ละครทาส...เนเวอร์ ดาย
อะไรคือเสน่ห์ของละครทาส และละครทาสได้สะท้อนให้คนไทยได้มองเห็นประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมืองในแง่มุมใดบ้าง
โดย....จตุรภัทร หาญจริง
วันพฤหัสบดีที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ละครเรื่องหนึ่งเดินทางมาถึงตอนอวสาน ในขณะเดียวกัน ละครอีกเรื่องหนึ่งก็กำลังเริ่มต้นขึ้น ในวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน เพียงแต่ออกอากาศต่างสถานีกัน ละครที่พูดถึงคือ “บ่วงวันวาร” ออกอากาศทางช่อง 5 ทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.10-21.40 น. (อวสานไปแล้ว) กับละครเรื่อง “บ่วงบาป” ออกอากาศทางช่อง 3 ทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.30-22.45 น. (ปัจจุบันยังออกอากาศอยู่ และดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้นทุกขณะ)
สิ่งที่เหมือนกันคือ ละครทั้งสองต่างมีคำว่า “บ่วง” ในชื่อ และต่างเป็น “ละครทาส” ที่ไม่มีวันตายหายไปจากหน้าจอโทรทัศน์ของบ้านเรา
อะไรคือเสน่ห์ของละครทาส และละครทาสได้สะท้อนให้คนไทยได้มองเห็นประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมืองเราในแง่มุมใดบ้าง
ตามความหมายของคำว่า “ทาส” ทาสคือบุคคลที่เสมือนสิ่งของของนายทาส ไม่มีอิสระในการดำรงชีวิต และมีหน้าที่รับใช้นายทาสโดยมิได้รับการตอบแทน หากไม่เชื่อฟังคำสั่งอาจถูกลงโทษได้ตามแต่นายทาสจะกำหนด ซึ่งทาสนั้นมีมาแต่ช้านาน (ไม่ปรากฏปีอย่างชัดเจน) แต่เด่นชัดนับตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาที่แบ่งทาสออกเป็น 7 ชนิด ได้เแก่ ทาสสินไถ่ (คนยากจน ไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวหรือตนเองได้ จึงได้เกิดการขายทาสขึ้น) ทาสในเรือนเบี้ย (เด็กที่เกิดขึ้นระหว่างที่พ่อแม่เป็นทาสของนายทาส) ทาสที่ได้รับมาด้วยมรดก (ทาสที่ตกเป็นมรดกของนายทาส เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนายทาสคนเดิมเสียชีวิตลง และได้มอบมรดกให้แก่นายทาสคนต่อไป) ทาสท่านให้ (ทาสที่ได้รับมาจากผู้อื่น) ทาสที่ช่วยไว้จากทัณฑ์โทษ (ทาสของผู้ให้ความช่วยเหลือในการชำระค่าปรับ ในกรณีกระทำความผิด และถูกลงโทษเป็นเงินค่าปรับ) ทาสที่ช่วยไว้ให้พ้นจากความอดอยาก (ไพร่ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้ประกอบอาชีพได้แล้ว จึงขายตนเองเป็นทาสเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ) ทาสเชลย (ทาสรับใช้ที่ถูกกวาดต้อนจากการการแพ้สงคราม)
“จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา” บอกเล่าว่า เมื่อตัวเองได้มาเล่นละครเรื่อง บ่วงวันวาร ที่ต้องรับบทเป็น บัว สาวชาวบ้านที่ชะตาชีวิตพลิกผันให้กลายมาเป็นทาสขัดดอก ทำให้ตัวเองได้เข้าใจหัวอกคนเป็นทาสได้เป็นอย่างดี
“จุ๋ยยอมรับว่า จุ๋ยเข้าใจหัวอกคนเป็นทาสในยุคสมัยนั้นมาก เพราะคนเป็นทาสต้องถูกกดขี่ห่มเหงอยู่ตลอดเวลา ใครว่าชีวิตทาสสุขสบาย น่าสงสารมาก โชคดีที่คนไทยได้รับพระเมตตาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ตราพระราชบัญญัติเลิกทาสขึ้น จึงทำให้คนไทยมีอิสรภาพในการใช้ชีวิตได้มาจนถึงทุกวันนี้”
