อาหารไทยขึ้นโต๊ะ กินแบบผู้นำประเทศ
บลู เอเลเฟ่นท์ นำเสนอเทศกาลอาหารประจำปีล่าสุด ภายใต้แนวคิด “Art of Thai Cuisine” เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาส
โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล
บลู เอเลเฟ่นท์ นำเสนอเทศกาลอาหารประจำปีล่าสุด ภายใต้แนวคิด “Art of Thai Cuisine” เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ “อาคารไทย-จีน” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนสอนทำอาหารและภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ ครบรอบ 109 ปี ตลอดเดือน ก.ย.นี้
เมนูพิเศษ “Art of Thai Cuisine” ที่รังสรรค์ขึ้นโดยมาสเตอร์เชฟ นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ปีนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นเมนูอาหารไทยชุดที่ได้ขึ้นโต๊ะเลี้ยงรับรองนายพลเต็งเส่ง ประธานาธิบดีของพม่า เมื่อครั้งเยือนไทยเมื่อไม่นานมานี้มาแล้ว
มาสเตอร์เชฟ นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ แสดงให้เห็นว่า อาหารไทยนั้นสามารถนำเสนอในลักษณะแบบ Finedinning ได้อย่างสบายๆ แถมยังเป็นเมนูให้การต้อนรับผู้นำระดับประเทศอีกด้วย
เริ่มเสิร์ฟแบบน่ารักๆ กับเมี่ยงคำ ที่มาเป็นชุดน่ารักๆ เหมือนเด็กๆ เล่นทำครัว กับใบชะพลูที่ม้วนมาเป็นกรวย พร้อมสำหรับการเติมเครื่องเมี่ยงลงไป ตั้งแต่ถั่วอบ เนื้อมะพร้าวเผา หอมแดง ขิง พริกขี้หนูซอย ตะลิงปลิง โปะหน้าด้วยซอสที่เคี่ยวจากน้ำตาลโตนด ข่า และกะปิ ห่อเสร็จจับเข้าปากได้เลย
จานแรกเสิร์ฟมาพร้อม ลาบแซลมอนม้วน ซึ่งมาสเตอร์เชฟ นูรอ คิดค้นเมนูนี้ครั้งแรกขณะที่ไปโชว์ทำอาหารไทยที่โตเกียว เบย์ ฮิลตัน โดยเห็นว่า แซลมอนดิบๆ นั้นน่าจะเข้ากับเมนูทางภาคอีสานอย่าง ลาบ ได้ดี ด้วยส่วนผสมของตะไคร้กับผักสมุนไพรหลายชนิด พันม้วนไปกับแซลมอนรมควัน ได้รสชาติเข้มข้น
ตามมาด้วย หอยเชลล์ซอสพริกไทยดำ มาสเตอร์เชฟ นูรอ ใช้หอยเชลล์ไทยตัวเล็กๆ ราดด้วยซอสพริกไทยดำกับตะไคร้ โปะอีกชั้นด้วยแพนเซียร์ฟัวกราส์ราดด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลและตะไคร้กรอบ จานนี้รสชาติเข้มข้นตั้งแต่ตะไคร้กรอบไปจนถึงหอยเชลล์ (ชั้นล่างสุด) ทีเดียว
พรีเซนเตชันน่ารักๆ อีกจาน ถุงทองเขียวหวาน เป็นถุงทองสอดไส้เนื้อกุ้งและเนื้อปูที่ปรุงกับเครื่องแกงเขียวหวานของบลู เอเลเฟ่นท์ เสิร์ฟมาพร้อมซอสสับปะรดแบบโฮมเมด อีกจานที่สวยไม่แพ้กัน พร้อมดูดีมีสุขภาพ พล่าล็อบสเตอร์อโวคาโด พล่าล็อบสเตอร์ที่ประกอบด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรไทยหลากชนิด เสิร์ฟมาในถ้วยอโวคาโดจากโครงการหลวง ได้รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครอบสูตรอาหารไทย
จานเด็ดอีกจานต้องยกให้ (ความชอบส่วนตัวของผู้เขียน อิอิ) ข้าวซอยซี่โครงหมูอ่อน (หรือไก่บ้าน) ข้าวซอยตำรับอาหารเหนือแท้ๆ เลือกได้ว่าจะกินซี่โครงหมูหรือจะเป็นไก่บ้าน เสิร์ฟพร้อมหอมแดงซอยและผักกาดดอง
ล้างปากกันด้วย แพสชันฟรุตซอร์เบต์ ซอร์เบต์เสาวรส เสิร์ฟมาในเปลือกแก้วมังกร ก่อนรับประทานท็อปปิงด้วยแชมเปญ ช่วยลดทอนความเปรี้ยวของเสาวรสให้ได้รสชาติกลมกล่อม
ว่าแล้วก็มาถึงเมนคอร์สแบบจัดเต็ม เสิร์ฟมาเป็นสำรับ ตั้งแต่ มัสมั่นแกะ (หรือเนื้อวางุ) อาหารไทยที่ติดอันดับโลกจานนี้ที่บลู เอเลเฟ่นท์ อร่อยจนหยุดไม่ได้นอกจากเนื้อแกะนุ่มๆ และเครื่องแกงที่ถึงรสแล้ว ยังมีถั่วแมกคาเดเมียที่กรอบมันอยู่ในน้ำแกง
ปลาเก๋าเต้าซี่ เนื้อปลาเก๋าชิ้นโตนำไปทอดแบบไม่ใช้น้ำมัน ราดด้วยซอสเต้าซี่ (ทำจากเต้าเจี้ยว ขิง กระเทียม น้ำตาลปึก และน้ำมะขาม) เสิร์ฟพร้อมขิงซอย กุ้งลายเสือทอดผัดพริกขิง กุ้งลายเสือตัวเขื่องจี่ในกระทะ เสิร์ฟมากับผัดพริกขิง (ถั่วฝักยาวผัดกับเครื่องแกงแดงของบลู เอเลเฟ่นท์)
อีกเมนู หน่อไม้ฝรั่งเนื้อปู อาหารจานง่ายๆ สำหรับคนไม่กินรสจัด หน่อไม้ฝรั่งนึ่ง ราดด้วยเนื้อปูผัดน้ำมันหอย
ทั้งหมดเสิร์ฟมากับ ข้าวลืมผัวห่อใบบัว ที่ปรุงพร้อมธัญพืชหลากหลาย
ปิดท้ายกันแบบน่ารักๆ (อีกแล้ว) ด้วยหลากหลายของหวานแบบไทยๆ ตั้งแต่ หม้อแกงเกาลัด ข้าวเหนียวมะม่วง ทาร์ตเสาวรส และขนมชั้นกับผลไม้
เมนูพิเศษ “Art of Thai Cuisine” เสิร์ฟพร้อมแชมเปญ 1 แก้ว ราคา 2,400 บาท++ ต่อท่าน ภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ โทร. 0267393538


