ปั้นจั่นกับฮอว์กกี้ หนุ่มดื้อกับหมาดื้อ...ที่ดื้อพอๆ กัน

โดย... จตุรภัทร หาญจริง / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ถ้าสัตว์เลี้ยงคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของ “ฮอว์กกี้” สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี ตัวนี้ คงเป็นสิ่งสะท้อนตัวตนของ ปั้นจั่นกวิน อิ่มอโนทัย พิธีกรรายการปาปาย๊าคซี่ + ทางช่อง 5 หลังรายการแฟนพันธุ์แท้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนุ่มหล่อมาดเท่คนนี้บอกกับเราว่า “ผมดื้อ หมาผมก็ดื้อ แถมดื้อเงียบด้วย”

“ก่อนหน้าที่จะมีเจ้าฮอว์กกี้ ที่บ้านผมมีหมาประมาณ 11-12 ตัว แต่ว่าเป็นหมาพันธุ์ทางหมดเลย ผมเลยใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากมีหมาฝรั่ง พอหมดล็อตหมาพันธุ์ทางกลุ่มนี้ไป ก็มีหมาพันธุ์ทางกลุ่มใหม่หลงทางเข้ามา ก็รับเลี้ยงไว้ แถมออกลูกมาอีก 4 ตัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีอยู่ที่บ้าน มันยิ่งทำให้ผมอยากได้หมาฝรั่งเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่ง พอผมทำงานเก็บเงินได้เอง ผมก็ไปได้เจ้าตัวนี้มา พ่อของเขาเป็นเยอรมันและเป็นแชมป์ แล้วเขาก็มีใบรับประกัน แต่เราก็ไม่ได้กะประกวดอะไร พอเอามาเลี้ยงที่บ้านได้สักพัก ตอนนี้พ่อกับแม่ของผมหลงรักเจ้าตัวนี้ไปเรียบร้อยแล้ว (ยิ้ม)”

 

ปั้นจั่น เล่าให้ฟังว่า พี่คนหนึ่งที่เคยเป็นดารานักแสดง เขาเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนขายและส่งเข้าประกวด พอเราอยากได้ เขาก็เลยจัดให้ และเจ้าฮอว์กกี้ก็แผลงฤทธิ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน

“ผมจำได้แม่นเลย ตอนที่พี่เขาเอาเจ้าฮอว์กกี้มาส่งให้ผมที่คาร์ฟูร์แถวบริษัท มันฉี่ใส่เบาะรถอย่างไม่สะทกสะท้าน ผมเลยต้องเสียตังค์เพื่อจ่ายค่าทำความสะอาดเบาะเพิ่มเข้าไปอีก (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้อะไรครับ ขำๆ กันไป”

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ฮอว์กกี้มีอายุครบ 2 ขวบแล้ว ปั้นจั่นเผยถึงความในใจเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเจ้าฮอว์กกี้ไว้ว่า

“การเลี้ยงไซบีเรียนยากที่สุดคือ เขาฟังเรารู้เรื่องทุกอย่าง แต่อยู่ที่อารมณ์ของเขา คือบางทีพูดไปนี่รู้เรื่องนะ แต่ว่าฉันไม่ทำ อีกทั้งยังเป็นหมาประเภทที่ถ้าเรากังวลหรือตื่นตระหนก มันจะยิ่งได้ใจ และมันจะยิ่งทำตัววุ่นวาย ผมเลยอยากแนะนำคนที่อยากเลี้ยงไซบีเรียนว่า ต้องรักหมาจริงๆ เพราะว่ามันจะซน ไฮเปอร์ และมีพละกำลัง รวมถึงขนของมันก็ผลัดบ่อย โดยเฉพาะหน้าร้อน ถ้าคนแพ้ขนนี่ไม่แนะนำให้เลี้ยงเลย มีคนบอกว่าหมาไม่มีต่อมเหงื่อ แต่หมาจะมีความร้อนจากข้างใน ผมเลยเลี้ยงเขาในห้องแอร์ แต่ถ้าเขาอยากจะออกไปข้างนอก ก็จะวิ่งไปเอาเท้าเขี่ยประตู ผมก็จะเปิดให้มันออกไป แต่พอสักพักมันก็จะวิ่งกลับมา เพราะมันคงร้อนจนอยากจะตากแอร์ แต่ผมก็ไม่ได้เปิดทั้งวันนะครับ เปิดให้เขาอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึงบ่าย 2 บ่าย 3 ถ้าเปิดทั้งวันให้หมาอยู่ก็คงกระไรอยู่”

ปั้นจั่น บอกว่า เวลาที่ปั้นจั่นเหนื่อยหรือเครียด หรือทะเลาะกับแฟน มันจะมาอยู่นิ่งๆ ข้างๆ เหมือนรู้งานว่าเราเครียด พอเราเข้าไปเล่นกับมัน หรือพูดคุยระบายความรู้สึกกับมัน มันเหมือนจะรับฟังอย่างเข้าใจ แค่นี้ผมก็หายเครียดหายเหนื่อยแล้วละครับ

มีเรื่องที่ทำให้ประทับใจ ก็ย่อมมีเรื่องที่ทำให้ปวดหัว ปั้นจั่นเล่าให้เราฟังว่า

“ตอนที่เจ้าฮอว์กกี้อายุได้ประมาณ 8-9 เดือน แม่ผมซื้อเตียงอันใหม่มา แล้วก็วางไว้ในห้องข้างบน เสร็จแล้วก็ลงไปทานข้าวข้าวล่าง ไอ้เจ้านี่ก็กระโดดขึ้นเตียงทันที ขึ้นอย่างเดียวไม่พอ มันยังขุดคุ้ยเตียงจนเป็นรู นุ่นทะลักออกมาจนเต็มห้อง แม่โกรธมาก แต่ทำอะไรมันไม่ได้ (หัวเราะ)”

ดื้อและซนแบบนี้สงสัยคล้ายเจ้าของมันแน่ๆ ปั้นจั่นยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนยอมรับอย่างจริงใจว่า มันมีอะไรที่คล้ายกับเจ้าของมาก ไม่ว่าจะเป็นความดื้อ ความเอาแต่ใจตัวเองและความซน

“มีคนเคยบอกว่า คนไหนอุ้มสุนัขเข้าบ้าน หมาจะมีนิสัยเหมือนคนคนนั้น คือผมเป็นคนอุ้มเข้าบ้าน เลยมีนิสัยอะไรหลายอย่างเหมือนกัน แต่ผมก็ดุก็ว่าก็ตีมันบ้าง ถ้ามันไม่ฟัง แต่ก็รักมันมากนะ

แต่ข้อห้ามที่ต้องห้ามเลยคือ ห้ามขุดเตียง ห้ามกัดรองเท้า เวลามันกัด ก็เอารองเท้าคู่นั้นมาตีปากมัน แต่ไม่ได้โหดร้ายรุนแรงนะ แค่อยากให้มันรู้ว่าตรงนี้ทำไม่ได้นะ”

หมาตัวนี้หวงเรามั้ย

“ไม่เลย (หัวเราะ) มันไม่เคยหวงเจ้าของเลย มีแต่เราที่หวงห่วงมันเป็นที่สุด มันเป็นหมารับแขกที่เฟรนด์ลีกับทุกคน และกับสุนัขทุกตัวที่มาบ้านผม”

ท้ายที่สุด ปั้นจั่นก็ได้ฝากเคล็ดลับในการเลี้ยงแบบสั้น ง่าย และได้ใจความว่า

“ขอให้มองเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เท่านี้ก็เพียงพอครับ”