posttoday

หมอดูหน้าใส แมน-เมย์

25 ธันวาคม 2555

วันนี้มี 2 ม.มาแนะนำ ม.แรก คือ ม. แมนการิน ศตายุส์ ม.ที่สอง คือ ม. เมย์สลิลลาพร ปวตานนท์

วันนี้มี 2 ม.มาแนะนำ ม.แรก คือ ม. แมนการิน ศตายุส์ ม.ที่สอง คือ ม. เมย์สลิลลาพร ปวตานนท์

โดย...นกขุนทอง ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน ทวีชัย ธวัชปกรณ์

หลายคนเรียกเขาและเธอว่า “หมอดู” เพราะต่างทำนายทายทักดวงชะตาชีวิตแม่นราวกับจับวาง แต่ทั้ง 2 ม. ไม่อยากเอ่ยว่าตัวเองเป็นหมอดู เพราะต่างก็มีแนวทางนิยามในการทำนายทายทักและเปลี่ยนโชคชะตาในวิถีของตัวเอง

แมนและเมย์ จู่ๆ ทำไมถึงเป็นที่ต้องการของคนที่อยากเปลี่ยนโชคชะตา อยากล่วงรู้อนาคต เขาและเธอมีดีอย่างไร มาติดตามกัน

แมน การิน นักออกแบบตัวเลข

แมน การิน เมื่อก่อนคงคุ้นหน้าคุ้นชื่อในบทบาทนักแสดงทางช่อง 3 แต่ตอนนี้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังเป็นที่รู้จักมากกว่าตอนเล่นละครเสียอีก เพราะเดี๋ยวนี้ถ้าใครอยากจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ต้องเรียกหา หลายเสียงต่างคอนเฟิร์มจนได้ฉายาว่า หมอแมน แม้น แม่น ว่ากันว่า ขนาดซุป’ตาร์ตัวแม่อย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ยังใช้บริการ!?เพื่อให้ช่วยดูเบอร์โทรศัพท์และเปลี่ยนเบอร์ให้ถูกโฉลกและให้ได้ดังที่ปรารถนา แต่จะขอให้โชคดีเรื่องอะไรนั้น...อุ๊บส์!!!

ไม่ว่าใครจะเรียกยังไง หนุ่มแมนถึงอย่างนั้นเขาก็ออกตัวว่า ใครจะเรียกอย่างไรก็ได้ ขอเรียกตัวเองว่า นักออกแบบตัวเลข ฟังแล้วเก๋กู๊ดใช่มั้ยล่ะ เพราะว่าแมนชอบตัวเลขมาตั้งแต่สมัยเรียน และทำการเก็บสถิติตัวเลขมาเรื่อยๆ ว่าเลขใดส่งผลอะไรยังไง จนได้ความเป็นไปได้สูงต่อเรื่องนั้นๆ จึงนำมาใช้ แรกๆ ก็ลองใช้กับคนใกล้ๆ ตัว เพียงแค่เวลาไม่ถึงปี หลายคนเปลี่ยนเบอร์ตามที่แมนบอก ทั้งชีวิตการงาน การเงิน ความรักรุ่ง จึงบอกกันปากต่อปาก จนตอนนี้กลายมาเป็นธุรกิจรับออกแบบตัวเลขที่มีคนต่อคิวดูยาวเป็นหางว่าวเลยเชียว“ไม่ได้เป็นความตั้งใจเลยครับว่าจะมาดูเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ เรื่องของเรื่องผมชอบตัวเลขมานานแล้ว จนสอบชิงทุนที่มหาวิทยาลัยมหิดลได้เป็นทุนของในหลวง คณะวิทยาศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์สถิติ ตั้งแต่ตอนนั้นมาผมเริ่มเก็บข้อมูลแบบขำๆ เช่น วันนี้ผมนั่งรถเมล์ ก็สังเกตว่ารถเมล์ที่เรานั่งทะเบียนแบบไหน คนขับขับเร็ว ข้างหน้ามีอุบัติเหตุรถทะเบียนอะไรก็เริ่มสังเกต ผ่านร้านขายอาหารร้านนี้เลขที่อะไรทำไมคนเยอะ คือเริ่มเก็บจากตัวเลขรอบๆ ตัว เพราะผมคิดว่าตัวเลขมันมีชีวิต ผมมีความเชื่อแบบนี้ ผมว่าตัวเลขที่มันสถิตหรือมันติดอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ มันย่อมต้องการฟ้องอะไรบางอย่างอยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจตัวเลขหรือธรรมชาติของมันได้หรือเปล่า

