ทั้งในบาทบาทของศิลปินนักร้อง นักแสดง และกับบทบาทล่าสุด ผู้รังสรรค์โรงแรมในเครือสุโกศล


