posttoday

ตอบปัญหาธรรม...เกศนีจะดำเนินชีวิตอย่างไรให้ถึงปัญญาวิมุติ (ตอน ๒)

10 เมษายน 2555

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

พระพุทธศาสนา หยิบเอาตัวทุกข์มาเรียนรู้ เพื่อการเข้าถึงความจริงในสัจธรรมดังกล่าว ทั้งนี้เพราะความทุกข์เป็นลักษณะธรรมที่ปรากฏคู่กับการมีเกิดมีดับของสัตว์โลกทั้งหลายเป็นตัวแสดงถึงสภาพธรรมได้อย่างเด่นชัด ... โดยเฉพาะเพื่อนำไปสู่ความเบื่อหน่ายต่อการวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ มีสภาพของการเกิด-ดับ ที่แสดงลักษณะธรรมเปิดเผยให้เห็นจริง ว่า สรรพธรรมทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ! ซึ่งตัวทุกข์นั้นหากจะกล่าวไปแล้วก็คงเป็นผลของอนิจจัง หรือความไม่เที่ยงนั่นเอง ...แต่แยกออกมากล่าวเป็นอีกองค์ธรรมหนึ่ง เพื่อแสดงความปรากฏเป็นเอกลักษณะธรรมนั้นๆ...ที่ปรากฏควบคู่มากับความไม่เที่ยง (อนิจจัง) ซึ่งหากพิจารณาลงลึกเข้าไปในส่วนสุดที่แสดงลักษณะธรรมอันแท้ของธรรมนิยาม ธรรมธาตุ ธรรมทิฏฐิ ก็คงจะพบสุดยอดแห่งความจริงที่เป็นอริยสัจ ที่เรียกว่า กฎอนัตตา!!

   คำว่า สัพพะ ธัมมา อนัตตาติ!! จึงเป็นการสรุปรวบยอดความรู้ในขั้นอริยสัจ เพื่อกลับไปหาความหมายธรรมที่กล่าวเป็นภาษาบาลีว่า สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ แปลว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เพื่อพิจารณาให้เห็นด้วยปัญญา จนแจ่มแจ้ง ว่า

สัพเพ สังขารา อนิจจัง สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง

สัพเพ สังขารา ทุกขัง ... สังขารทั้งหลายทั้งปวง เป็นทุกข์

สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ! ... ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน!

   อาตมาขอยกธรรมดังกล่าวขึ้นมาสักการบูชา เพื่อเชิญชวนสาธุชนทั้งหลายร่วมกันศึกษาปฏิบัติ เพื่อจะได้ตั้งฐานจิตไว้ที่พุทโธ หมายถึง ให้จิต รู้ ตื่น เบิกบาน อยู่ตลอดเวลา ... ความรู้ ตื่น เบิกบาน นี้เป็นพุทโธองค์จริง ที่จิตของผู้ใดเข้าถึง จิตของผู้นั้นก็จะมีปัญญา (Wisdom) สามารถดับทุกข์ทั้งหลายได้ ดังภาษิตที่กล่าวไว้ว่า ปัญหาทั้งปวง ดับได้ ด้วยปัญญาองค์เดียว

   แต่การจะเกิดมีปัญญาขึ้นมาได้นั้น จะต้องรู้วิถีแห่งธรรมและรู้หลักปฏิบัติตามหลักธรรม ซึ่งจะต้องปุจฉาต่อไปว่า แล้วจะทำอย่างไรให้เกิดปัญญา... หรือการปฏิบัติที่ถูกต้องโดยธรรม เพื่อนำไปสู่การมีปัญญา ซึ่งคงจะต้องมาพิจารณาว่า ปัญญาเกิดขึ้นได้ ๓ ทาง ได้แก่ สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา และภาวนามยปัญญา หรือที่กล่าวว่า ปัญญาเกิดจากการฟัง ปัญญาเกิดจากการคิดพิจารณา และปัญญาเกิดจากการอบรมจิตตภาวนา (เจริญสติฯ) ... อย่างไรก็ตาม ถ้าตอบเพียงแค่นี้ก็คงไม่จบวิจิกิจฉา คงจะมีปุจฉาต่อไปว่า แล้วการจะก้าวไปสู่กัลยาณปุถุชนที่มีความรอบรู้แตกฉานในหลักธรรม จนเกิดปัญญารู้แจ้ง เข้าสู่อริยบุคคลนั้น มีหลักปฏิบัติอย่างไร!?

