หล่อ เข้ม น่ารัก...หักอกได้ ‘กนกฉัตร มรรยาทอ่อน’

โดย...ณัฐพล ช่วงประยูร / ภัทรชัย ปรีชาพานิช 

ใครจะรู้ว่า ไต้ฝุ่น-กนกฉัตร มรรยาทอ่อน รองชนะเลิศอันดับ 1 จากเวทีเคพีเอ็น อะวอร์ด ครั้งที่ 21 เบื้องหลังความหล่อเข้ม แสนจะซื่อและฮาแตก

หลังจากนัดพบกันช่วงปลายวันหยุดสงกรานต์ หนุ่มเชียงใหม่คมเข้มนั่งรอการสัมภาษณ์อย่างผ่อนคลายกับลิสต์เพลงปะปนกันทุกแนวในไอพอดของเขา หน้าเปื้อนยิ้มลดความเข้มขรึมลง ยิ่งพอได้เริ่มสนทนาอาการกันเองและขำรั่วก็ปรากฏเป็นธรรมชาติ

ไต้ฝุ่นเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน พ่อเป็นข้าราชการตำรวจ ยศดาบตำรวจ แม่เป็นครูโรงเรียนประถม มีพี่สาวศึกษาด้านสัตวแพทยศาสตร์ อายุห่างกัน 5 ปี แต่สนิทสนมกันดี การเดินทางสู่การเป็นนักร้องบนเวทีเคพีเอ็นปีล่าสุด ไม่ใช่ความตั้งใจแรกสุดของเขา เพราะการประกวดร้องเพลงเวทีเล็กๆ น้อยๆ ตามห้างในเชียงใหม่ หรือลีลาการเต้นคัฟเวอร์ ก็ผ่านมาพอให้ไต้ฝุ่นได้คุ้นชินกับการแข่งขัน

“ผมอ่อนเรื่องร้องมาก แต่ว่าอยากเป็นนักร้อง (หัวเราะ) ผมพยายามมาตลอดตั้งแต่มัธยมปลาย มีประกวดที่ไหนก็ไป เราพอเล่นกีตาร์ได้อยู่ แล้วก็มีทักษะการเต้นเป็นตัวนำ แรกๆ จะร้องอย่างเดียว ตอนหลังก็ประยุกต์ใช้การเต้นมาผสม สุดท้ายไม่ได้ผลลัพธ์อะไร ก็มีท้อบ้าง

พอมาออดิชันเวที เคพีเอ็น อะวอร์ด ก็เต็มที่ ผมไม่ได้เรียนร้องเพลงมา ก็กังวลอยู่มาก แต่กรรมการท่านคงเห็นความสามารถมุมอื่น สุดท้ายก็มาถึงรอบ 10 คน และยาวมาจนถึง 5 คน และได้เป็นรองชนะเลิศอันดับ 1 ครั้งนี้ครับ

 

เรื่องการเต้นจะได้รับการสนับสนุนจากคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก คุณแม่เป็นครูพละและชอบเปิดเพลงเต้นก็เลยซึมซับมา ผมเรียนลีลาศมาตั้งแต่ประถม เป็นนักกีฬาลีลาศของโรงเรียนด้วย พอโตมาก็พัฒนามายังการเต้นอย่างอื่นด้วย ผมว่าลีลาศเป็นการเต้นคู่ เราจึงต้องเข้าใจตัวเองและเข้าใจคู่ ต้องเต้นได้ทุกจังหวะ ที่ชอบสุดคือ รุมบา มันเป็นละตินอเมริกัน ที่สนุกและโรแมนติก ได้สื่ออารมณ์ มีแอ็กติงที่ได้ใจผมมาก”

นอกจากคิ้วเข้ม หน้าทะเล้นแล้ว เสน่ห์อีกประการที่นำทางให้เขาเป็นที่รักและน่าหลงใหล คือ ความสูง 185 เซนติเมตร ที่มาพร้อมมาดฮาและช่างเจรจาสุดๆ “ผมเคยคิดว่าสูงแล้วดี แต่ในทางการเต้นแล้ว ถ้าไม่ฝึกหัดดีๆ ไม่ว่าจะเป็นลีลาศหรือเต้นแบบสมัยใหม่ก็จะดูเก้งก้างมาก เราต้องทำให้ดูแข็งแรงขึ้น” ด้วยเพราะไต้ฝุ่นกำลังฝึกฝนตัวเองอย่างหนักและเรียนรู้ให้แตกฉานในคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์สากล ที่ มศว ประสานมิตร ปลายทางของเขาคือ โครโนกราเฟอร์

