posttoday

รุ่งทิพย์ ลุยเลา ออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม

09 พฤศจิกายน 2555

หมอนอิงรวมทั้งเบาะนั่งสุดเก๋ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้าน Scrap Shop ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โดย...วราภรณ์

หมอนอิงรวมทั้งเบาะนั่งสุดเก๋ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้าน Scrap Shop ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หากใครไม่สังเกตดีๆ จะไม่รู้ว่าของตกแต่งบ้านชิ้นนี้ตัดเย็บมาจากผ้าม่านในโชว์รูมที่ไม่ใช้งานแล้ว เมื่อผ่านแนวคิดการพัฒนาสินค้าของ รุ่งทิพย์ ลุยเลา อาจารย์ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่สวมบทบาทเป็นผู้บริหารร้าน และมี ดร.สิงห์ อินทรชูโต เป็นที่ปรึกษา ก็ทำให้ขยะกลายเป็นของตกแต่งบ้านเก๋ๆ สุดแนว ในอนาคตนอกจากพัฒนาวัสดุเหลือใช้ไม่เพียงขายแต่ในประเทศเท่านั้น ทีมงานยังคิดผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่ใครบางคนอาจไม่เห็นคุณค่า กลายเป็นสินค้าส่งออก “เมดอินไทยแลนด์” นำรายได้กลับสู่ประเทศเร็วๆ นี้อีกด้วย

งานดีไซน์จากวัสดุเหลือใช้ : รุ่งทิพย์สนใจงานด้านการอนุรักษ์ตั้งแต่เรียนปริญญาโท คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้ทำการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เช็กสภาพการจราจร และทำวิจัยเรื่อง “น้ำซักผ้า” มีผลกระทบอย่างไรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้แค่เพียงน้ำซักผ้าก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว เมื่อเธอรับราชการเป็นอาจารย์สอนด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เธออยากให้เด็กๆ ทำชิ้นงานออกแบบออกมาได้ดี แต่ลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการออกแบบ เธอจึงสนับสนุนให้นิสิตออกแบบงานจากเศษวัสดุที่มีผู้บริจาคมาทำเป็นชิ้นงาน ทำให้เกิดความคิดต่อยอดสู่งานออกแบบวัสดุเหลือใช้จำพวกขยะชนิดต่างๆ ให้กลายเป็นสิ่งของน่าใช้ได้

รุ่งทิพย์ ลุยเลา ออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม

 

“ร้าน Scrap Shop เป็นเหมือนร้านพัฒนาขยะให้กลายเป็นของใช้และตกแต่ง ซึ่งงานเดิมๆ ของดิฉันก็เคยทำกระเป๋าจากเศษวัสดุเหลือใช้ ผลิตกระเป๋าหลากชนิด หรือหากนักออกแบบที่คิดออกแบบวัสดุที่เหลือใช้แล้วมาประดิษฐ์เป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็สามารถนำมาฝากวางจำหน่ายที่ร้านได้ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ใช้วัสดุต่างๆ ให้คุ้มค่าที่สุด”

หน้าที่ผู้บริหารร้านคือดูแลความเรียบร้อยภายในร้าน รวมทั้งคิดผลิตสินค้าต่างๆ ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้น่าใช้ ช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดูแลด้านการออกแบบ มองการตลาด หากลยุทธ์ให้สินค้าได้รับความสนใจและถูกขายออกไปเพื่อให้ร้านมีรายได้ที่ยั่งยืน

“จุดประสงค์ของการตั้งร้าน เพราะมหาวิทยาลัยเห็นว่าอาจารย์สิงห์ทำงานด้านออกแบบวัสดุเหลือใช้อยู่แล้ว และทำมานาน เห็นว่ามีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่พัฒนาภายในห้องทดลองของอาจารย์ และน่าที่จะนำมาทำการค้าได้ ช่วงหนึ่ง 3-4 ปี มหาวิทยาลัยทำโครงการรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ทางเดินสีขาว เพราะมหาวิทยาลัยเรารักษ์เรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงนำของในห้องทดลองของอาจารย์สิงห์มาขาย ขายอย่างไรก็ต้องมีร้าน ร้านจึงถูกจัดตั้งขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางจำหน่ายในร้านพัฒนาจากผลงานของนิสิตเอง รวมทั้งชุมชนที่ทางเกษตรศาสตร์ไปช่วย โดยเน้นช่วยพัฒนาเศษวัสดุที่มีปัญหากับสิ่งแวดล้อม เราพัฒนาสินค้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2552”