   จากปุจฉาดังกล่าวจึงต้องเข้าสู่การเรียนรู้ว่า ... พระพุทธศาสนาวางหลักเพื่อการเข้าไปสู่ผู้มีปัญญา ที่น้อมโน้มไปสู่ปัญญาวิมุติ เพื่อการถือปฏิบัติไว้ดังนี้ ได้แก่ สัปปุริสูปสังเสโว–การคบคนดี ในหัวข้อธรรมนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีปัญญา (คุณธรรม) ซึ่งสอดคล้องกับหลักมงคลแห่งชีวิตประสิทธิธรรม ๓๘ ประการ ที่วางมงคลธรรมข้อแรกไว้ที่ อะเสวนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวนา ซึ่งหมายถึง ให้คบบัณฑิต ผู้รู้ หรือการคบคนดีมีศีลธรรมนั่นเอง

   ทั้งนี้ เพื่อจะได้รับการบอกกล่าวแนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงามตามธรรม ที่จะนำไปสู่ สัทธัมมัสสวนัง-การได้ฟังธรรมจากคนดี บัณฑิต ผู้รู้เหล่านั้น เพื่อนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติที่ถูกที่ควร การตั้งตนไว้โดยชอบ (อัตตสัมมาปณิธิ) การได้สดับความรู้มาก (พาหุสัจจัญจะ) มีศิลปศาสตร์ มีวินัย มีวาจาภาษิต รู้การทำประโยชน์แห่งตน เกื้อกูลบุคคลผู้ควรสงเคราะห์ และได้มีโอกาสประพฤติธรรม งดเว้นกรรมทั้งหลายที่มีโทษ ทำความดีให้ถึงพร้อม และการพัฒนาจิตให้บริสุทธิ์ เพื่อการไม่หวั่นไหวในโลกธรรม อันจะนำไปสู่การไม่มีโศก ปราศจากธุลี และเกษมจากโยคะ ที่แสดงความเป็นเอกจิตแห่งผู้มีปัญญา กล่าวโดยสรุป เมื่อได้สดับตรับฟังธรรมจากบัณฑิต ผู้รู้แล้ว พึงรู้จักการพิจารณาโดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ซึ่งจะต้องใช้หลักการคิดกระบวนการพิจารณาที่ถูกวิธี อันเป็นวิถีแห่งปัญญา โดย จะต้องคิดอย่างถูกวิธี ถูกต้อง ถูกทาง และถูกธรรม หมายถึง มีเหตุผลและตรงเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่ ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ได้แก่ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ...

   หลักธรรมที่กล่าวมา จะเรียกว่า แว่นส่องธรรม (ธรรมทาสะ) หรือ โสตาปัตติยังคธรรม ก็ว่าได้ อันเป็นหลักธรรมที่นำไปสู่การมีคุณสมบัติโดยตรงของพระโสดาบัน เป็นอริยบุคคลเบื้องต้นในพระพุทธศาสนา ที่เริ่มเข้าสู่เส้นทางที่นำไปสู่ปัญญา (แสงสว่าง) แม้ฐานะของคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนก็สามารถกระทำได้ เพื่อการดำเนินชีวิตที่ดีงามในทุกกาลสมัย อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้

 

ข่าวล่าสุด

BOJ ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย! SET แกว่งตัว เน้นย่อสะสมหุ้นกำไรเด่น