กวี ชูกิจเกษม คุณพ่อ(นักลงทุน)คนดีที่หนึ่ง
กวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย นักกลยุทธ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2551 (นักลงทุนรายย่อย)
กวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย นักกลยุทธ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2551 (นักลงทุนรายย่อย)
โดย...จอยฟูล ซีเล็คชัน
กวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย นักกลยุทธ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2551 (นักลงทุนรายย่อย) จากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักกลยุทธ์ยอดเยี่ยมปี 2552 และนักวิเคราะห์ขวัญใจสื่อมวลชน ปี 2554 จากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ใกล้ถึงวันพ่อปีนี้มาเล่าให้ฟังถึงบทบาทของการเป็นคุณพ่อนักลงทุน
“ปรัชญาการเลี้ยงลูกของผมน่ะหรือ การเลี้ยงลูกที่ดี คือ การทำให้คนเลี้ยงมีความสุขก่อน เพราะฉะนั้น ภารกิจอันดับแรกของผมคือการทำให้คุณแม่ของลูกมีความสุข”
กวีหมายถึงภรรยา “ชนิดา ชูกิจเกษม” ซึ่งเป็นหลักอยู่ที่บ้านในการเลี้ยงดูแลบุตรชายคนเดียว “กันต์กวี” หรือน้องวิล อายุ 8 ขวบ เขาเล่าว่า การสั่งสอนลูกแบ่งหน้าที่กัน ภรรยาจะเป็นผู้สอนเรื่องการใช้ชีวิต ขณะที่เขาจะเป็นผู้สอนเกี่ยวกับการลงทุน ฮ้า! สอนความรู้เรื่องการเงินการลงทุนกันตั้งแต่เล็กแต่น้อย น้องวิลจะไม่เบื่อแย่หรือ
กวี ตอบว่า ทุกเรื่องเป็นเรื่องสนุกได้ ความรู้เรื่องการออมและการลงทุนก็เช่นกัน น้องวิลเรียนรู้แบบค่อยๆ ซึมซับมาตั้งแต่เล็ก ให้มีความรู้ความเข้าใจเริ่มจากการออม ที่บ้านจะมีกล่องสำหรับให้นำเงินเหลือมาเก็บออมไว้ พ่อแม่ให้เงินค่าขนมรายวันไป ต้องรู้จักใช้ รู้จักเหลือ นำเงินที่เหลือเก็บมาใส่กล่อง ขั้นตอนการออมผ่านมาได้ไม่ยาก น้องวิลเข้าใจดี สมกับเป็นลูกชายคนเดียวของนักกลยุทธ์และนักวิเคราะห์ขวัญใจสื่อ
“เขาจะไม่ขอเงินหรือขออะไรง่ายๆ เนื่องจากคอยดูให้เขาเข้าใจว่า ถ้าจะซื้ออะไรก็ต้องแลกกับอะไร อยากได้ไอแพดหรือ ให้เรียนจบปีนี้ก่อน ต้องทำคะแนนให้ได้ในระดับที่กำหนดก่อน จะได้อะไรต้องมีเงื่อนไข ผมถือว่าคนทุกคนต้องเจอสิ่งนี้ เงื่อนไขชีวิตที่ลูกผมหรือไม่ว่าใคร ต่อไปต้องเจอแน่”
นักกลยุทธ์ยอดเยี่ยมเล่าต่อ ปัจจุบันเริ่มสอนให้รู้จักการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งใจว่าในระหว่างที่น้องวิลอายุ 8-14 ปี หรือ 7 ปีต่อไปนี้ จะค่อยๆ อบรมเรื่องการลงทุนในหุ้น เริ่มจากการพาน้องไปกินข้าวหรือไปเที่ยวไปโรงพยาบาล ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะชี้ให้ดูกิจการที่คุณพ่อเข้าไปซื้อลงทุน ให้รู้จักพอร์ต รู้จักตัวย่อหลักทรัพย์ การซื้อการขาย การมีกำไรและขาดทุน เรียนรู้เรื่องเงินปันผล ให้ลูกรู้จักใช้เงินออกไปทำงาน
“ผมไม่ต้องการให้ลูกเป็นลูกจ้าง แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้ลูกไม่เป็นลูกจ้าง ผมต้องการให้ลูกมีทางเลือกในชีวิต มีหลักในการใช้เงิน หลักในการลงทุน รู้คุณค่าของเงิน และรู้คุณค่าของชีวิต” กวี เล่า
ยอดคุณพ่อตั้งใจไว้ถึงอนาคตน้องวิลว่า ในอีก 7 ปี จะมอบเงินให้น้อง 1 ล้านบาท เพื่อให้น้องนำไปใช้(หัด)ลงทุนในตลาดหุ้น ถึงตอนนั้นคุณพ่อมั่นใจว่าน้องจะมีความรู้ในหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พอสมควร รวมทั้งรู้จักการลงทุนในหุ้นอย่างดีแล้ว ไม่ซื้อหรือตัดสินใจง่ายๆ อย่างเด็ดขาด
หลักการใช้ชีวิต ปรัชญาและคุณธรรมในการใช้ชีวิต คุณพ่อกวีไม่ห่วง เพราะเชื่อมือคุณแม่ว่าสบายมาก ส่วนเรื่องการลงทุน คุณพ่อก็ไม่ห่วงเช่นกัน 7 ปีข้างหน้า น้องวิลคงได้เรียนรู้เคล็ดลับและกลยุทธ์การลงทุนจากคุณพ่อไม่น้อย คิดแล้วก็ชักจะอิจฉาน้องวิล ที่มีคุณพ่อมือหนึ่งอยู่ใกล้ๆ