เมื่อวรัทยาถูกถามว่าอะไรคือเสน่ห์ของละครทาส เธอตอบอย่างมั่นใจว่า ความน่าสงสารของชีวิตทาสที่ต้องถูกกดขี่ข่มเหง และมีชีวิตอย่างไร้อิสรภาพ
“จุ๋ยคิดว่าเวลาคนเราได้เห็นความเจ็บปวดของชีวิตคน เราจะเกิดความสงสาร ยิ่งโดยเฉพาะชีวิตของทาสที่ต้องตกระกำลำบาก ต้องมีชีวิตที่ไร้อิสรภาพ ยิ่งทำให้เราสงสารในชะตากรรมของเขา และอยากให้เขาหลุดพ้นจากความเป็นทาสโดยเร็วพลัน ซึ่งตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของละครทาสในมุมมองของจุ๋ย ที่ต่อให้อีกกี่ยุคกี่สมัย ละครทาสก็ไม่มีวันตายไปจากคนไทยอย่างแน่นอน”
แม้ว่าวรัทยาจะไม่เคยได้สัมผัสกับอารมณ์ของความเป็นทาสในยุคสมัยนั้นจริงๆ แต่เธอก็รู้ซึ้งจากบทบาทที่เธอได้รับ และทำให้เธอได้ทราบว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ตราพระราชบัญญัติขึ้น เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2417 ให้มีผลย้อนหลังไปถึงปีที่พระองค์เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ จึงมีบัญญัติว่า ลูกทาสซึ่งเกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ.2411 ให้มีสิทธิได้ลดค่าตัวทุกปี โดยกำหนดว่า เมื่อแรกเกิด ชายมีค่าตัว 8 ตำลึง หญิงมีค่าตัว 7 ตำลึง เมื่อลดค่าตัวไปทุกปีแล้ว พอครบอายุ 21 ปี ก็ให้ขาดจากความเป็นทาสทั้งชายและหญิง ซึ่งทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่หลุดพ้นจากระบบดั้งเดิม จึงได้กลายเป็นราษฎรสยามและมีโอกาสทำมาหากินได้อย่างอิสรเสรี พอถึงปี 2448 ก็ได้ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124 (พ.ศ. 2448) นั่นเอง
มาที่นางทาสผู้แสนดีที่ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวอย่าง นังชุ่ม จากละครเรื่อง บ่วงบาป ที่รับบทโดย “หยาดทิพย์ ราชปาล” ซึ่งเธอเปิดใจว่า บทบาทของนางทาส ทำให้เธอเข้าใจความเป็นคนมากขึ้น
“ด้วยความที่ทาสคือมนุษย์ที่ไร้อิสรภาพ ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคน จึงถูกนายทาสทำอะไรก็ได้ มัดมือ เฆี่ยนตี กดขี่ข่มเหงสารพัดได้ตามอำเภอใจ บทนังชุ่มจึงทำให้หยาดเข้าใจความเป็นคนมากขึ้นว่า เราทุกคนมีศักดิ์ศรีและมีอิสรภาพ ซึ่งอิสรภาพที่เรามีอยู่ในทุกวันนี้ มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ทำให้หยาดสงสารทาสในยุคสมัยนั้นที่ต้องไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคน และไร้ซึ่งอิสรภาพที่มนุษย์คนหนึ่งพึงจะมี”
เมื่อถามถึงเสน่ห์ของละครทาสที่ไม่มีวันตายไปจากหน้าจอโทรทัศน์ หยาดทิพย์มีความคิดเห็นเป็นไปทำนองเดียวกับจุ๋ย วรัทยา หยาดทิพย์ แสดงความคิดเห็นไว้ว่า ความที่ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นคน และไร้ซึ่งอิสรภาพของทาสนี่แหละ ที่บีบหัวใจคนดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
“คงเป็นเพราะรำพึง (รับบทโดย พลอย เฌอมาลย์) ลูกสาวคนเดียวของพระยาเทวราช ที่หลงรักขุนพิทักษ์ (รับบทโดย ปอ ทฤษฎี) แต่ขุนพิทักษ์ไม่เล่นด้วย ทำให้รำพึงกลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต คิดกำจัดศัตรูหัวใจอย่างนังชุ่ม รำพึงจึงทั้งตบตี กลั่นแกล้งสารพัด ซึ่งหยาดมองว่าคนในยุคนี้ไม่มีใครยอมให้ใครทำร้ายเราได้มากขนาดนี้ ทำให้คนที่ดูละครทาส รู้สึกสงสารและเห็นใจในชะตากรรมของทาสในยุคนั้นที่ทำอะไรใครไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาสูงส่งกว่า”
เชื่อแน่ว่า ไม่ว่าละครทาสจะถูกนำมาสร้างใหม่หรือรีเมกอีกกี่หน หากละครทาสได้สะท้อนศักดิ์ศรีความเป็นคน ความมีอิสรภาพที่เราพึงมีพึงได้ และประวัติศาสตร์ชาติไทยเกี่ยวกับการเลิกทาส นี่อาจเป็นหนทางที่ทำให้คนดูทุกยุคทุกสมัย ได้ตระหนักถึงคุณค่าในความเป็นคน คุณค่าของอิสรภาพที่ตนมี และคุณค่าของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้การมีชีวตอยู่ในทุกวันนี้ไม่สูญเปล่า จนกลายเป็นทาสชีวิตด้วยน้ำมือของตนเอง
******************
ลูกทาส...กำลังจะมา
ลูกทาส เป็นวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ ที่ว่าด้วยเรื่องของลูกทาสที่ดิ้นรนต่อสู้จนบั้นปลายชีวิต ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยา และสมใจกับหญิงสาวสูงศักดิ์ที่ตนหมายปอง เป็นผลงานการประพันธ์ของรพีพร (สุวัฒน์ วรดิลก) ซึ่งขณะนั้นถูกจำคุกอยู่ด้วยคดีกบฏเสรีภาพ ซึ่งเขียนอยู่ในเรือนจำและส่งงานออกมาทางปิ่นโตกับข้าว เพื่อให้กับสัมพันธ์ พันธุ์มณี นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ออกอากาศเป็นครั้งแรก ในปี 2507 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ภายหลังได้มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2507 ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน และต่อมา ลูกทาสก็ได้ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกหลายครั้ง
และในปี 2556 นี้ ช่อง 3 ก็ได้นำละครเรื่อง ลูกทาส กลับมาสร้างใหม่ โดยผู้จัดคนเก่งอย่าง “ปิ่น-ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์” แห่งค่ายทีวีซีน นำแสดงโดยพระเอกที่กำลังมาแรง “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” รับบทเป็น ไอ้แก้ว ประกบคู่กับนางเอกสุดฮอตจากละครเรื่องพรพรหมอลเวง “ราณี แคมเปน” ที่รับบทเป็น คุณน้ำทิพย์ กำกับการแสดงโดย “ซ้ง-ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์” ผู้กำกับละครเรื่องรากบุญ ซึ่งณัฏฐนันท์ เปิดเผยว่า ลูกทาสในเวอร์ชันนี้จะสอดแทรกประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 แบบจัดเต็มอย่างแน่นอน
นางทาส...อมตะตลอดกาล
นางทาส เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวของ วรรณสิริ ผู้ประพันธ์เรื่อง วนิดา และ นางครวญ ตีพิมพ์ครั้งแรกในรวมเรื่องสั้นชุด สร้อยนพเก้า และได้รับความนิยมจนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายครั้ง พร้อมกับมีการแต่งเติมเรื่องราวเพิ่มเติม ในการพิมพ์ครั้งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น รวมเรื่องสั้นชุด นางทาส
นางทาส นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ 2 ครั้ง ใช้ชื่อว่า “นางทาษ” ได้แก่ ฉบับ พ.ศ. 2498 (16 มม.) และ ฉบับ พ.ศ. 2505 (35 มม.) ของละโว้ภาพยนตร์ กำกับโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ นางเอกของทั้งสองฉบับ คือ วิไลวรรณ วัฒนพานิช ในส่วนของละครโทรทัศน์ ก็ได้ถูกนำมาสร้างถึง 3 ครั้ง โดยคนที่รับบท อีเย็น นางเอกของเรื่อง ได้แก่ รัชนู บุญชูดวง (ปี 2524ช่อง 3) มนฤดี ยมาภัย (ปี 2536 ช่อง 7) สุวนันท์ คงยิ่ง (ปี 2551 ช่อง 7)


