posttoday

ตำนานบทใหม่ ร็อด สจวร์ต

25 มิถุนายน 2556

Rod Stewart

Rod Stewart

Time (Universal Music***)

หนึ่งในศิลปินอังกฤษที่มีผลงานขายดีที่สุดตลอดกาล เคยถูกเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศดนตรีร็อก 2 ครั้ง ในฐานะศิลปินเดี่ยว และสมาชิกวงเดอะ เฟซเซส ชายผู้เวียนว่ายในวงการดนตรีมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 เรื่อยมาจนปัจจุบัน “ร็อด สจวร์ต” ย่อมเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “ตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่” ด้วยนักร้องนักแต่งเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยืนยงคงกระพันมาได้ขนาดนี้มีไม่มากมายนัก

อีก 2 ปี ปู่ร็อดก็จะได้ฉลองอายุเต็ม 70 ถึงจะอายุปูนนี้แล้ว แต่เวลาในวงการดนตรีของเขายังไม่หมดลง จะว่าไป ร็อด เป็นคนวัย 60 กว่าที่ยังคึกคักมีชีวิตชีวา อายุขนาดนี้ยังไปฝึกฟุตบอลแบบมืออาชีพ ยังมีความรักและผลิตทายาทตัวเล็กๆ ออกมาให้เลี้ยงดูตลอดๆ แต่ในฐานะศิลปินช่วงหลังๆ รู้สึกว่า เขาไม่ค่อยมีไฟในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ มากนัก จะว่าไปแล้วหลังจากกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เขาก็ดูจะแต่งเพลงน้อยลงๆ ผลงานที่ออกมาในระยะหลังมีแต่เพลงคัฟเวอร์พวก American Songbook หรือเพลงคริสต์มาสเป็นส่วนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถในการแต่งเพลงได้ดี

ร็อด เป็นนักแต่งเพลงที่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวมาเขียนได้อย่างน่าทึ่ง บทเพลงจากฝีมือการแต่งของเขาซึ่งอยู่ในความทรงจำของผู้คนเสมอมาอย่าง Tonight’s The Night, You Wear It Well, You’re In My Heart, The Killing of Georgie, Maggie May ฯลฯ ล้วนเป็นเพลงเล่าเรื่องเพลง และเรื่องที่เขาเล่าบ่อยๆ และเล่าได้ดีคือ เรื่องราวของความรัก เขาถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ บทเพลงของเขามักเจือด้วยความอบอุ่น สบาย สนุกสนาน อย่างที่สามารถสัมผัสได้ไม่ยาก

หลังจากรอคอยนานเป็น 20 ปี แฟนๆ ของ ร็อด สจวร์ต ก็มีเฮ เมื่อเขามีงานเพลงใหม่มาให้ได้ฟัง อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างกระทบใจทำให้ “โอลด์บอย” คนนี้หยิบกีตาร์ขึ้นมาเขียนเพลง เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตและปัจจุบันของตัวเอง เป็นเพลงป๊อปร็อกที่กรุ่นกำจายด้วยโฟล์ก ลายเซ็นของเขาในอัลบั้มนี้โดดเด่นมาก ซึ่งก็เป็นทั้งผลบวกและลบ

Time อัลบั้มใหม่ของ ร็อด สจวร์ต ขับเคลื่อนอย่างแพรวพราวด้วยเสียงแมนโดลิน ฟิดเดิล และกีตาร์ ตัวอย่างเด่นชัดคือ เพลงเปิดอัลบั้ม She Makes Me Happy เสียงปี่สกอตปรากฏใน Can’t Stop Me Now เพลง It’s Over สะท้อนแสดงถึงชีวิตการแต่งงานที่ชำรุด เรื่องราวของวันแห่งการเริ่มต้นและก่อสร้างความรักมีให้ฟังใน Brighton Beach ส่วน Beautiful Morning บริสุทธิ์สดใส มีเสียงร้องประสานและลีลาทำนองโซลป๊อปในแบบโมทาวน์

Live The Live มีเสียงแมนโดลินเคล้าคลอ เมโลดี้งดงาม พร้อมท่อนร้องที่ติดตรึงใจ “Live the life you love, and love the life you live.” ในเพลง Finest Woman ผสมผสานด้วยกลิ่นอายบลูส์ร็อกแบบย้อนยุค ในขณะที่ Time เป็นบัลลาดที่โดดเด่นด้วยเปียโนไฟฟ้า Sexual Religion เพลงมีเสน่ห์เย้ายวนคล้ายงานจากยุคดิสโก้ของ ร็อด สจวร์ต ความสามารถพิเศษของเขาในการเล่าเรื่องง่ายๆ แต่น่าสนใจเห็นชัดเจนใน Make Love To Me Tonight เรื่องราวอมตะของชายคนหนึ่งซึ่งมีปัญหาเรื่องงานแล้วต้องการพักผ่อนในอ้อมแขนของคนรัก ส่วน Pure Love เล่าเรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์ของคนเป็นพ่อที่จะกล่อมคนฟังให้หลับใหล นอกจากเพลงที่ร็อดแต่งเองแล้ว ในอัลบั้มยังมี Picture In A Frame เป็นการนำเนื้อเพลงของ ทอม เวตส์ มาตีความใหม่

Time เป็นอัลบั้มงดงาม ไพเราะตามสแตนดาร์ดที่คาดหวังได้จาก ร็อด สจวร์ต เราได้ยินเขาร้องเพลงอย่างจริงใจ สนุกสนาน และอบอุ่น ซาวด์ไม่ได้ทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่ แต่คงจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเก่าๆ ของศิลปินคนนี้ ซึ่งไม่ว่าจะมีข้อบกพร่องอย่างไร คนกลุ่มนี้ก็น่าจะยินดีที่ได้ฟังงานใหม่ๆ ในฐานะนักแต่งเพลงและนักร้องของชายคนนี้อีกครั้ง

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68