posttoday

อบอุ่นใกล้ชิดแบบตระกูลจุฬางกูร

14 ตุลาคม 2555

โดย...กันย์

โดย...กันย์

นักธุรกิจหนุ่มหน้าใส ณัฐพล จุฬางกูร กรรมการบริหาร บริษัท ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ซัมมิท วินด์มิลล์กอล์ฟคลับ แอนด์ เรสซิเดนซ์ เขาเกิดมาในครอบครัวนักธุรกิจ ที่บ้านมีธุรกิจหลายอย่าง ทั้งโรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟ ชิ้นส่วนรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ เขาเป็นลูกคนที่ 3 ของครอบครัวที่มีลูกชายล้วนถึง 6 คน (อภิชาติ ทวีฉัตร ณัฐพล กรกฤช วุฒิภูมิ อัครพงศ์) ที่รอถึง 6 คน เพราะคุณพ่อ (ดร.สรรเสริญ) และคุณแม่ (หทัยรัตน์) ท่านอยากได้ลูกสาวถึงรอมาเรื่อยๆ แล้วก็ไม่ได้ ท่านก็เลยพอแล้วหยุดไม่รอ

เขาเล่าว่า ด้วยความที่เกิดมาในครอบครัวที่บ้านทำธุรกิจ ช่วงที่เขาเริ่มโตเป็นช่วงที่คุณพ่อกำลังขยายงานหลายอย่าง ดังนั้นลูกชาย 3 คนแรกที่พอโตรู้เรื่องแล้ว คุณพ่อจะพาไปทำงานด้วยตอนปิดเทอมหรือวันหยุด “เวลาคุณพ่อประชุม ท่านก็จะเอาพวกเราไปนั่งหลังห้อง เอาไปคุยงานด้วยตลอด เพราะท่านอยากให้เราซึมซับและให้พอคุ้นเคยกับเรื่องธุรกิจตั้งแต่เด็ก พอประชุมเสร็จคุณพ่อก็จะหันมาถามพวกเราว่ารู้เรื่องไหม เขาคุยอะไรกันบ้าง แล้วให้พวกเราแต่ละคนเล่าในสิ่งที่เราฟังว่าเข้าใจอย่างไรให้ท่านฟัง” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

อบอุ่นใกล้ชิดแบบตระกูลจุฬางกูร

 

พออายุ 17-18 เวลามีประชุมอะไรของบริษัทที่ไม่สำคัญมาก ท่านก็จะให้เราเข้าไปฟังแทน แล้วก็มาสรุปให้ท่านฟังว่าเขาประชุมอะไรกัน เรามีความเห็นอย่างไรบ้าง แล้วท่านจะมีรางวัลให้เวลาที่เราตอบได้ดี เรียกว่าฝึกกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ท่านอยากให้เรามาช่วยธุรกิจเมื่อเรียนจบ มีเป้าหมายชัดเจน ท่านตั้งใจจะสอนจะถ่ายทอดธุรกิจให้เราตั้งแต่เรียน ม.ปลายเลย

ถึงตอนนี้ลูกๆ โตเป็นหนุ่มกันหมดแล้ว ท่านก็แบ่งงานให้ลูกๆ ดูแลกันหมด ตัวท่านเองก็ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่ ท่านยังไปทำงานทุกวัน ลูกคนไหนอยากคิดทำอะไรก็ไปปรึกษาท่านได้ ท่านใจดี เรื่องอื่นๆ ท่านก็เลี้ยงลูกแบบสบายๆ ไม่กดดันอะไรมาก ท่านจะเข้มงวดเรื่องธุรกิจกับระเบียบวินัยเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็ให้โอกาสลูกได้คิดได้ทำ ท่านจะดูแค่ภาพกว้างๆ

ส่วนคุณแม่ ตอนเด็กๆ ท่านก็เน้นเรื่องระเบียบวินัย ความสะอาด พอโตก็ไม่ได้เข้มงวดอะไรนัก เลี้ยงลูกชายไปตามธรรมชาติสบายๆ แต่ให้รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ เวลาจะทำอะไรท่านก็ให้ลูกๆ โหวต แล้วเลือกตามเสียงข้างมาก

เมื่อก่อนคุณแม่ก็จะช่วยธุรกิจคุณพ่อ ท่านดูแลเรื่องการเงิน ท่านทั้งสองเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน ท่านทุ่มเท จริงจังกับงานมาก แล้วให้โอกาสลูกได้ลองผิดลองถูกได้ โดยท่านจะเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ให้โอกาสลูกเสมอ ท่านจะสอนว่าอย่าไปเอาเปรียบใคร

“แต่ถ้าเราเสียเปรียบคนนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เป็นไร เพื่อให้คนอื่นได้สบายใจบ้าง ท่านจะสอนว่าอะไรที่เราไม่ชอบก็อย่าไปทำกับคนอื่น ท่านสอนให้เราควรจะเป็นผู้ให้กับคนอื่นบ้าง ที่สำคัญอย่าทำตัวเด่นดังเกินไป ให้อยู่เบื้องหลังจะดีกว่า จะได้ไม่เด่นเกิน” เขากล่าวทิ้งท้าย

ทุกวันนี้แม้จะแยกบ้านกันไปบ้าง แต่ลูกๆ ก็กลับมาทุกอาทิตย์ มารับประทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ พาหลานๆ มาเยี่ยม น้องๆ บางคนก็ยังไม่ได้แยกบ้านออกไป

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2