posttoday

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

26 มิถุนายน 2563

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พร้อมโปรโมชั่นและบริการใหม่

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) พร้อมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยโรงแรมได้เพิ่มมาตราการเพื่อดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของทั้งผู้ใช้บริการและพนักงานและได้ผ่านการรับรองมาตราฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มาตราการเพื่อดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัยต่าง ๆ ได้จัดแสดงรายละเอียดไว้บนเว็บไซด์เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีน ส่วนรายละเอียดภาษาไทยได้แนบมากับข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

โรงแรมได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนไทยและผู้ที่พำนักอยู่ในประเทศไทยที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนในโรงแรมหรูใจกลางเมืองและดื่มด่ำกับบรรยากาศราวกับไปพักที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยโปรโมชั่น พัก 1 คืน ฟรี 1 คืน โดยห้องพักแบบดีลักซ์ (Deluxe Room) ในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 6,600++ บาท นอกจากจะได้เข้าพักในห้องพักอันกว้างขวาง เอนกายบนที่นอนใหม่แสนนุ่มสบายแล้ว ราคาห้องพักยังรวมอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นแสนอร่อยที่ห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) อาหารเช้าให้บริการเป็นชุดที่ห้องอาหาร อัพ แอนด์ อะบัฟ (Up & Above) หรือภายในห้องพัก นอกจากนั้นยังได้รับยกเว้นค่าบริการเตียงเสริมสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี พร้อมอาหารเช้า (จำกัดเด็ก 2 ท่านต่อ 1 ห้อง) ขยายเวลาเช็คเอ้าท์ได้ถึง 16.00 น. และพิเศษสุดคือรับสิทธิ์ 1 แถม 1 สำหรับบริการนวดแผนไทย 60 นาที ที่ ดิ โอกุระ สปาให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ สำรองห้องพักและรับโปรโมชั่น พัก 1 คืน ฟรี 1 คืน ได้ที่ www.okurabangkok.com หรือ อีเมล์ [email protected] ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31สิงหาคม 2563 และเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ถึง 31 สิงหาคม 2563 เท่านั้น

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

ห้องอาหาร อัพ แอนด์ อะบัฟ มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเมื่อมารับประทานอาหารเมนู All you can eat มื้อกลางวัน ท่านแรกชำระค่าบริการเต็มราคา ท่านที่ 2 จะได้รับสิทธิ์ชำระเพียง 88++ บาททันที โดยอาหารเมนู All you can eat มื้อกลางวัน ราคาเริ่มต้นท่านละ 1,200++ บาท ส่วนมื้อค่ำ ลูกค้าก็ได้รับสิทธิพิเศษเช่นกัน โดยเมื่อรับประทานอาหารเมนู All you can eat มื้อค่ำ ท่านแรกชำระค่าบริการเต็มราคา ท่านที่ 2 ชำระเพียง 888++ บาท ราคาอาหารเมนู All you can eat มื้อค่ำเริ่มต้นท่านละ 1,800++ บาท สิทธิพิเศษใช้ได้ระหว่างวันที่ 2 ถึง 31 กรกฎาคม 2563 เท่านั้น

อัพ แอนด์ อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) เชิญชวนทุกท่านกลับมาลิ้มรสขนมนานาชนิดในชุดน้ำชายามบ่ายสีม่วง สีสันของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อนที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่พร้อมให้บริการทุกท่านระหว่างวันที่ 2 กรกฏาคม – 30 กันยายน 2563 ขนมในชุดน้ำชายามบ่ายสีม่วงธีมลาเวนเดอร์ในปีนี้ล้วนออกแบบโดยนำความงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มาเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการจิบน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษนี้ราวกับนั่งอยู่ท่ามกลางความงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ขนมนานาชนิดน่ารักน่ารับประทานได้แก่ มาการองพิมพ์ลายลาเวนเดอร์สอดไส้ครีมรสเบอร์รี่ ช็อกโกแลตพราลีนสอดไส้แบล็คเคอเรนท์ ครัมเบิลเชอร์รี่และมะพร้าว ฟินันเซียอัลมอนด์กับมูสฮอกไกโดและแบล็คเคอเรนท์เยลลี่ ทาร์ตบลูเบอร์รี่และยูซุ มูสมะพร้าวและเยลลี่ลาเวนเดอร์ยูซุ พานาคอตต้าโยเกิร์ตกับผลเบอร์รี่ สคอนบลูเบอร์รี่ เชอร์เบตมันม่วง ขนมปังบริยอช์ไส้ซอสโหระพาโรยไข่ปลาแซลมอน ขนมปังหน้าแตงกวา ขนมปังไส้ไก่สไตล์อังกฤษ ขนมปังหน้าแซลมอนสไลด์สไตล์ฝรั่งเศสหมักด้วยบีทรูท ทั้งหมดนี้สามารถเลือกรับประทานคู่กับชามาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) ชาชั้นเลิศสัญชาติฝรั่งเศส ชากลีบดอกบัวซาโรที (Saro Tea) หรือกาแฟ ให้บริการทั้งแบบร้อนและเย็น ราคาเริ่มต้นชุดละ 1,400++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