“เด็กๆ ฝันหลายอย่าง แต่มาจบที่นักร้อง นักเต้น ทั้งๆ ที่จริงผมเรียนมาทางสายวิทย์ สุดท้ายตอนเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ผมคิดว่าไม่เอาตามความนิยมแล้วล่ะ ขอเป็นในสิ่งที่ชอบดีกว่า วิชาที่เรียนเป็นวิชาปฏิบัติและสร้างสรรค์เสียส่วนมาก เวลาสอบหรือพรีเซนต์งาน คือการสร้างงาน คิดอะไรใหม่ๆ ไปนำเสนอ” นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของไต้ฝุ่นทีเดียวที่เขาได้เรียนไปพร้อมกับทำสิ่งที่รัก และเร็วๆ นี้ เขาก็เป็นตัวแทนนักกีฬาลีลาศ ร่วมแข่งในกีฬาแห่งชาติที่ จ.สงขลา ด้วย

นอกจากใจที่มุ่งมั่นไปตามฝันของตัวเองแล้ว ความสำเร็จขั้นต้นในวันนี้ยังเกิดจากการสนับสนุนจากครอบครัว ซึ่งเขาเล่าไปยิ้มไป “พี่สาวจะห้าวๆ แมนๆ สนิทกัน มีอะไรคุยกันตลอด เรียนด้วยกันมาแต่เด็ก พี่ชอบแซว เฮ้ย...ดาราๆ กลับบ้านไปขอลายเซ็น เฮฮากันไป ในช่วงประกวดเขาก็ช่วยพีอาร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กมากทีเดียว คอยห่วงเรื่องการคอมเมนต์และการโพสต์ข้อความ แต่ที่เป็นตัวจริงเลยคือคุณพ่อผมกับเขาสนิทกัน เหมือนเป็นเพื่อนเลย เล่นงัดข้อกันประจำ พ่อจะไม่ค่อยพูดมาก จะนิ่งๆ แต่สนับสนุนเรื่องการประกวดล้านเปอร์เซ็นต์เลย (ฮา) ยังไงรู้ไหมครับ แม่ค้าในตลาด คนที่ร้านตัดผม หรือร้านค้าต่างๆ แม้แต่ที่ธนาคาร รู้จักผมหมดเลย พ่อไปบอกขอคะแนนทุกคน อย่างที่ธนาคาร พ่อขอเอาคัตเอาต์รูปตัวผมไปวางไว้เลย (หัวเราะ) ตอนกลับไปเชียงใหม่ผมต้องไปตระเวนสวัสดี ขอบคุณหมดเลย

ช่วงที่ประกวดเครียด แล้วมีวันที่คะแนนอยู่อันดับล่างๆ แล้วมีโปรแกรมเซอร์ไพรส์ เคพีเอ็นพาพ่อแม่มาระหว่างแข่ง 5 คนสุดท้าย แม่ก็พูดถึงผมว่า ที่ผ่านมาไม่เคยสนับสนุนให้เล่นกีตาร์หรือร้องเพลงเลย อยากจะให้เรียนๆๆ ทำให้เห็นว่าลูกต้องพยายามมากจริงๆ เพื่ออยู่ตรงนั้นให้ได้ แม่บอกเสียใจ ผมร้องเลย แต่ผมไม่เคยโทษท่านนะครับ เพราะว่ามันทำให้ผมยิ่งขวนขวายมากขึ้น ถ้าต้องมีร้องไห้อีก ขอให้ร้องเพราะความดีใจแล้วกัน

ทุกวันนี้อยู่กรุงเทพฯ เองกับเพื่อนในสาขา แม่ก็โทร.หาเกือบทุกวัน ผมเองเป็นคนติดแม่ เมื่อก่อนจะไปไหนก็ต้องพาแม่ไปด้วย แต่ตอนนี้โตแล้ว และมีงานต้องรับผิดชอบ ต้องไม่งอแงแล้ว ด้วยความที่แม่เป็นครู เจอหลายรูปแบบ ติดเพื่อน เตือนเรามากๆ ตอนนี้เราโตขึ้น และเรื่องสำคัญอย่าง เหล้า บุหรี่ และผู้หญิง 3 อย่าง อย่าได้พลาดไปวุ่นวาย แต่ถ้าเพื่อสังคมก็มีได้บ้างแต่อย่ายึดติด

