ชีวิต 300 บาท

โดย...เสน่ห์จันทน์

วันที่ 1 พ.ค.ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันแรงงานโลก วันนี้พวกเราชาวแรงงานคงได้หยุดพักผ่อนหาความบันเทิงให้กับชีวิต และได้มีเวลาหยุดใช้เงินค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่ได้รับต่อวัน

อ๊ะอ๊ะ!! แต่อย่าใช้เงินเพลินกันล่ะ เพราะ 300 บาทในยุคข้าวยากมะนาวแพง หยิบจับอะไรเป็นต้องสะดุ้งคำนวณหน้าคำนวณหลังกันให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นถึงสิ้นเดือนจะชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้หนี้ยืมสินมาจับจ่ายให้กลายเป็นชีวิตหนี้ไปเสียอีก

แต่อย่างไรก็ตาม ค่าแรง 300 บาทต่อวัน ถ้ามีการจัดการบริหารอย่างดี ก็มีเงินเก็บเหลือกินเหลือใช้ได้ ขอเพียงอย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าอายทำกิน

“วชิร คูณทวีเทพ” ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยถึงข้อมูลการสำรวจ “สถานภาพแรงงานไทย” ซึ่งได้สำรวจระหว่างวันที่ 1719 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า

“ค่าแรง 300 บาท ถามแรงงานเขาก็บอกยังไม่เหมาะสม เพราะแม้ค่าแรงจะสูงขึ้นแต่ก็มาพร้อมกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ราคาสินค้าก็สูงขึ้น ที่เราสำรวจล่าสุดว่า แรงงานค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมควรอยู่ที่ กว่า 385 บาทต่อวัน ยังพบอีกว่าแรงงานในปีนี้มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ทั้งๆ ที่ค่าแรงเพิ่มขึ้น เราสงสัยว่าทำไมพอสำรวจลงไปเรื่อยๆ พบว่า พอได้ค่าจ้าง 300 บาท ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น เขาก็ยังไม่พอกินพอใช้ ถึงต้องกู้และแรงงานไม่ได้เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่าย”

เมื่อถามว่ามีปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายหรือไม่ 62.8% ตอบว่ามีปัญหา โดย 74% ระบุว่าเป็นเพราะราคาสินค้าแพงขึ้น ขณะที่ 13% ระบุว่าเป็นเพราะดอกเบี้ยสูง และ 10.4% ระบุว่าเป็นเพราะรายได้ลดลง

บริหารดีมีเงินล้าน

“วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ” ที่ปรึกษาสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ที่ปรึกษาตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และเจ้าของผลงานเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเงินการลงทุนหลายเล่ม ซึ่งเล่มที่กำลังจะวางแผนคือ “เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างเริ่มต้นที่เงิน”

“ถ้ามีรายได้ 300 บาทต่อวัน เก็บออมไว้ก่อนเลย 30 บาท เอาค่าอาหารเป็นตัวปรับทีหลัง ถ้าค่าอย่างอื่นเยอะกว่าก็กินน้อยหน่อย เช่น ค่าที่พัก 75 บาท ค่ารถ 40 บาท ค่าน้ำค่าไฟกันไว้ 60 บาท เหลือเงิน 95 บาท เป็นค่าอาหาร 3 มื้อ ซึ่งตอนนี้ค่าอาหารแพงมาก ถ้ารับประทานตามศูนย์อาหารร้านค้าทั่วไปมื้อหนึ่งก็ 4050 บาท ถ้าสามารถทำอาหารรับประทานเองได้ก็จะลดเงินส่วนนี้ลงได้”

“เงินจะกินยังไม่มี จะเอาอะไรมาออม” จากประสบการณ์ของวิวรรณได้เจอวลีนี้บ่อยมาก จึงอยากจะแนะนำและให้กำลังใจว่า “สำคัญที่สุดต้องเชื่อในการออม งดใช้โทรศัพท์ให้น้อยลง เลิกส่งเอสเอ็มเอสเข้าไปในรายการ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ก็กลายมาเป็นเงินออมได้แล้ว การเก็บเงินมาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองไม่เห็น ลืมใส่ใจ”

ล้อมกรอบ หรือปูพื้นให้สีแตกต่าง

คนที่มีรายได้ 300 บาทต่อวัน หากออมเงินวันละ 30 บาท หรือ 10% เมื่อครบ 1 เดือน หรือ 26 วันทำงาน จะได้ 780 บาท หากนำไปฝากหรือลงทุนได้ผลตอบแทนในระดับต่างๆ จะเป็นดังนี้ (หากฝากธนาคาร แนะนำให้ฝากเดือนละเท่าๆ กันแบบต่อเนื่อง 24 เดือน อาจจะเรียกว่าเงินฝากทวีทรัพย์ หรือเงินฝากสินมัธยะ จะได้ดอกเบี้ยพิเศษและไม่ต้องเสียภาษี)

ออม 30 ปี

ได้ผลตอบแทนสุทธิ 3% ต่อปี ครบปีที่ 30 จะมีเงิน 454,534 บาท

ได้ผลตอบแทนสุทธิ 5% ต่อปี ครบปีที่ 30 จะมีเงิน 649,161 บาท

ได้ผลตอบแทนสุทธิ 7.5% ต่อปี ครบปีที่ 30 จะมีเงิน 1,051,007 บาท

เห็นไหมคะว่า เก็บเงินวันละ 30 บาท ทุกคนก็มีสิทธิเป็นเจ้าของเงินล้านได้ทั้งนั้น สุภาษิตที่ว่า “ขยันทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา” จึงใช้ได้ตลอด

