posttoday

ทฤษฎีกาแฟร้อน Coffee Theory กับการผุดขึ้นของปัญญา

15 พฤศจิกายน 2564

โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล สถาบันอินทรานส์ Hipot – การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ ศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคงยั่งยืน

ทฤษฎีกาแฟร้อน Coffee Theory กับการผุดขึ้นของปัญญา

การทำงานคือการแก้ปัญหา การแก้ปัญหาต้องใช้ปัญญา ความรู้ กระบวนการเรียนรู้ แต่บ่อยครั้ง เวลาจะแก้ปัญหา มันไปไม่ถูก มันคิดไม่ออก มันหาทางออกไม่เจอ ที่คิดได้ มันก็ได้แต่แนวทางเดิมๆ ขาดทางเลือกที่หลากหลาย ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรแตกต่าง แล้วเราจะสร้างปัญญา และความคิดที่แตกต่างขึ้นมาได้อย่างไร

จากทฤษฎีกาแฟร้อน Coffee Theory ที่อธิบายถึงธรรมชาติของแนวคิดเชิงระบบที่ว่าสรรพสิ่งมีคุณสมบัติสำคัญ 6 ประการคือ 1. ความเป็นหนึ่งเดียว 2. องค์ประกอบ 3. การเชื่อมโยง 4. การผุดกำเนิด 5. ศักยภาพที่แตกต่าง 6. คุณค่าและความหมาย

กล่าวคือ สรรพสิ่งคือระบบที่เกิดจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบ ภาวะองค์รวมใหม่ที่ผุดขึ้นนี้สามารถแสดงศักยภาพที่แตกต่าง (จากองค์ประกอบเดิมที่อยู่อย่างแยกส่วน) ได้อย่างมีคุณค่าและความหมาย

กาแฟร้อนก็เช่นกัน มันคือระบบที่ที่เกิดจากการเชื่อมโยง (หรือการชง) ขององค์ประกอบ ภาวะองค์รวมใหม่นี้สามารถแสดงศักยภาพในรูปของรสชาติและความหอม ที่เมื่อองค์ประกอบอยู่อย่างแยกส่วนแล้ว มันทำไม่ได้ จึงทำให้มันมีคุณค่าในรูปของราคาที่สูงขึ้น

ด้วยมุมมองดังกล่าว ช่วยให้เราเข้าใจถึงที่มาของการเกิดขึ้นของปัญญาว่ามาได้อย่างไร เพราะปัญญา มันก็คือระบบที่เกิดจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบหรือคำสำคัญ (Key Words) ภาวะใหม่ที่เกิดขึ้นนี้จึงมีคุณค่าและความหมายที่สูงขึ้น เพราะมันสามารถแสดงศักยภาพในรูปของความรู้ ความเข้าใจ หรือปัญญาที่แตกต่างจากเดิม

หากเราอยู่บ้านและอยากทานกาแฟร้อน เราก็เปิดตู้กับข้าว ในนั้นมีของมากมาย ท่านคิดว่า พริกไทย พริกป่น เกลือ กะปิ น้ำปลา ซีอิ๊ว น้ำมัน มันเกี่ยวไหม ....... ไม่ แต่เราต้องหาอะไรให้เจอ นั่นคือ ผงกาแฟ ครีม น้ำตาล และน้ำร้อน เพราะมันคือองค์ประกอบหลัก จากนั้นเราก็เอามาชงเข้าด้วยกัน ความเป็นกาแฟร้อนก็เกิดขึ้นทันที และก็แสดงศักยภาพในรูปของรสชาติและความหอมที่เหนือกว่าองค์ประกอบเดิมที่อยู่อย่างแยกส่วน

เมื่อมาพิจารณาเทียบกับการเกิดขึ้นของปัญญา ความรู้ความเข้าใจ กระบวนการเรียนรู้ มันก็เรื่องเดียวกัน เพราะความรู้ก็คือระบบที่เกิดจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบหลักหรือคำสำคัญ

สังเกตุตอนที่เราอ่านหนังสือ เมื่อเราเปิดตำรา มันก็เหมือนกับการเปิดตู้กับข้าว ทั้งหน้า A4 มันมี 20 บรรทัด แต่ละบรรทัดมี 15 คำ ทั้งหน้ามี 300 คำ ท่านคิดว่าท่านจะจำหมดไหม ....... ไม่ ท่านทำยังไง ท่านใช้ปากกาหลากสี ขีดเส้นใต้ วงกลม เน้นคำหรือข้อความสำคัญ ท่านทำอย่างนั้น ทำไม เพราะนั่นท่านกำลังหาองค์ประกอบหลัก หรือคำหรือใจความสำคัญ ใช่หรือไม่ ซึ่งว่าไปแล้ว มันคือการจับประเด็นนั่นเอง จากนั้น ท่านก็ลากเส้นเชื่อมโยงคำหรือใจความสำคัญเหล่านั้นเข้าด้วยกัน

