ยิ่งรักลูกสมองเด็กยิ่งพัฒนา

คำกล่าวที่ว่าความรักความอบอุ่นในครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่มีพลังและยิ่งใหญ่มาก

จนยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบเสมอเหมือนได้ ดูเหมือนจะเป็นความจริงที่หลายคนไม่อาจปฏิเสธได้เลย

เพราะล่าสุดได้รับการยืนยันจากผลวิจัยของ อัลเลน สโคลเล ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอในอังกฤษ ที่ระบุว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวอย่างอบอุ่นและมอบความรักให้อย่างเพียงพอ มักจะมีขนาดสมองที่ใหญ่กว่าและมีจุดสีดำน้อยกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูอย่างปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ

กล่าวให้เข้าใจได้ง่ายกว่านั้นคือ เด็กที่เลี้ยงดูดีจะมีสมองที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการรับมือกับความเครียดได้ดีกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงไม่ค่อยดี

“เด็กที่เลี้ยงดูมาอย่างไม่เหมาะสมในวัยเด็กโดยเฉพาะที่ต่ำกว่า 2 ขวบ จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการพัฒนาในส่วนสำคัญของสมอง” สโคลเล กล่าว

นักวิจัยยังกล่าวอีกโดยอ้างผลการศึกษาที่ได้มาจากการทดลองสแกนสมองเด็กอายุ 3 ขวบสองคนที่ถูกเลี้ยงดูต่างกัน โดยระบุว่าเด็กที่เลี้ยงดูมาอย่างดีและได้รับความอบอุ่นจะมีขนาดสมองที่ใหญ่กว่า และมียีนหลายตัวที่มีหน้าที่ในการทำงานสำคัญของสมอง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความฉลาดมากกว่าเด็กที่เลี้ยงดูมาไม่ดี

นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่าเด็กที่เลี้ยงดูมาไม่ดีและขาดความอบอุ่น มีแนวโน้มที่จะติดยาเสพติด ใช้ความรุนแรง และมีโอกาสในการป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ และโรคร้ายอื่นๆ ได้มากกว่าอีกด้วย

ผลวิจัยดังกล่าว สอดรับกับผลการศึกษาที่จัดทำโดยนักวิจัยด้านจิตวิทยาและประสาทวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์เซนต์หลุยส์ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าเด็กวัยเรียนที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างอบอุ่นตั้งแต่ยังเล็ก จะมีความสามารถในการเรียนรู้และเฉลียวฉลาดกว่าเด็กที่เลี้ยงดูมาไม่ดี

“โครงสร้างของสมองเด็กที่เลี้ยงดูมาอย่างอบอุ่นจะมีขนาดของฮิปโปแคมปัสใหญ่กว่า ซึ่งส่วนดังกล่าวมีหน้าที่สำคัญในการเรียนรู้และจดจำรวมถึงตอบสนองต่อความเครียด” ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เซนต์หลุยส์ ระบุ

ด้วยเหตุนี้ ผลการวิจัยนี้จึงเป็นการตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่าความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกมีความสำคัญขนาดไหน

ฉะนั้น จงอย่าลืมที่จะมอบความรักความอบอุ่นต่อกันให้มาก เพราะความรักและความอบอุ่นนอกจากจะเป็นการสร้างความผูกพันให้ครอบครัวแข็งแกร่งแล้ว ยังส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กๆ อีกด้วย