มนุษยชาติหลังวันสิ้นโลก

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ไม่เครดิต

มนุษยชาติหลังวันสิ้นโลก

Oblivion อุบัติการณ์โลกลืม

ประเทศ สหรัฐอเมริกา

ประเภท แอ็กชัน/ไซไฟ

เรตติ้ง น.15+ เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป

ความยาว 119 นาที

กำกับ โจเซฟ โคซินสกี

นำแสดง ทอม ครูส โอลกา คูริเลนโก แอนเดรีย ไรส์โบร์ และมอร์แกน ฟรีแมน

โจเซฟ โคซินสกี ชื่อนี้การันตีในความเป็นผู้กำกับแนวไซไฟแห่งยุคสมัยได้เป็นอย่างดี หลังก่อนหน้านี้ปล่อยหนังดังอย่าง Tron Legacy และอยู่เบื้องหลังความฮือฮาของ Rise of the Planet of the Apes แม้เรื่องรายได้อาจสอบตก แต่เรื่องฝีไม้ลายมือ ไอเดียการนำเสนอ สร้างความตื่นตาตื่นใจ เป็นที่จดจำของคอหนังวิทยาศาสตร์ได้มากพอสมควร

Oblivion เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันไกลโพ้นราวปี ค.ศ. 2077 เมื่อโลกล่มสลายหลังจบศึกสงครามกับเผ่าพันธุ์ลึกลับนอกโลก ส่งผลให้ดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้พินาศย่อยยับ สภาพแวดล้อมย่ำแย่จนมนุษย์มิสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ ณ นครลอยฟ้า แทน

ทว่า สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจนัก มาตรการป้องกันภัยรุกรานยังเข้มงวดกวดขัน ควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยโดยยานรบอัจฉริยะไร้คนขับ ติดอาวุธไฮเทคนามว่าโดรน

แจ็ก ฮาร์เปอร์ (ทอม ครูส) นักบินอวกาศผู้มีหน้าที่ติดตามซ่อมแซมหุ่นโดรน ถูกส่งออกไปสำรวจยังนอกโลก เขาพบซากยานอวกาศที่พลัดตกลงมา แล้วเจอจูเลีย (โอลกา คูริเลนโก) หญิงสาวแปลกหน้าผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จากนั้นความทรงจำในอดีต ความลับต่างๆ ทั้งหมดเริ่มถูกเปิดเผยออกมาทีละนิด การมาถึงของเธอกระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์บีบคั้นที่เขาต้องเปลี่ยนความคิด ตั้งคำถามใหม่ต่อทุกสิ่งที่เขาเคยรู้ ต่อโลกใหม่ที่เขาดำรงอยู่ และอาจทำให้ชะตากรรมมนุษยชาติที่หลงเหลืออยู่ตกอยู่ในกำมือของเขา

ซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของฮอลลีวูด ทอม ครูส กลับมารับบทเด่นในหนังแอ็กชันไซไฟอีกครั้ง ยังหล่อ เสน่ห์แรง เก่งแบบเว่อร์โคตรๆ เหมือนเดิม ไม่ต่างอะไรจากบทพระเอกในหนังทุกเรื่องของเขานัก

ด้านโจเซฟ โคซินสกี คราวนี้เหมาหมดทุกหน้าที่หลัก ตั้งแต่กำกับ โปรดิวซ์ ยันเขียนบทภาพยนตร์ ซึ่งดำเนินเรื่องไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไหลลื่น แม้บางช่วงอาจน่าเบื่อชวนง่วง แต่เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์ก็เร้าอารมณ์ได้ดี หนังเรื่องนี้ผสมผสานความเป็นหนังโรแมนติก แอ็กชัน ไซไฟได้อย่างกลมกล่อม โดยเฉพาะไฮไลต์ตรงองค์ประกอบด้านภาพที่คมชัด สวยอลังการ การออกแบบล้ำสมัย ดนตรีประกอบเพราะๆ ตลอดจนเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟฟิก หรือซีจี ช่างงดงามละเมียดละไม สมจริงสมจัง คล้ายงานศิลปะชิ้นหนึ่ง

หลังคนดูตื่นเต้นไปกับโลกอนาคตอันกว้างใหญ่ เวิ้งว้าง ฉากชีวิตประจำวันของมนุษย์บนสถานีอวกาศที่จินตนาการภาพออกมาได้น่าเชื่อถือ ฉากต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ เต็มไปด้วยเสียงระเบิด คำรามปืนตูมตามสนั่นหวั่นไหว ในตอนท้าย หนังพากลับมายังโลกมนุษย์แบบดั้งเดิม สิ่งแวดล้อมเดิมๆ ดิน ฟ้า อากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางสายน้ำ ป่าเขาลำเนาไพร กระชากอารมณ์ชวนให้คิดถึงบ้าน คิดถึงสังคมที่เราเคยอยู่ขึ้นมาจับใจ

โลกที่ไร้การรบราฆ่าฟัน ไม่มีศึกสงคราม โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่เข่นฆ่าทำลายนั้นน่าอยู่เสมอ แต่ลึกๆ ในใจก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าวันสิ้นโลกคงมาถึงแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

Oblivion ดัดแปลงมาจากนิยายภาพชื่อเดียวกันของผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยเสนอโปรเจกต์นี้ไปยังค่ายดิสนีย์ แต่ท้ายที่สุดกลับเปลี่ยนใจไม่สร้าง ทว่า ยังใจกว้างพอให้ไปเสนอค่ายอื่น สุดท้ายจึงตกเป็นของค่ายยูนิเวอร์แซลในที่สุด

ถ่ายทำด้วยระบบดิจิตอล ความละเอียดสูงสุด 4K ภาพคมกริบ ล้ำสมัยที่สุดในโลกภาพยนตร์ขณะนี้

โลเกชันอันกว้างใหญ่ไพศาล เวิ้งว้างอลังการ ทั้งหมดถ่ายทำในประเทศสหรัฐอเมริกาและไอซ์แลนด์