สตีล บอล รัน ผจญภัยสุดทวีป

โดย...มิสเตอร์ร็อกแมน

สตีล บอล รัน เป็นการ์ตูนภาคเสริมของ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ หนึ่งในผลงานของ ฮิโรฮิโกะ อารากิ เป็นเรื่องราวโลกคู่ขนานกับโจโจ้ มีความเกี่ยวพันกันแค่เครือญาติของตระกูลโจสตาร์ ก็คือ โจนี โจสตาร์ ที่มีสแตนด์กรงเล็บ ในประวัติศาสตร์โลกของโจโจ้มีการบันทึกเรื่องราวการแข่งขันขี่ม้าข้ามทวีปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง ราวๆ ปี ค.ศ. 1890 ในยุคที่รถจักรไอน้ำข้ามทวีปกำลังเฟื่องฟู และการเดินทางด้วยม้ายังเป็นที่นิยม สตีเฟน สตีล มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน จึงจัดการแข่งขันการขี่ม้าข้ามทวีป เริ่มต้นที่ชายหาดซานดิเอโก บีช ริมฝั่งแปซิฟิก สู่จุดหมายปลายทางที่นิวยอร์ก รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 6,000 กิโลเมตร นับเป็นการแข่งม้าวิบากที่ทรหดที่สุดในโลก แต่รางวัล 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ล่อตาล่อใจนักผจญภัยไม่น้อยเลยทีเดียว การแข่งขันครั้งนี้มีชื่อว่า สตีล บอล รัน

ตัวเอกของเรื่องนี้ก็คือ ไจโร เซปเปลี ผู้มีความสามารถในการหมุนบอลด้วยความเร็วสูง ข้างกายของไจโรจึงมีลูกเหล็กติดตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อยามคับขันเขาสามารถหมุนลูกเหล็กเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งประยุกต์ใช้เป็นอาวุธร้ายแรงได้ ไจโรเป็นหนึ่งในนักแข่งจำนวนพันกว่าคนที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ แต่เป้าหมายของเขานั้นไม่เหมือนกับคนอื่นที่ต้องการเอาเงินไปซื้อในสิ่งที่ต้องการ ไจโรหวังชนะการแข่งขันเพื่อช่วยชีวิตเด็กที่กำลังถูกประหารในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำเท่านั้น

การแข่งขันครั้งนี้เองทำให้ไจโรได้พบกับ โจนี โจสตาร์ สายเลือดตระกูลโจสตาร์ผู้ตกอับ แต่การที่เขาได้พบกับวิชาหมุนลูกเหล็กในการแข่ง สตีล บอล รัน ทำให้โจนีมีแรงฮึดกลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง เป้าหมายของเขาก็ไม่ได้หวังเงินรางวัลเพียงอย่างเดียว โจนียังต้องการเคล็ดวิชาการหมุนลูกเหล็กของไจโรว่าเขาทำได้อย่างไร โดยที่ไม่ได้พึ่งพลังสแตนด์เข้าช่วย

ระหว่างทางนอกจากผู้เข้าแข่งขันจะต้องเผชิญกับความป่าเถื่อนของเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังต้องเผชิญกับปริศนาบางอย่างระหว่างทางที่อาจจะเป็นกุญแจไขปริศนาพลังสแตนด์ในภาคโจโจ้ก็เป็นได้ โดยเฉพาะตัวละครที่ชื่อ แซนด์แมน ชาวอินเดียนแดงผู้ล่วงรู้ความลับพลังสแตนด์จากดินแดนของเขาเอง ซึ่งแซนด์เองก็ต้องการเงินรางวัลเพื่อซื้อที่ดินของเผ่าอินเดียนแดงที่ถูกยึดไปคืนมาเช่นกัน และปัจจุบัน สตีล บอล รัน ก็ยังไม่จบสมบูรณ์ ไจโรยังคงต้องใช้ความสามารถฝ่าฟันกับผู้เข้าแข่งขันที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป ในการเดินทางกว่า 6,000 กิโลเมตร สิ่งหนึ่งในภาคนี้ที่นักอ่านชอบมากที่สุดไม่ได้เป็นเพราะเรื่องราวที่ชวนติดตาม แต่เป็นเพราะลายเส้นของอารากิที่สวยงามกว่าโจโจ้ในภาคปกตินั่นเอง