"นวินดา" เธอมีมากกว่า ความน่ารัก
ดาวมหาวิทยาลัยสัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จักกับ "มิ้นท์-นวินดา เบอร์ตอตตี" จากสาขาบิซิเนสอิงลิช มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ดาวมหาวิทยาลัยสัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จักกับ "มิ้นท์-นวินดา เบอร์ตอตตี" จากสาขาบิซิเนสอิงลิช มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เรื่อง วิชช์ญะ ยุติ / ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข
ได้พบสบตาก็ว่าโดนใจละ แต่เมื่อได้นั่งคุยกันยาวๆ ก็ต้องบอกว่าโดนใจยิ่งกว่า
สาวสวยลูกครึ่งไทย-อิตาเลียนรายนี้ คุยสนุกมากกกกก คุยได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่วงการบันเทิง เศรษฐกิจ สังคม ไปจนถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ที่สำคัญนะ เธอค่อนข้างเป็นผู้หญิงรวยอารมณ์ขันและฉลาดที่จะแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นต่างๆ
มิ้นท์-นวินดา เบอร์ตอตตี เพิ่งฝากผลงานแสดงไว้ให้ดูต่างหน้าเรื่องล่าสุด “อิเหนา” และไม่ช้าไม่นานแฟนๆ ละครก็จะได้เห็นฝีมือการแสดงทางหน้าจออีกครั้ง โปรดติดตามว่าจะเป็นเรื่องอะไรและออนแอร์ช่องไหน
ส่วนเรื่องการเรียน ปีนี้เธอขึ้นชั้นปีที่ 2 สาขาบิซิเนสอิงลิช มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เรียนไปควบคู่กับการทำงานบันเทิง เหนื่อยหนักแต่เธอก็วางแผนและจัดการตารางชีวิตตารางเรียนได้ลงตัว
“เป็นสาขาที่ไม่ค่อยจะบันเทิงเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะจะหนักไปทางธุรกิจและการสื่อสารระหว่างประเทศมากกว่า คือทุกอย่างยืนพื้นด้วยวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษ ยอมรับว่าหนักและเหนื่อยค่ะ แต่ก็ทำให้หนูได้อะไรหลายๆ อย่างมากกว่าคนอื่น รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะเลย รู้จักรับผิดชอบชีวิต การทำงานและการเรียนให้เดินคู่ขนานไปพร้อมๆ กันได้”
แรกเริ่มนั้นมิ้นท์ตั้งใจจะเรียนอักษรศาสตร์ เพราะชอบเรียนภาษา แต่ค่าความที่รับงานบันเทิงไว้และคิดจะเอาดีด้านนี้ เธอจึงหันเหไปเลือกสายธุรกิจแทน ซึ่งก็ไม่สร้างความผิดหวังให้แก่เธอ ภาษาที่เธอชอบก็ยังได้ใช้อย่างสม่ำเสมอ แถมยังได้เรียนรู้ทักษะเรื่องการสื่อสารระหว่างประเทศเพิ่มเติมอีกด้วย
“ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหม่และท้าทายสำหรับหนูนะคะ ต้องใช้เวลาเพื่อที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจในหลายๆ สิ่งที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เรื่องภาษาต่างประเทศนี่ก็ยิ่งสบายเลย เพราะเป็นสิ่งที่หนูชอบอยู่แล้ว ภาษาอังกฤษก็ใช้ในห้องเรียน ภาษาอิตาเลียนก็คุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่อิตาลี ภาษาฝรั่งเศสก็เรียนมา 4 ปี กลัวลืมก็ไปหาหนังสือ หนัง หรือเพลงภาษาฝรั่งเศสมาฟัง สุดท้ายภาษาไทย หนูเป็นคนไทย คุณแม่เป็นคนไทย หนูก็ต้องพูดไทยให้เก่งๆ ซึ่งหนูว่าภาษาทุกภาษามีเสน่ห์ต่างกันไปและมีคุณค่าในตัวมันเอง”
