posttoday

เปิดเทคนิคนักรักบี้ วิทูวัฒน์ อังสนานนท์

07 กรกฎาคม 2556

“ไม่ว่าเราจะเล่นอะไรก็แล้วแต่สำคัญคือเราต้องกล้าที่จะเล่นไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ได้อะไรเลย” อาร์ตวิทูวัฒน์ อังสนานนท์ กัปตันทีมรักบี้ราชกรีฑา

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

“ไม่ว่าเราจะเล่นอะไรก็แล้วแต่สำคัญคือเราต้องกล้าที่จะเล่นไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ได้อะไรเลย” อาร์ตวิทูวัฒน์ อังสนานนท์ กัปตันทีมรักบี้ราชกรีฑา และผู้บริหารหนุ่ม บริษัท เอชทูโอ ไฮโดร เล่าถึงเทคนิคเล่นกีฬาส่วนตัวที่สามารถนำไปใช้ได้กับกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะกีฬารักบี้ ที่เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต หลังจากที่เขาเดินทางกลับมาทำงานที่เมืองไทยก่อนจะเป็นผู้บริหารบริษัทนำเข้าน้ำแร่แบรนด์สปริงเข้ามาในเมืองไทย

อาร์ต เล่าถึงการเล่นกีฬาของเขาว่าปกติแล้วเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาหลายๆ ประเภทมาตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่อเมริกา เริ่มตั้งแต่อายุ 10 ปีก็เริ่มเล่นกีฬาอย่างจริงจัง ด้วยการเข้าเบสบอลแคมป์ บาสเก็ตบอลแคมป์ และแคมป์กีฬาอื่นๆ ซึ่งทำให้เขาเริ่มรู้จักเล่นกีฬาหลายๆ ประเภทรวมทั้งการเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ที่อเมริกาจะมีแคมป์มีผู้ฝึกสอนกันแบบจริงจังมีโค้ชมาดูแววเด็กๆ และดึงเข้าร่วมทีม

จากนั้นอาร์ตก็เริ่มเล่นกล้ามมาตั้งแต่อายุ 12 ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของเด็กอเมริกัน แต่คนไทยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าการเล่นกล้ามตั้งแต่เด็กจะทำให้ตัวไม่สูงที่จริงแล้วไม่ใช่เลย ถ้าเล่นโดยที่มีคนสอนเรา เล่นอย่างถูกต้องจะช่วยเสริมร่างกายให้เติบโตอย่างรวดเร็วกว่าเดิม

สังเกตจากเด็กฝรั่งทุกคนที่เล่นกีฬาจะตัวสูงใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น เขาจะเล่นกันตั้งแต่เด็กๆ โดยมีการเล่นกล้ามเป็นพื้นฐานการเล่นกีฬาทุกประเภท ที่นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นกีฬาของอาร์ต ถ้าหากมีกีฬาอะไรใหม่ๆ เขาก็จะลองเล่นหมด บาสเกตบอล เบสบอล อเมริกันฟุตบอล ผมเล่นมาหมดแล้วรองลงมาอย่างมวยปล้ำผมก็เล่น

รักบี้ไม่แรงเท่าอเมริกันฟุตบอล

“จากประสบการณ์ที่เล่นกีฬามาทั้งหมด อเมริกันฟุตบอลเป็นกีฬาที่แท็กกันแรงที่สุดแล้ว เพราะไม่มีกฎการเข้าตายตัวเพื่อหยุดฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ทุกคนจึงใส่เกราะอัดกันเต็มที่ แต่รักบี้ที่ดูเหมือนจะรุนแรงเหมือนกันแต่ดูกันจริงๆ แล้วจะมีกฎการเข้าปะทะ และอีกอย่างหนึ่งก็คือรักบี้ไม่มีเกราะต่างฝ่ายต่างก็กลัวเจ็บเหมือนกัน ดังนั้นนักกีฬารักบี้จะเล่นแบบต่างฝ่ายต่างช่วยกันเซฟ ก็มีบ้างที่จะมีรอยข่วนรอยช้ำแต่ก็เป็นเรื่องปรกติของการเล่นกีฬาประเภทนี้” ผู้บริหารหนุ่มเล่าถึงความรุนแรงในการเล่นรักบี้ที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และอาร์ตก็เริ่มสนใจการเล่นรักบี้หลังจากกลับมาที่เมืองไทยและมองหากีฬามันๆ สักอย่าง ก็เห็นรักบี้นี่ละที่น่าสนใจและยังมีกลุ่มคนเล่นไม่มากนัก