พัฒนาวัสดุเหลือใช้กลายเป็นสินค้าส่งออก : ประเทศไทยได้ชื่อว่ามีฝีมือด้านหัตถกรรม ทีมงาน Scrap Shop ตั้งเป้าไว้ว่าจะพัฒนาสินค้าส่งออกไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย “เรามีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อสินค้าในร้านก็เยอะ เนื่องจากเรามีของไปวางขายที่ดิจิตอล เกตเวย์ ซึ่งเป็นช่องทางให้เราเจอลูกค้ากลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ตอนนี้เราจึงต้องผลิตสินค้าเพื่อซัพพอร์ตร้านที่นั่นอยู่ แต่คนไทยยังมีคำถามอยู่ ซึ่งหลักๆ เรามีสินค้าทั้งกลุ่มแฟชั่น กระเป๋า เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ภายในออฟฟิศ และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งบางร้านเฟอร์นิเจอร์คิดไม่ออกว่าเศษวัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่เขาเหลือจะนำไปทำอะไรได้บ้าง เราจะไปช่วยคิดออกแบบ เมื่อเขาผลิตได้เราจะเป็นหน้าร้านให้เขานำของมาจำหน่าย ส่วนของแฟชั่นเครื่องประดับเราจะพัฒนาภายในร้าน โดยมีดิฉันเป็นนักออกแบบ มีนิสิตมาช่วยทำ ช่วยคิดออกแบบด้วย ผู้จัดการร้านก็เป็นนิสิตเก่าคณะคหกรรมศาสตร์มาช่วยกันออกแบบ ช่วยกันพัฒนาปรับปรุงไปเรื่อยๆ พอได้วัสดุเหลือใช้มา เราทดลองทำว่าทำได้ แล้วค่อยไปสอนคนอื่น สอนชุมชนที่ร่วมโครงการกับเราว่า วัสดุที่เขาเห็นว่าไร้ค่าจะกลายเป็นขยะอยู่แล้ว แต่ถ้านำกลับมาผ่านกระบวนการคิด ออกแบบและทำแล้ว ขยะก็จะกลายเป็นของมีค่าได้ ซึ่งกระบวนการคิดต้องอาศัยความอดทน แล้วชาวบ้านก็จะหวงแหนขยะ คิดก่อนทิ้งเสมอ”

รุ่งทิพย์ ลุยเลา ออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม

 

กระบวนการออกแบบต้องคิดอย่างรอบคอบ : การออกแบบต้องผ่านกระบวนการคิดอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เขากลายไปเป็นขยะกองใหม่ ดังนั้นงานออกแบบของอาจารย์รุ่งทิพย์ไม่ใช่ทำให้ชิ้นงานออกไปสวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องรู้จักเศษวัสดุนั้นๆ ด้วย

“หัวใจหลักของการออกแบบเศษวัสดุคือ ทำอย่างไรก็ได้ ทั้งคิดทดลอง ให้ความแข็งแรง เพื่อพบว่าวัสดุนำมาใช้ประโยชน์ได้ แล้วทำให้ลูกค้าอยากซื้อ และเห็นว่ามันใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ในมุมมองของเขา งานของเราจึงไม่ใช่ออกแบบให้มันสวย แต่ยังต้องวิจัยพัฒนาไปด้วย ทำเพื่อให้รู้ คุณสมบัติคืออะไร พอมาทำร้านแล้วดิฉันค้นพบว่า งานฝีมือช่วยเราได้เยอะ เพราะเราไม่มีเครื่องจักร แต่เรามองภาพเรื่องการอนุรักษ์ คนจะมองเป็นภาพใหญ่ มันต้องมีกติกาเยอะ เช่น การบำบัดน้ำเสีย คาร์บอนฟุตพรินต์ แต่เรามองว่าเราไม่ต้องไปไกลขนาดคิดเป็นโกลบอล แต่ให้คิดว่าขอแค่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเล็กๆ นำขยะที่จะทิ้งมาพัฒนา แล้วมันก็จะเกิดประโยชน์ ขยะก็จะไม่เป็นขยะกลายเป็นปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เราอยากให้คนกลุ่มเล็กๆ เริ่มค่อยๆ คิด ค่อยๆ ช่วยกัน คนละเล็กละน้อย ค่อยๆ เริ่มอีกหน่อยก็ดีเอง คือเราอย่าไปพุ่งเป้าที่อุตสาหกรรมอย่างเดียว แต่เราต้องเริ่มที่ตัวเราเป็นจุดเล็กๆ ก่อน เราในฐานะผู้บริโภคค่อยๆ ช่วยกันเองก่อนที่จะไปบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ”

 

 

ข่าวล่าสุด

‘เท้ง ณัฐพงษ์’ เยี่ยมศูนย์อพยพชายแดนไทย-กัมพูชา หวัง สถานการณ์คลี่คลาย