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มิ้นท์ค่อนข้างเคร่งครัดกับตารางเรียน ด้วยนิสัยที่จริงจังและจริงใจ เธอจึงให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียน ค่อยมองไกลไปจับงานบันเทิง โดยเธอแบ่งเวลาเรียนชัดเจน จันทร์ อังคาร พุธ เรียนหนักแบบแน่นเอี๊ยดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยกับเพื่อนๆ มีน้อย
มีความสามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา เรียกว่าได้เปรียบกว่าคนอื่น ยิ่งเฉพาะการเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ แต่มิ้นท์ก็ไม่ประมาท ยังต้องฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองไม่หยุดนิ่ง ในอนาคตเธออยากใช้ความรู้ด้านภาษาต่อยอดในงานที่เธอรัก เช่น งานสถานทูต หรือไม่ก็อาจเปิดโรงเรียนสอนภาษา ขณะเดียวกัน ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เชียงใหม่ ซึ่งคุณแม่ของเธอปลุกปั้นขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่มิ้นท์ให้ความสนใจจะใช้ความรู้ความสามารถมาสานฝัน
“แต่อนาคตก็เป็นอะไรที่คาดเดายากนะคะหนูว่า เพราะวันนั้นความอยากและโอกาสของหนูอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ แต่อย่างน้อยหนูก็คงไม่ทิ้งสิ่งที่หนูรักหรอกค่ะ” สาววัย 19 ทิ้งท้ายด้วยสายตามุ่งมั่น โดยที่เจ้าตัวยังไม่ลืมจะโปรยยิ้มสยามให้เราชุ่มชื่นหัวใจ
หนังสือที่อ่านเล่มล่าสุด
“Pavarotti, my Own Story เป็นชีวประวัติของศิลปินระดับครูชาวอิตาเลียน ‘พาวารอตติ’ ที่พออ่านแล้วได้อะไรเยอะมาก อุปสรรคที่เขากว่าจะก้าวไปยืนอยู่บนความสำเร็จที่มีคนนับหน้าถือตา ความฝัน ความหวังของผู้ชายคนหนึ่ง การเป็นนักร้องโอเปราที่ทุกคนให้การยอมรับ อ่านแล้วประทับใจค่ะ อาจจะน่าเบื่อนิดๆ แต่ชีวิตเขามีอะไรให้ติดตาม”
เพลงโปรด
“ปกติก็ฟังโอเปรานะ เพราะรู้สึกว่ามันมีจังหวะของมัน มีความไพเราะแบบไม่เหมือนใครดี แต่ถ้าเป็นเพลงไทยหนูชอบ ‘ฤดูที่แตกต่าง’ เป็นเพลงให้กำลังใจ สร้างความหวัง สร้างพลังใจได้ดี สอนให้เรารู้จักว่าชีวิตมันไม่ง่าย ย่อมมีอุปสรรคเสมอ แต่หลังจากฝนตก ท้องฟ้าก็มักจะสว่างไสว ชีวิตคนก็เหมือนกัน ไม่ใช่จะดำมืด หรือตกอับเสมอไป บางช่วงก็ต้องมีเวลาที่สดใส”
บทบาทที่อยากเล่น
“จริงๆ หนูเป็นคนตลกนะ แต่อยากเล่นดรามาหนักๆ เลย อยากเล่นมาก คือ ดาวพระศุกร์ หนูว่ามันมีความเป็นดรามามากๆ ร้องไห้ทั้งเรื่อง รันทด กดดัน ที่สำคัญมันเป็นตัวละครที่มีความเป็นอมตะ พูดถึงใครก็รู้จัก
ดาราในดวงใจ
“ชอบ ทอม แฮงก์ส ชอบเขาที่ไม่จำเป็นต้องหล่อ แต่พอเล่นนะ ชอบปล่อยของตลอด เล่นเหมือนไม่เล่น ทุกเรื่องที่เขาเล่นหนูว่าคือการแสดง เขาสวมบทง่ายๆ แต่ทำให้คนดูรู้สึกถึงขั้วหัวใจได้ ไม่ธรรมดานะคะสำหรับนักแสดงคนหนึ่งที่จะเป็นแบบนี้ได้”