 

ตัวตนจริงๆ ของผม พูดมาก คุยเก่ง ปล่อยมุขตลอดเวลา เพื่อนๆ ชอบงง แล้วบอกว่ามุขฝุ่นๆ อ่ะ...พูดไม่รู้เรื่อง คงเพราะเป็นคนพูดเร็ว แต่ที่แน่ๆ เน้นเฮฮาครับ คนที่คบกันได้จะต้องเป็นคนลุยน้ำลุยไฟ ไปไหนไปกัน มันไปเลย ผมชอบทำให้คนอื่นสนุกเฮฮาด้วย เวลาว่างก็เล่นกีตาร์ อยู่กับเพื่อนในเอกเดียวกัน นั่งดูทีวี สำรวจโลก เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก หรือไม่ก็ฟังเพลง วงโปรดอย่าง เจทเซเตอร์ อีทีซี กรู๊ฟไรเดอร์ส และเครสเซนโด้ และเข้ายิมตามช่วงเวลาว่างเน้นเฟิร์มร่างกาย แล้วก็ตอนนี้มีซ้อมซิงเกิลของตัวเองให้คุ้นปาก

ล่าสุดนี้ผมเป็นคนแรกของกลุ่มที่ได้ทำซิงเกิลแรก ในชื่อเพลง “คนน่ารัก...หักอกได้” ตอนแรกมีความเครียดว่าจะออกมาดีหรือเปล่า แล้วก็ดันตั้งใจร้องเกินไป เสียงไม่มีอารมณ์ เหมือนสวดมนต์ (ฮา) แก้ไขกันอยู่ 7 ชั่วโมง ในห้องอัด ยังไงผมขอฝากซิงเกิลแรกนี้ไว้ด้วยครับ เปิดให้โหลดกันแล้ว เอ็มวีจะถ่ายช่วงปลายเดือน ทั้งหมดนี้มันน่าดีใจมากนะครับ วันก่อนเรายังแค่เป็นคนสมัครมาประกวด แล้ววันนี้เรามีเพลงของตัวเองแล้ว คนอื่นฟังและร้องเพลงเรา

ได้มีนามสกุล ไต้ฝุ่น เคพีเอ็น ก็ภูมิใจมากเลย

ส่วนในมุมของโลกเทคโนโลยี ผมว่ามีส่วนสำคัญมากในปัจจุบัน หลายคนมีโซเชียลมีเดีย มือถือ แล้วก็คอมพิวเตอร์ ส่วนตัวผมต้องใช้แจ้งตารางงานตัวเอง คุยกับแฟนคลับ ทั้งทวิตเตอร์ แฟนเพจ และอินสตาแกรม วิธีการเลือกใช้แกดเจ็ต เราต้องดูความสามารถของมันว่าทำอะไรได้บ้าง เหมาะกับเรายังไง และเปรียบเทียบราคา

บางคนใช้เทคโนโลยีหรือแกดเจ็ตตลอดเวลาเกินไป เสียเวลาเรียน เวลานอน อยากให้ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า แต่ต้องพอดี”

5 ชิ้น สไตล์ ‘ไต้ฝุ่น’

โน้ตบุ๊ก – ใช้ที่หออย่างเดียว ส่วนใหญ่จะดูยูทูบ เล่นเฟซบุ๊ก เป็นหลักครับ

ไอพอด – เพลง 1,000 กว่าเพลง ในความจุ 30 กิกะไบต์ แนวเพลงมั่วซั่วไปหมด มีอะไรก็ฟังได้ ส่วนใหญ่ช่วงเดินทาง

มือถือซัมซุง – ผมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือถ่ายรูปง่ายๆ ผมแคร์เรื่องกล้อง ความละเอียด 8 ล้านเท่ายี่ห้ออื่น แต่ว่ามันไม่แพงมาก แล้วก็ใช้งานตารางงานและโหลดเมลเก็บไว้อ่านดู

ไอแทป ซัมซุง – พอมีมือถือแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้อันนี้ ก็มีเล่นเกมและดูยูทูบ

กล้องดิจิตอล – เอาไว้ถ่ายเวลาไปทริปต่างๆ ไปในสถานที่ที่อยากได้รูปเป็นเรื่องเป็นราว แต่หลังจากโทรศัพท์ใช้กล้องได้ดีก็ไม่ค่อยได้ใช้มาก