หาเงินอย่าลืมสุขภาพ

คนหาเช้ากินค่ำมักจะลืมใส่ใจสุขภาพ เพราะเวลาแต่ละวันต้องมุ่งทำงานเพื่อให้ได้เงินมา แต่อย่างไรก็ตามหากเรามีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน

“อุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง” ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกสิกรไทย ได้แนะนำสำหรับแรงงานที่ได้ค่าแรง 300 บาท ให้ “ทำบัญชีรับจ่าย” ให้รู้ว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายคงที่อะไรบ้าง เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และในแต่ละวันมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสังสรรค์ ค่าเสื้อผ้า ค่าขนมลูก (ถ้ามี) เป็นต้น จะได้เห็นรูรั่วของเงินที่หมดไป ซึ่งอาจจะประหยัดได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เงินรายได้ควรแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ค่าใช้จ่ายในการออม ค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายเพื่อครอบครัว และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งการประหยัดค่าใช้จ่ายอาจจะเริ่มหางานที่ใกล้บ้าน หรือมีสวัสดิการรับส่ง มีที่พัก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเดินทาง การนำอาหารจากบ้านมารับประทานก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยประหยัดเงินได้ นอกจากนั้นควรดูว่าที่ทำงานมีสวัสดิการรักษาพยาบาล หรือประกันสังคมหรือไม่

หากบริษัทไหนมี “กองทุนประกันสังคม” ให้ ก็หายห่วงกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีเราต้องทำเอง อย่าละเลย โดยทำ “ประกันตนโดยอิสระ ม.40” (แนะนำเลือกชุดสิทธิประโยชน์ 2 จ่ายเองเพียงเดือนละ 100 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับผู้มีรายได้น้อยเฉลี่ยแล้วออมเพียงวันละ 3 บาทกว่า จะได้ประโยชน์บำเหน็จตอนเกษียณด้วย) ในส่วนนี้เราจะได้

1.เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย 200 บาทต่อวัน

2.เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพ

3.ค่าทำศพ (เสียชีวิต) จะได้รับค่าทำศพจำนวน 2 หมื่นบาทต่อราย

4.เงินบำเหน็จชราภาพผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

เงินในส่วนนี้ไม่ควรละเลย คือ ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล เมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานมีความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดขึ้นสูง และค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูงด้วย เมื่อทำงานแล้วก็อยากให้เริ่มต้นเก็บเงิน และมองเรื่องของการเตรียมเงินไว้ดูแลสุขภาพตัวเอง

ส่งกำลังใจถึงผู้ใช้แรงงาน

‘กั๊ก เล้าโลม’ (ศุภวัฒน์ ชูสุวรรณ)

“การมีวันแรงงานเป็นสิ่งที่ดี เป็นวันที่กระตุ้นเตือนทั้งนายจ้างและลูกจ้าง คนใช้แรงงานทุกคน รวมถึงหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการ ค่าจ้าง ค่าแรง เป็นวันหยุดและเป็นวันสำคัญให้กับพวกเขา สำหรับคนใช้แรงงาน ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เกิดมาเพื่อสู้ชีวิต ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขกับงานที่ทำ หวังว่ากำลังใจที่มอบให้จะทำให้ทุกคนมีแรงในการสู้และทำงานเพื่อปากท้อง เพื่ออนาคตของตัวเองและครอบครัวครับ”

‘โยชิ ซีควินท์’ (นิมิต มนัสพล)

“วันแรงงานเป็นวันสำคัญของคนทำงานทุกคน ให้มองถึงความจำเป็น สิทธิต่างๆ ที่ผู้ใช้แรงงานพึงได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีของระบบการทำงาน เศรษฐกิจ สังคม ที่จะก้าวไปพร้อมกัน ผู้ใช้แรงงานต้องการกำลังใจและสิทธิอีกหลายด้านในการสนับสนุนการทำงาน ผมมองว่าถ้าข้อเรียกร้องนั้นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็เร่งดำเนินการเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย แต่การเรียกร้องต้องอยู่บนพื้นฐานที่เป็นไปได้ ลูกจ้าง นายจ้าง เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ต้องดูแลกันและกัน ขอให้ทุกคนอย่าท้อ ตั้งใจทำงานครับ”

ความสุขในวันหยุด(ใช้)

ในวันแรงงาน 1 พ.ค. นอกจากผู้ใช้แรงงานจะรวมตัวกันยื่นข้อเสนอเรียกร้องต่างๆ จากนายจ้าง จากหน่วยงาน รัฐบาลแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่ผู้ใช้แรงงานได้หาความสุขให้กับชีวิตบ้าง ซึ่งปีนี้ก็มีงานใหญ่ คือ “คอนเสิร์ตเอ็ม150 แรงงานไทย ใจเกินร้อย” ณ สนามกรมทหารราบที่ 11 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

ฟรีคอนเสิร์ตเพื่อมอบความสนุกสนานให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน กับสุดยอดซูเปอร์ 3 อลังการความมันส์ ได้แก่ “มันส์พันธุ์ดุ ศึกยอดมวย เอ็ม150 แรงเกินร้อย” โดยศึกวันทรงชัย คู่เอก วานรทมิฬ ลูกนิมิต สิงห์คลองสี่ ดับเครื่องชนยอดมวยแดนใต้ ดาราเอก เกียรติกำธร และคู่มวยดุอีกเพียบ “มันส์ม่วนซื่น เอ็ม150” เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร และ “มันส์สนั่นทุ่ง เอ็ม150” ลูกทุ่งซูเปอร์โชว์ ไมค์ ภิรมย์พร ศิริพร อำไพพงษ์ ไผ่ พงศธร ฝน ธนสุนทร เอิร์น เดอะสตาร์ แช่ม แช่มรัมย์ เปาวลี พรพิมล และศิลปินรับเชิญอีกมากมาย