เมืองโอ่ง

โดย...นายทองดี

เมืองโอ่ง ใครๆ ก็รู้จักว่าหมายถึง จ.ราชบุรี เพราะความที่มีการปั้นโอ่งลายมังกรคุณภาพเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา แม้ทุกวันนี้การใช้ภาชนะกักเก็บน้ำเปลี่ยนไป โอ่งน้ำก็ยังคงอยู่ แต่อาจเปลี่ยนหน้าที่ในการใช้งานไปบ้าง รวมทั้งรูปแบบสีสันก็ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย

วันนี้ ถ้าใครผ่านไปทางถนนสายเจดีย์หักเขางู ถนนที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางผ่านไป อ.สวนผึ้ง อาจได้เห็นโอ่ง อ่าง กระถาง เรียงรายอยู่ริมถนนก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการโรงงานและผู้ค้าพากันจับจองพื้นที่ 2 ฝากถนน ตกแต่งเป็นหน้าร้านเพื่อเชิญชวนลูกค้าให้แวะมาเลือกช็อปทั้งไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ จนกลายเป็นย่านการค้าที่คึกคัก

น่าดีใจที่กระทรวงพาณิชย์และสำนักพาณิชย์จังหวัดราชบุรี เข้าไปช่วยส่งเสริมและรวมกลุ่มผู้ค้า จากปีที่แล้วที่มีผู้ประกอบการ 29 ร้าน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 33 ร้าน ผู้ประกอบการแต่ละรายผลิตงานไม่เหมือนกัน เมื่อมารวมกันแล้วจึงกลายเป็นย่านขายโอ่งที่หลากหลาย

ณรงค์ แก้วอร่าม เจ้าของร้านรัตนโกสินทร์ ที่เปิดร้านให้เข้าเยี่ยมชม เล่าว่า “จากที่เมื่อก่อนต่างคนต่างปั้น ต่างคนต่างขาย ก็มารวมกลุ่มกันอย่างชัดเจนเมื่อ 2-3 ปีก่อน บนถนนสายเจดีย์หัก-เขางู เพราะมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมาก็แวะซื้อกันมากขึ้น ที่นิยมกันมากคือกระถางมังกรปลูกบัว”

ลุงสุเทพ หนึ่งในช่างปั้นกำลังปั้นดินขึ้นรูปลายมังกรรอบกระถางขนาดใหญ่ บอกว่า “เมื่อก่อนหัดทำตามบ้านเพราะมีการทำโอ่งมังกรกันเยอะ แต่ตอนนี้แรงงานฝีมือหายาก เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยทำกันแล้วเพราะเป็นงานละเอียดต้องอดทน แต่พอเราทำจนชินแล้ว ก็ใช้เวลาไม่นาน อย่างกระถางใหญ่ๆ ที่เห็นนี้ก็ใช้เวลาขึ้นตัวมังกรราวๆ ครึ่งชั่วโมง”

หลังออกจากโรงงานรัตนโกสินทร์ แวะไปต่อที่โรงงานเซรามิก เถ้าฮ่งไถ่ โรงงานผลิตโอ่งมังกรแห่งแรกของเมืองราชบุรี ซึ่ง พงษ์ศักดิ์ สุพานิชวรภาชน์ หนึ่งในทายาทเถ้าฮ่งไถ่ บอกว่า “ทางโรงงานเปลี่ยนแปลงการผลิตมาเป็นรูปแบบโมเดิร์นขึ้น เน้นที่การตกแต่ง ซึ่งก็ได้ลูกค้าเป็นพวกรีสอร์ต โรงแรม โดยเราผลิตตามออร์เดอร์ แต่บางทีลูกค้ามาเห็นสถานที่ มาเห็นตัวอย่างสินค้า ก็อยากจะปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือสี เราก็ทำ แต่ปัญหาตอนนี้คือการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะเมื่อมีมาตรการค่าจ้าง 300 บาท เราจ้างไม่ไหว แรงงานก็ย้ายไปทำงานที่อื่น เราก็ต้องหาวิธีการใหม่ๆ แต่ทุกขั้นตอนยังต้องอาศัยแรงงานคน” เรื่องงานฝีมือมักจะมีปัญหาเรื่องแรงงานฝีมืออยู่เรื่อย สำหรับเราที่เป็นคนนอกถ้าอยากเห็นงานฝีมืออยู่คู่คนไทยไปนานๆ ก็ต้องช่วยกันซื้องานฝีมือคนไทย เลือกซื้อป้ายเมด อิน ไทยแลนด์

&<2288;