นพ.วรต มโนสิทธิศักดิ์ คุณหมอคนเก่งเสียงใส
แม้จะไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นนักร้อง ทั้งยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอย่างสูง
โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา
แม้จะไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นนักร้อง ทั้งยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอย่างสูง นั่นคือ การช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายแพทย์พิเศษด้านต่อมไร้ท่อของโรงพยาบาลสมิติเวช หากดูเหมือนว่า หมอโอ-นพ.วรต มโนสิทธิศักดิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและเมตาโบลิซึม ยังมีโอกาสได้ใช้อีกหนึ่งความสามารถด้วยการขับกล่อมจิตใจผ่านเสียงร้องอันอบอุ่นนุ่มนวลให้สาวได้กรี๊ด จนกลายเป็นที่มาให้เกิดอัลบั้มแรกที่มีชื่อเดียวกับตัวเองว่า O Warot
คุณหมอหนุ่มหน้าใส น้องนุชคนสุดท้องในครอบครัว “เสื้อกาวน์” ที่อวลไปด้วยความอบอุ่นของความรัก จากคุณพ่อซึ่งเป็นแพทย์และคุณแม่เป็นพยาบาล กล่าวว่า ด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กที่ติดแม่เอามากๆ เมื่อต้องจากบ้านไปร่ำเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้รู้จัก “ความเหงาและความเข้มแข็ง” เป็นครั้งแรก เพื่อคลายความคิดถึงบ้าน คุณหมอจึงกลายเป็นนักกิจกรรมตัวยง ไม่ว่าจะเล่นละครเวที เล่นกีฬา หรือร้องเพลง เล่นดนตรี ประกอบกับตั้งแต่เด็กเวลาที่ที่บ้านร้องรำทำเพลงกัน หมอโอมักถูกพี่ๆ ยัดเยียดการเป็นนักร้องบนเวทีให้เสมอ จนกลายเป็นดาราหน้าประจำบนเวที
ออราการเป็นศิลปินยังถูกผลักดันให้ฉายแสงโดยเพื่อนๆ และอาจารย์ ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ ด้วยการวางตัวให้หมอโอเป็นศิลปินจำเป็นในการร้องเพลงตามงานการกุศลต่างๆ เป็นประจำ แม้เป็นแพทย์แล้วก็ยังคงทำหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่อง แต่คุณหมอหน้าใสก็ยังไม่ตัดสินใจผันตัวมาเป็นนักร้องอาชีพเต็มตัวสักที ด้วยคุณหมอก็มีความเชื่อประจำใจว่า คนเราต้องไม่จับปลาสองมือ คือ ต้องทำสิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจหรือความฝันให้สำเร็จไปก่อน แล้วค่อยมาทำตามสิ่งที่เรารัก เพราะบางครั้งการทำหลายๆ อย่างพร้อมกันอาจทำให้สมาธิเราเสียได้ อย่างงานถ่ายแบบ โฆษณา ละคร คุณหมอบอกว่ามีติดต่อเข้ามาตลอดตั้งแต่เรียนยังไม่จบ แต่กว่าเจ้าตัวจะรับงานชิ้นแรกก็เมื่อจบเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แล้ว
และด้วยความเป็นคนที่มุ่งมั่น ตั้งใจลงมือทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด หลังจากตัดสินใจวิ่งตามสิ่งที่ตัวเองรัก คุณหมอจึงตัดสินใจไปลงเรียนวิชาร้องเพลงและเล่นกีตาร์ เพื่อฝึกฝนฝึกปรือทักษะด้านนี้ให้เชี่ยวชาญยิ่งขึ้น ณ ที่แห่งนี้เอง ทำให้คุณหมอได้พบปะคนดนตรีมากมาย และทำให้มีเส้นทางเดินอีกสายเคียงข้างเส้นทางการเป็นแพทย์ นั่นคือการเป็น “นักร้อง”
นอกจากการเป็นแพทย์แล้ว หมอโอยังมีผลงานเขียน โดยมีพ็อกเกตบุ๊ก ชื่อ “คู่มือเบาหวาน ของคนเบาใจ” เป็นงานเขียนเล่มแรก ตามมาด้วย “ผู้หญิงลดได้ ผู้ชายลดดี” และ “10 วิธี เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค” รวมทั้งงานพิธีกรรายการโทรทัศน์ อย่าง เมืองไทยมีสาระ ทาง Money Channel รายการ Love and Care ทาง ททบ.5 เป็นวิทยากรพิเศษด้านสุขภาพของโรงพยาบาลสมิติเวช และโครงการลดความอ้วนอย่างปลอดภัยของกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ ด้วย
แม้หลายคนจะติดภาพลักษณ์คุณหมอที่ต้องดูภูมิฐาน แต่เมื่อคุณหมอโอผันมาอยู่ในบทบาทที่ต่างกันสุดขั้ว นั่นคือ การเป็นทั้งนักร้องและศิลปิน ทำให้สไตล์การแต่งตัวต้องเปลี่ยนไป แน่นอนว่า ในยามที่สวมบทคุณหมอ หมอโอก็ยังต้องคงคอนเซปต์เรียบขรึม น่าเชื่อถือ แต่ถ้าเวลาสวมวิญญาณศิลปิน หรือวันสบายๆ คุณหมอก็จะมีอีกสไตล์หนึ่ง ทว่าการแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือหรือดูดีนั้น คุณหมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องแบรนด์เนมเสมอไป เพราะส่วนใหญ่จะเน้นที่ความถูกใจมากกว่า โดยแอกเซสซอรีที่คุณหมอให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการเลือกมากที่สุดจนถึงขั้นยกให้เป็นหนึ่งในของสะสม คือ เข็มขัด ซึ่งคุณหมอสะสมไว้เกือบร้อยเส้น เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นสำคัญที่จะช่วยมิกซ์แอนด์แมตช์ระหว่างเสื้อและกางเกงให้ดูเข้ากัน
นอกจากนี้ คุณหมอยังชอบสะสมกางเกงยีนส์ เพราะเป็นสไตล์โปรดที่สามารถใส่ได้แทบทุกโอกาส หากไปเอาจับคู่กับสูท ให้ดูถูกกาลเทศะ ยิ่งกว่านั้น ยังใส่ซ้ำได้หลายวันอีกด้วย (หัวเราะ)
“ผมสะสมกางเกงยีนส์นะ มีเป็นร้อยตัวเลย ส่วนใหญ่เจอถูกใจก็ทยอยซื้อ ซื้อมาแล้วใส่ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร ถ้าตัวไหนไม่ใส่เราก็เก็บเข้าคอลเลกชันที่สะสมไว้เป็นตู้ แบ่งไว้เลยเฉพาะ”
สำหรับหลักการดูแลให้หน้าดูเด็กและอ่อนเยาว์นั้น คุณหมอ ย้ำว่า ไม่ยาก แค่มีวินัยกับตัวเอง หมั่นออกกำลัง นอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องอย่าลืมทาครีมกันแดด ก่อนจบการสนทนาวันนี้ คุณหมอหน้าหวานยิ้มมีเสน่ห์ไม่ลืมชวนแฟนๆ ไปติดตามผลงานอัลบั้มแรกในชีวิตของคุณหมอ ที่มาพร้อมเพลงสไตล์อบอุ่น ฟังแล้วได้กำลังใจ อย่างเพลงประกอบรัก อ้าว...อย่าลืมไปอุดหนุนกันนะจ๊ะ