หมอดูหน้าใส แมน-เมย์

 

 

จนวันหนึ่งที่ผมเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ผมได้เจอนิยามหนึ่งเกี่ยวกับฟิสิกส์ เกี่ยวกับเรื่องพลังงานธรรมชาติบอกว่า วัตถุใดก็ตามที่มีการเคลื่อนที่ ย่อมแฝงด้วยศักยภาพบางสิ่งบางอย่างซึ่งสามารถขับเคลื่อนบางสิ่งบางอย่างได้ ผมจึงคิดว่าพลังงานบางอย่างมันน่าสนใจ เลยมองมาที่ตัวเลขและสนใจเป็นเลขโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือถึงจะตั้งอยู่เฉยๆ ก็มีการเคลื่อนที่แบบพลังงานคลื่น และโทรศัพท์มีการเคลื่อนที่ตามตัวเรา ผมก็เชื่อว่าพลังงานบางอย่างที่อาศัยอยู่ในรหัสอันนี้น่าจะถ่ายทอดบางสิ่งบางอย่างได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่มีหลักโหราศาสตร์ใดๆ มาเกี่ยวข้องเลยคือทุกวันนี้ที่ผมทำไม่ได้แตะดวงเลยครับ คือผมจะชอบเรื่องตัวเลขมากกว่า” จากสถิติตัวเลขของแมนมีความสอดคล้องกับกลุ่มตัวเลขของ นพ.ธีรพันธ์ แสงไพบูลย์ ซึ่งช่วยตอกย้ำว่า กลุ่มตัวเลขที่เขาวิเคราะห์นั้นมีอิทธิพลต่อเรื่องนั้นๆ ได้จริง“ผมเก็บข้อมูลแบบนี้โดยการลงโปรแกรมไปเรื่อย จนวันหนึ่งมันเยอะมากพอ เราสามารถที่จะหากลุ่มตัวเลขบางอย่างได้ มันก็จะบอกว่ากลุ่มเลขของคนที่ทำงานข้าราชการเป็นแบบไหน ก็จะฟ้องออกมาในโปรแกรมทำให้เราได้ข้อมูลที่น่าสนใจ จากการเก็บข้อมูลมาน่าจะประมาณ 6 ปี พอผมได้กลุ่มตัวเลขที่น่าสนใจผมก็ได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งของอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็มีความแปลกใจที่มีข้อมูลที่น่าสนใจและใกล้เคียงกับสิ่งที่เราเก็บข้อมูล ก็เลยยึดถืออาจารย์เป็นไอดอลด้วยส่วนหนึ่ง เป็นผู้จุดประกายทำให้ผมได้มีศาสตร์ตัวเลขเกิดขึ้น”

ก่อนจากกันนักออกแบบตัวเลขได้บอกถึงทิศทางของประเทศไทยในปี 2556 ได้อย่างน่าสนใจว่า “ปีหน้าสำหรับผมมองว่าเป็นช่วงก้ำกึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าที่ผ่านมาเราเริ่มมีการใช้ 08 (เลข 2 ตัวแรกของเบอร์โทรศัพท์มือถือ) ในช่วงปี 2546 โดยภาพรวมบ้านเมืองก็เริ่มมีปัญหามากขึ้น ต่อไปเราเข้าสู่ปี 2556 ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น เพราะจะเริ่มมีการใช้ 09 มากขึ้น ภาพรวมของเลข 09 ดีกว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด อาจเป็นเรื่องของสังคม คน หรือธรรมชาติ ผมมองว่าเปลี่ยนภาพรวมที่ดีขึ้น แต่ในเรื่องที่มองไม่เห็น ผมว่าต้องรอลุ้นกัน เพราะว่าจริงๆ แล้วเลข 09 เป็นเลขที่ไม่มีตัวตนทั้งคู่”

