ไปกินปลาแม่น้ำมูล ที่เมืองดอกลำดวน

โดย...เสนาะ วรรักษ์

ไปกินปลาแม่น้ำมูล ที่เมืองดอกลำดวนแม่น้ำมูลเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนอีสานนับล้านคนมาเป็นเวลาช้านาน จนมีตำนานเล่าขานกันมาหลายประการ จึงเกิดมีภาพยนตร์และละครโทรทัศน์เรื่องมนต์รักแม่น้ำมูล ได้แพร่ภาพเรื่องราวของลำน้ำที่ยิ่งใหญ่ของถิ่นที่ราบสูง ได้ตอบแทนพระคุณของสายน้ำนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์

สายน้ำแห่งนี้มีพันธุ์ปลาหลายร้อยหลายพันชนิดที่ชุบชีวิตคนมาเนิ่นนาน ยังเป็นที่เพาะเลี้ยงปลานิลและปลาทับทิม เป็นอาหารเลี้ยงคนทั่วไปตลอดมาหลายปี ที่สร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ไม่ต้องอพยพไปหางานในเมืองหลวง จึงโชคดีที่รอดปลอดภัยจากน้ำท่วมครั้งใหญ่

เมื่อท่านแวะเวียนผ่านมาภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ ขอแนะนำให้ท่านได้มาลองลิ้มชิมรสอาหารปลาที่ร้านอาหารแห่งนี้ดูบ้าง สุธีโภชนา เมื่อท่านเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ถนนสาย 226 ผ่าน อ.อุทุมพรพิสัย มุ่งหน้าเข้าเมืองศรีสะเกษ ใกล้เข้าเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ด้านขวามือท่านจะเป็นห้างบิ๊กซี ขับรถมาเรื่อยๆ ประมาณ 1 กม. พอมาถึงสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้าย ขับไปอีกประมาณ 1 กม. ก็จะเห็นป้ายอยู่ทางซ้ายมือ สุธีโภชนา

การชิมลิ้มรสอาหารยากที่จะ “การันตี” ด้วยตัวของเราเองว่าอร่อยขนาดไหนเพียงใดนั้น ผมว่าบอกขนาดความอร่อยนั้นยาก ไม่ตรงความจริง เพราะว่าลิ้นไม่ใช่เครื่องวัดความอร่อย ลิ้นแต่ละคนมีรสนิยมกินคนละอย่าง อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เกิดมารอบข้าง ลูกฝาแฝดคนหนึ่งไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็ก อีกคนอยู่ภาคอีสาน โตขึ้นมาเป็นหนุ่มกลับเมืองไทย สองคนสื่อภาษากันไม่รู้เรื่อง นอกจากการแต่งตัวไม่เหมือนกันแล้ว คนที่กลับจากอเมริกากินส้มตำ ลาบ ก้อยได้ที่ไหน

ร้านอาหารเขาก็แบ่งประเภทเอาไว้ชัดเจน ที่เกริ่นกล่าวไปคงจะรู้ว่าเป็นอาหารประเภทปลา มีทั้งปลาแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูล หากชอบกินปลาต้องมาที่นี่ รับรองไม่ผิดหวัง ผมไม่ได้ “การันตี” ขอให้มาลองชิมดูจะรู้ถึงรสชาติ

อันว่ารสชาติอาหารนั้นมีรสเค็ม จืด หวาน มัน และเปรี้ยว ชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งค้นพบรสอร่อยโดยการนำสาหร่ายมาสกัดทำเป็นผงชูรส แต่เท่าที่ดูการทำอาหารของญี่ปุ่นในโทรทัศน์ไม่ยักกะมีการใส่ผงชูรส กลับไปฮิตติดตลาดโดยการใส่ในส้มตำ พอคนซื้อเผลอ แม่ค้าส้มตำจะแอบตักผงชูรสเข้าไปในครก บางคนบอกว่ากินแล้วคอแห้ง แต่ผงชูรสของชาวอีสานที่รู้กันมานานด้วยการเอาใบหม่อนใส่หม้อต้มไก่บ้านใส่ใบมะขามอ่อน นอกจากจะทำให้รสชาติกลมกล่อมแล้ว ยังทำให้ชวนซดน้ำอีกด้วย

สุธี มณีนิล เจ้าของและผู้จัดการ บอกเล่าว่า ในอดีตเป็นหัวหน้ากุ๊กที่ภัตตาคารชื่อดังหลายแห่ง เคยไปเป็นกุ๊กที่ต่างประเทศ กลับมาเปิดร้านอาหารที่บ้านเกิดใน จ.ศรีสะเกษ ครั้งแรกเปิดร้านที่สะพานขาวซึ่งเป็นอาหารที่มีเมนูปลาแปลกใหม่ของจังหวัดนี้ จึงทำให้ลูกค้าแน่นขนัด จนถึงทุกวันนี้สถานที่ไม่เพียงพอจึงขยับขยายมาที่นี่ ซึ่งสามารถรับลูกค้าได้ 400 คน สำหรับกรุ๊ปทัวร์นั้นมีสถานที่จอดรถได้ทั้งรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงรถทัวร์ขนาดใหญ่

ส่วนเมนูอาหารเด็ดที่ร้านนั้น มีทั้งลวกปลาบึก ปลาบึกทอดกระเทียม ปลาบึกผัดสามช่า ลาบปลาเทโพ อุพุงปลา ต้มยำปลาปึ่ง ปลาทับทิมทอดกระเทียมพริกไทย ปลาทับทิมทอดกรอบ นอกจากนี้ยังมี “ป่นปลาทับทิม” ซึ่งคล้ายกับน้ำพริกปลาย่างภาคกลาง เพียงพริกนั้นใช้พริกสด หัวหอม ที่เอาไปย่างไฟตำร่วมกับเนื้อปลาทับทิมสุกแล้วหยอดน้ำซุปตักขึ้นมากินกับผักชนิดต่างๆ เช่น สะเดา ลิ้นฟ้า ผักชีลาว และยอดใบมะตูม รับรองว่าแซบ