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ มันก็คือทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ เพื่อหาใจความสำคัญหรือประเด็นหลัก จากนั้น ก็ใช้ทักษะการคิดเชิงสังเคราะห์ เพื่อเชื่อมโยงประเด็นหลักเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น ความรู้ความเข้าใจ กระบวนการเรียนรู้ ก็ผุดขึ้นทันที

ดังนั้น ท่านจะสังเกตเห็นว่า คนที่เรียนเก่ง หนังสือของเขาจะมีการระบายสีและลากเส้นโยงไปมาดูเลอะเทอะไปหมด แต่นั่นแหละของจริง

ถึงตรงนี้ ท่านได้เรียนรู้อะไร ปัญญา ความรู้ความเข้าใจ กระบวนการเรียนรู้คืออะไร ทฤษฎีกาแฟร้อนนำไปสู่ความเข้าใจของการเกิดขึ้นของปัญญาได้อย่างไร

จากการสังเกตที่ว่า กาแฟร้อนเกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบหลักฉันใด การเกิดขึ้นของปัญญา กระบวนการเรียนรู้ ก็เกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงของประเด็นหลักหรือใจความสำคัญฉันนั้น ดังนั้น ในการพัฒนาความรู้ หลักการข้อที่ 1 ก็คือ เราจะต้องหาประเด็นหลักหรือจับใจความสำคัญที่เกี่ยวข้องให้เจอ แล้วเชื่อมโยงประเด็นเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเป็นทางออก แล้วเอาไปใช้แก้ปัญหา

นอกจากนี้ กาแฟร้อนมีหลายชนิดเพื่อให้เป็นทางเลือก มีชื่อเรียกและราคาที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับความหอมและรสชาติที่ต่างกัน คุณสมบัติดังกล่าวนี้ มันขึ้นกับความแตกต่างขององค์ประกอบ เช่น เอสเพรสโซ่ มีแต่ผงกาแฟและน้ำร้อน คาปูชิโน่ก็เกิดจากการเอาเอสเพรสโซ่มาเติมด้วยนมสดและฟองนมมอคค่า ก็เกิดจากการเอาคาปูชิโน่มาเติมด้วยผงช็อกโกแลต กาแฟร้อนทั้งสามชนิดนี้ต่างก็คือระบบ เพราะเกิดจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบ แต่ที่มีชื่อเรียกต่างกัน นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบต่างกัน รสชาติ ความหอมจึงต่างกัน คุณค่าและราคาก็ต่างกันด้วย ดังนั้น หลักการข้อที่ 2 ในการพัฒนาปัญญาก็คือ เราต้องสร้างทางออกหลายๆ ทางเลือกด้วยองค์ประกอบที่แตกต่าง

ทฤษฎีกาแฟร้อน Coffee Theory กับการผุดขึ้นของปัญญา

ยิ่งไปกว่านั้น กาแฟที่มีชื่อเรียก รสชาติ ความหอม ราคาที่ต่างกันนั้น การเกิดขึ้นของกาแฟร้อนแต่ละชนิด มันมีลำดับของการชง ขั้นตอน หรือการเชื่อมโยงขององค์ประกอบต่างๆ ที่ต่างกันด้วย ดังนั้น หลักการข้อที่ 3 ในการสร้างองค์ความรู้ เราจึงต้องหาทางออกของปัญหาอย่างมีทางเลือกที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการสร้างการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆ อย่างหลากหลาย

โดยสรุป ในการแก้ปัญหา เราต้องมีปัญญา ทฤษฎีกาแฟร้อนช่วยให้เราเข้าใจถึงธรรมชาติที่มาของปัญญาว่า รากฐานทางความคิดของมันมาจากมุมมองเชิงระบบ ด้วยการคิดวิเคราะห์ แจกแจง เพื่อหาองค์ประกอบหลักหรือใจความสำคัญ แล้วตามด้วยการคิดเชิงสังเคราะห์ เพื่อเชื่อมโยงประเด็นสำคัญเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ในขณะนั้น ความรู้ใหม่ก็เกิดขึ้น นอกจากนี้ การแก้ปัญหาต้องมีทางออกหลายๆ ทางเลือก และมันจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการสร้างการเชื่อมโยงที่หลากหลายขององค์ประกอบที่แตกต่าง

ทฤษฎีกาแฟร้อนช่วยให้เข้าใจถึงธรรมชาติของความเป็นองค์รวม และเป็นแนวทางเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงระบบ เพื่อความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน เพราะกาแฟร้อนเกิดขึ้นได้อย่างไร ปัญญาก็เกิดขึ้นได้อย่างนั้น

...ทฤษฎีกาแฟร้อนจึงเป็นศาสตร์องค์รวมแห่งความสำเร็จ