ผลจากการเล่นรักบี้ทำให้เขาพบว่าการเล่นกีฬาไม่ได้ทำให้เราเติบโตทางร่างกายแต่ทำให้เราเติบโตทางสังคมอีกด้วย เมื่อครั้งที่เล่นกีฬาที่เมืองนอกก็ทำให้เขามีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ กลับมาที่เมืองไทยได้เล่นรักบี้ก็ทำให้เขามีเพื่อนที่เมืองไทยก็จากกีฬาอีก การเล่นกีฬาจึงเป็นอะไรที่ได้มากกว่าความฟิตของร่างกาย

ศึกษาให้ดีก่อนเล่น

สำหรับคนที่อยากจะมาเล่น อาร์ตแนะนำว่าให้ไปหากฎกติกามาอ่านก่อน หรือไปเปิดยูทูบศึกษาเกมการเล่น รวมทั้งวิธีการเล่นกล้ามหาอ่านหาดูมาให้หมด เริ่มฝึกตามคลิปวิดีโอเพราะการเล่นกล้ามจะช่วยทำให้เรามีกำลังและช่วยเซฟเราจากการปะทะกันในเกม เพราะอย่างน้อยๆ เราต้องมีเบสิกความรู้ และที่สำคัญที่สุดถ้าอยากเล่นเราไปติดต่อสโมสรไหนก็ได้ ทุกสโมสรเปิดรับหมด เพราะเป็นกีฬาที่คนเล่นน้อยเขาต้องการโปรโมตให้มีคนมาเล่นกันเยอะๆ และเขาก็หาคนเข้ามาฝึกมาเล่นด้วยกันอยู่

แต่ไม่ใช่ไปถึงแล้วจะเล่นได้เลย ต้องมีการเรียนรู้พื้นฐานการเล่น การฝึกร่างกาย การปรับตัวก่อนสักระยะก่อนที่จะปล่อยเข้าสู่สนามจริงๆ อย่างตัวของอาร์ตเองก็ต้องอ่านกฏกติกาและศึกษาวิธีการเล่นก่อนลงสนามจริงเหมือนกัน

ตัวไม่ใหญ่ก็เล่นได้

หลายคนมักคิดว่านักกีฬารักบี้ตัวต้องใหญ่ต้องล่ำ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น อาร์ตบอกว่าถ้าเราไปเทียบกับคนฝรั่งก็ถือว่าคนไทยตัวเล็กกว่ามาก แต่ความสูงเฉลี่ยของนักรักบี้ไทยจะอยู่ที่ 175 ซม. อย่างตัวอาร์ตเองก็สูงแค่ 182 ซม.สำหรับฝรั่งถือว่าเตี้ยแต่คนไทยถือว่าสูง แต่ประเด็นที่เรากำลังจะบอกคือเรื่องขนาดและความสูงไม่ใช้ประเด็นหลักที่ชี้ว่าเราจะเล่นรักบี้ได้หรือไม่ได้

“คนที่จะเล่นรักบี้อย่างน้อยๆ ต้องมีรูปร่างที่ไม่ผอมบางเกินไป และต้องเคยเล่นกีฬามีความแข็งแรงอยู่บ้าง เพราะการเล่นรักบี้ที่สำคัญคือความเร็ว แต่ถ้ามีแรงมีพลังเยอะก็ดี เพราะอาจจะมีการชน และอาจจะต้องลากในหลายๆ ครั้งด้วย ดังนั้นร่างกายต้องฟิตมีพลังมากๆ เพราะวิ่งไปพร้อมๆ กับการสปีด และยังต้องลากคนไปอีก นั่นก็คือเรากำลังเล่นกับการใช้พลังสูงๆ ซึ่งทำให้แรงลดลงมากกว่าการวิ่งตัวเปล่า ดังนั้นขนาดไม่จำเป็นต้องใหญ่มากก็ได้แต่ขอให้ร่างกายแข็งแรงก็พอ”

กัปตันทีมรักบี้ให้คำแนะนำสำหรับคนที่จะมาเล่นกีฬาชนิดนี้ ซึ่งทำให้เขาเป็นคนใจเย็นมากขึ้นจากตำแหน่งกัปตันทีมที่ได้รับ ต้องรู้จักการไกล่เกลี่ย มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้กระหายถึงชัยชนะ และยังทำแนวคิดนี้มาใช้ในการทำงานของเขาได้อีกด้วย.

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา