‘คาร์เทียร์’ อัญมณีแห่งราชา

กว่าแต่ละแบรนด์ระดับโลกจะอยู่ยงมาได้เป็นร้อยๆ ปี ต้องผ่านอุปสรรคมานานัปการ ดังเช่น “คาร์เทียร์” (Cartier)

โดย...วราภรณ์

กว่าแต่ละแบรนด์ระดับโลกจะอยู่ยงมาได้เป็นร้อยๆ ปี ต้องผ่านอุปสรรคมานานัปการ ดังเช่น “คาร์เทียร์” (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีชั้นนำระดับโลกที่มีอายุมากกว่า 166 ปีแล้ว

คาร์เทียร์เป็นแบรนด์หนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านความล้ำค่าและมีประวัติยาวนานที่สุดในวงการอุตสาหกรรมเครื่องประดับ แบรนด์ที่กษัตริย์จากทั่วโลกไว้วางใจให้ออกแบบและผลิตอัญมณีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายราชวงศ์ จนมีคำกล่าวว่า คาร์เทียร์ คือ ราชาแห่งผู้ค้าอัญมณี และผู้ค้าอัญมณีแห่งราชา วลีที่แถลงโดยสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และมีสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าแห่งราชวงศ์ผู้ทรงเกียริตสูงสุดของคาร์เทียร์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทั้งในลอนดอนและปารีส

ย้อนกลับไปดูตำนานการสร้างแบรนด์ เริ่มตั้งแต่

ค.ศ. 1847 สามพี่น้องตระกูลคาร์เทียร์ ได้แก่ หลุยส์ ฌาร์คส์ และปิแอร์ ได้ก่อตั้งแบรนด์คาร์เทียร์ขึ้น ณ เลขที่ 19 บนถนน Rue Montorgueil กรุงปารีสได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ปารีสยังคงเป็นสวรรค์แห่งความหรูหราฟู่ฟ่า

ค.ศ. 1856 เจ้าหญิงมาทิลด์ ซึ่งเป็นญาติสนิทของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 เริ่มซื้อเครื่องประดับของคาร์เทียร์

ค.ศ. 1859 จักรพรรดินีเออเฌนีเองก็มาเป็นลูกค้าของเขาเช่นกัน เหล่าราชวงศ์ในราชสำนักยุโรปต่างก็พากันหันมาเป็นลูกค้าของคาร์เทียร์ ตามมาด้วยกลุ่มมหาเศรษฐีจากอเมริกาเหนือ เศรษฐีจากการทำอุตสาหกรรม รวมถึงนายแบงก์แห่งช่วงปลายศตวรรษที่ 19

ค.ศ. 1962 เจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก ผู้เพียบพร้อม ทุกที่ที่ปรากฏกาย เธอมักสวมใส่สร้อยคอคาร์เทียร์ที่คณะกรรมการแห่งชาติของราชรัฐโมนาโกได้ถวายให้เธอในวันที่เธอราชาภิเษกกับเจ้าชายเรนิเยร์

ค.ศ. 1874 หลุยส์ได้มอบตำแหน่งผู้นำแห่งแบรนด์คาร์เทียร์ต่อให้กับอัลเฟรดลูกชายของเขา ในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงนี่เอง ร้านเครื่องประดับแห่งนี้ได้เปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งถึงสองครั้ง จนกระทั่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยการย้ายมาอยู่ที่เลขที่ 13 บนถนน Rue de la Paix

ค.ศ. 1975 มีการเปิด Palais Garnier Opera House ใจกลางย่าน Haussmann เขตใหม่แห่งกรุงปารีส ได้เปลี่ยนโฉมหน้าถนน Rue de la Paix ให้กลายเป็นวิหารแห่งความหรูหราแบบปารีเซียง เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่สาวๆ สังคมชั้นสูงมาเดินที่นี่

ค.ศ. 1898 ชาร์ลส์ เฟรดเดอริก เวิร์ธ นักออกแบบเสื้อผ้าคนดัง ซึ่งหลานสาวของเขาได้แต่งงานกับ หลุยส์ คาร์เทียร์ เขาได้เข้ามาดูแลอาณาจักรแฟชั่นสตรีจากร้านเลขที่ 7 ยาวนานกว่า 30 ปี ส่วนร้านของ ฌาร์คส์ ดูเซส์ ก็อยู่ที่เลขที่ 21 Louis Aucoc ซึ่งเป็นหนึ่งในช่างทองที่มีชื่อเสียงแห่งศตวรรษที่ 19 ก็ทำธุรกิจอยู่ที่ร้านเลขที่ 6 เช่นกัน ต่อมามีการขายตึกเพื่อนำไปสร้างโรงแรม Westminster หนึ่งในโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในปารีส ณ ช่วงเวลานั้น ก็ทำให้คาร์เทียร์สามารถย้ายร้านมาอยู่ที่เลขที่ 13 ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ในตำนานของคาร์เทียร์ไปแล้ว

ค.ศ. 1899 พี่น้องตระกูลคาร์เทียร์ทั้งสามได้ร่วมกันดูแลทรัพย์สมบัติของพวกเขา โดยหลุยส์ดูแลร้านคาร์เทียร์ในปารีส ที่ตั้งอยู่เลขที่ 13 บนถนน Rue de la Prix ส่วนฌาร์คส์ดูแลร้านในลอนดอน และปิแอร์ได้ดูแลร้านในนิวยอร์ก บนถนน Fifth Avenue

การเปิดร้านในเดือน พ.ย. 1899 ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน คาร์เทียร์ก็ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องแวะชมในกำหนดการเดินทางของบรรดาราชวงศ์จากทั้งยุโรปและเอเชีย ทั้งกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งอังกฤษ พระราชินีวิกตอเรีย เออเฌนี แห่งสเปน แกรนด์ดยุกแห่งรัสเซีย อากา ข่าน เจ้าชายแห่งเวลส์ ที่ต่อมาคือดยุกแห่งวินเซอร์ และพระราชินีแห่งโรมาเนีย ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าประจำของคาร์เทียร์ทั้งนั้น

ค.ศ. 1910 เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ราชินีแห่งเบลเยียม ทรงสวมมงกุฎสไตล์มาลัยประดับเพชรและแพลทินัม มาลัยสวมศีรษะที่รังสรรค์ขึ้นถวายพระองค์โดยคาร์เทียร์

ค.ศ. 1911 เจ้าหญิงโอลกา พาลีย์ ท่านเคาต์หญิงแห่งโฮเฮนเฟลเซน และภริยาแห่งแกรนด์ดยุกพอลแห่งรัสเซีย (Grand Duke Paul of Russia) ใส่เพชรและไข่มุกประดับเสื้อรัดอกเป็นเข็มกลัดประดับหมวก และมาลัยสวมศีรษะประดับเพชรเจียระไนทรงลูกแพร์ ในแบบเครื่องประดับเสื้อรัดอก

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;

&<2288;