ตบท้ายด้วยตัวเลขพอหอมปากหอมคอ (สำหรับเลข 7 ตัวหลัง) ถ้าทำค้าขายต้องมีเลข 4 ส่วนเลข 6 เป็นเลขที่ทุกคนต้องมี ขาดไม่ได้ เป็นเลขของการเงินและความรัก และเลข 0 ไม่มีความจำเป็นที่จะหยิบมาใช้ เป็นเลขตัวเดียวที่แมนมองว่าการหยิบมาใช้ค่อนข้างยาก นอกจากชีวิตเราต้องการไปสู่นิพพานจริงๆ สำหรับคนที่มี 0 เยอะๆ จะมองเป็นเรื่องของคนที่มีความเป็นโลกส่วนตัวสูง

ตอนนี้งานออกแบบตัวเลขท่าจะรุ่งมากๆ เพราะถึงขั้นเปิดบริษัทรับออกแบบตัวเลขขึ้นมา “แมน แมธโธโลจี” ที่ซอยรามคำแหง 65 เปิดให้บริการ 3 วัน คือ วันพุธ พฤหัสบดี และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น. วันหนึ่งตรวจเบอร์ถึง 36 คน แต่ทุกครั้งแมนจะบอกแก่ทุกคนว่า แค่เปลี่ยนเบอร์ไม่ใช่ทุกอย่างจะดีขึ้นได้เลย ถ้าไม่เปลี่ยนนิสัย ไม่ลงมือทำอะไร แม้จะใช้เบอร์เดียวกับอั้ม พัชราภา ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้สวย ไม่ได้เป็นดาวค้างฟ้าแบบเขา

หมอดูหน้าใส แมน-เมย์

 

เรียกเธอว่า...เมย์มีเซนส์

เรารู้จักเธอเพราะรายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ออกอากาศทางช่อง 5 เมย์รับหน้าที่ดูดวงในช่วง “เมย์มีเซนส์” ทำนายทายทักเรื่องราวในอดีต และส่องทางสู่อนาคต จนหลายคนขนลุกในความแม่น เพราะเธอไม่ได้ใช้โหราศาสตร์แขนงใดๆ เพียงแต่เธอจ้องมองและพูดๆๆๆ ออกมา เมย์ บอกว่า ทำนายด้วย “เซนส์”

ย้อนไปตั้งแต่เธอจำความได้ ตอน 7 ขวบ ทายทักคุณครู ผ่านไป 2 ปี คุณครูก็กลับมาบอกว่าสิ่งที่เธอทำนายเอาไว้เป็นจริงทุกอย่าง ชื่อเสียงของเธอเลื่องลือ เพื่อนสนิทไปจนถึงเพื่อนของเพื่อนๆ ต่างให้เธอดูดวงให้ ชาวบ้านร้านช่องที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่ได้ยินกิตติศัพท์ในความแม่นยำพอเดือดเนื้อร้อนใจก็มาขอร้องให้เธอช่วยดูให้ นับแต่นั้นมาถ้าโชคชะตาต้องกันเมย์ก็ดูดวงจนถึงตอนนี้เธออายุ 26 ปี

“ตัวหนูเองไม่ได้คิดว่าหนูมีองค์ และคิดว่าสิ่งที่ได้มาถ้าคนเรียกว่าเซนส์ก็คือเซนส์ หนูรู้สึกตั้งแต่เด็กๆ เหมือนเวลานึกถึงภาพอดีตเดจาวู แต่ของหนูมันเป็นแบบเห็นภาพอนาคต เช่น เวลาคุยกันแบบนี้ ถ้ารู้สึกก็คือจะรู้สึก ตอนเด็กๆ จะเป็นอารมณ์ที่ทักคนอื่นแต่ไม่ค่อยมีคนเชื่อเรา เพราะเราเป็นเด็ก แต่พอสักประมาณ ม.4ม.5 ทักเพื่อนๆ ก็กลายเป็นว่าเพื่อนๆ เขาก็งงว่าทำไมถึงรู้จริง ก็กลายเป็นการบอกต่อ มันเริ่มจากตรงนี้เลยค่ะ บางคนก็ถามว่าเราไปอยู่ใต้เตียงเขาหรอ ทำไมถึงรู้เรื่องราวชีวิตประจำวันเขา รู้เรื่องที่ไม่ควรจะรู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้าง ตอนนั้นก็ตอบได้เลยว่าแค่รู้สึก”

เมย์ บอกว่า ไม่อยากให้เรียกว่าเป็นหมอดู อีกทั้งคุณพ่อก็ไม่ชอบ “เมย์ไม่ได้เรียนโหราศาสตร์มาเลย ไม่อยากให้เรียกหมอดูและหนูก็ไม่รับเงิน หนูได้มาฟรี หนูเกรงใจคนที่เขาเรียนมา เพราะหนูรู้สึกว่าคนที่เป็นหมอดูเขาเรียนเขาทำอาชีพ และทุกครั้งที่ดูให้ใครก็ตาม หนูจะบอกทุกครั้งว่ามาหาหนูอย่าคิดว่าเป็นการดูดวง เอาในส่วนที่หนูบอกไปเป็นเพียงวิทยาทาน กำลังใจ เพราะว่าหนูตั้งใจแบบนั้นมากกว่า หนูจะยืนยันตลอดเลยว่าไม่ให้เขาเชื่อหนูเต็มร้อย แต่อยากให้เขาได้กำลังใจในการที่เขาจะเดินต่อไปข้างหน้าสิ่งที่จะทำให้สิ่งที่หนูพูดเป็นจริงคือตัวเขา ก็จะมีคนถามว่าดูแล้วเก็บเงินเท่าไร บางคนก็บอกว่าต้องมีค่าครู หนูก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่เก็บ แต่บางทีพอได้รับมาก็เอาไปทำบุญให้เขาแต่เราก็รู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่เขาเอาเงินมาให้ รู้สึกเกรงใจ รู้สึกผิด เขาทุกข์แล้วเราเอาเงินจากความทุกข์เขามาประกอบกับที่ตอนแรกคุณพ่อไม่ชอบเลย กลัวจะไปทำร้ายคนอื่นเขา กลัวไปทำเขางมงาย พ่อเลยบอกว่าลูกอย่าทำแบบนี้ จนเวลาผ่านมาหลายปีมีคนที่เราเคยช่วยเขา พ่อก็เห็นว่าเขามาหน้าบ้าน มาขอบคุณ คุณพ่อก็บอกว่าพ่อเข้าใจในสิ่งที่หนูทำแล้ว เขาก็ขออย่างหนึ่งว่าอย่าเอาตรงนี้เป็นอาชีพ พ่ออยากให้หนูทำงานด้วยฝีมือของตัวเอง ถ้าจะทำตรงนี้ก็ให้ช่วยเขาไป”

หมอดูดังๆ สมัยนี้รวยๆ ค่าดูดวงหลายพันบาท แต่สำหรับเมย์แล้ว เธอยืนยันว่า ยังใช้ความรู้ความสามารถที่ศึกษามาทำงานแลกกับเงินเดือน และยังมีรายได้จากรายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนใครอยากให้เมย์ดูดวงแบบฟรีๆ เพียงแค่ส่งอีเมลมาที่ [email protected] โดยส่งรูปถ่าย ชื่อนามสกุล รวมจนถึงปัญหาที่อยากให้เมย์ช่วย เพียงแค่นี้เมย์และทีมงานจะไปเคาะประตูดูดวงให้ถึงบ้านเลยทีเดียว

หมอดูหน้าใส แมน-เมย์