ห้องอาหารยามาซาโตะ ห้องอาหารญี่ปุ่น ที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (Michelin Plates) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ก็ขอเชิญทุกท่านร่วมเขียนคำอธิษฐานบนกระดาษสีและแขวนบนต้นไผ่ที่นำมาประดับบริเวณหน้าห้องอาหารเพื่อขอพรกับดวงดาว ตลอดเทศกาล “ทานาบาตะ” และรับประทานอาหารชุดมื้อพิเศษที่ เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารยามาซาโตะได้ตระเตรียมไว้ทั้งอาหารชุดมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ประกอบไปด้วย อาหารน่ารับประทานหลายชนิด เป็ดรมควัน หอยแมลงภู่ และข้าวโพดอ่อนราดซอสน้ำส้มสายชูไข่แดงและตกแต่งด้วยพริกหยวกรูปดาว ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปกุ้งใส่เห็ดฮิเมจิ วุ้นเส้นญี่ปุ่นและผักนานาชนิด และปลาดิบชั้นดี 3 ชนิด (ปลาทูน่า, ปลาหางเหลือง, หอยปีกนก) ปลาฮิราซึย่างซอสข้าวโพดมายองเนส มะเขือม่วงตุ๋นกับปลาไหล เผือก แครอท ราดซอสงา ปลาอินทรีย์และเนื้อย่างกับซอสมิโซะ รับประทานคู่กับเห็ดหลวงญี่ปุ่น แครอทและพริกหยวก เทมปุระปูหิมะ ปลาดาบ และผักต่าง ๆ เส้นหมี่น้ำหน้าปลาหวานญี่ปุ่นโรยด้วยเห็ดหอมและเปลือกส้มยูซุขูดเพิ่มรสชาติให้น้ำซุปกลมกล่อม อาหารชุดมื้อกลางวันราคาชุดละ 1,600++ บาท ส่วนชุดมื้อค่ำสำหรับเทศกาล “ทานาบาตะ” ราคาชุดละ 4,700++ บาท ให้บริการระหว่างวันที่ 2 ถึง 26 กรกฎาคม 2563

นอกจากนั้น ห้องอาหารยามาซาโตะ ยังเปิดให้บริการสั่งอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำหรับกลับไปรับประทานที่บ้าน โดยเชฟ ฮางิวาระ ได้คัดเลือกเมนูอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่ทุกท่านชื่นชอบและยังคงรสชาติอร่อยถูกปากเมื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน และมอบส่วนลดพิเศษ 30% ทันทีเมื่อทำการสั่งอาหารโดยตรงกับทางโรงแรม (ยกเว้นเมนูเบนโตะและดงบุริ) เมนูน่ารับประทาน อาทิ คาคิ ฟราย (Kaki Fry) หรือหอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด ที่เชฟคัดสรรแต่หอยนางรมสด ๆ ตัวโตมาชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบนอกนุ่มในเป็นเอกลักษณ์ ราคา 400 บาท ปลาหิมะย่างซอสเทอริยากิ (Ginmutsu Teriyaki) ปลาหิมะเนื้อหนานุ่มย่างด้วยซอสเทอริยากิสูตรพิเศษของห้องอาหารยามาซาโตะรสชาติอร่อยกลมกล่อม ราคา 750 บาท อาหารจานพิเศษที่พลาดไม่ได้ คือ สเต็กเนื้อซัทซึมะ (Satsuma) ที่เชฟเลือกใช้เนื้อวากิวชั้นดีคัดพิเศษจากจังหวัดคาโงะชิมะ (Kagoshima) มาย่างให้สุกตามที่ต้องการบนเตาร้อนแบบเทปปันยากิ ราคา 2,700 บาท ยามาซาโตะเบนโตะ (Yamazato bento) ซึ่งเป็นอาหารชุดสุดคุ้มค่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการราคาเพียง 600 บาท ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยแบบญี่ปุ่น ไข่ม้วนญี่ปุ่น กุ้งเทมปุระ ถั่วแระญี่ปุ่น ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น ไก่ทอดแบบญี่ปุ่น มันญี่ปุ่น ปลาซัมมะตุ๋น สลัดมันฝรั่ง ผักตุ๋นแบบญี่ปุ่น ข้าวโรยหน้าด้วยผงปรุงรสแบบญี่ปุ่น ผักดอง และ ซุปมิโซะนอกจากนั้นยังมี เบนโตะหมูผัดขิงสไตล์ญี่ปุ่น (stir-fried ginger pork bento) ราคา 500 บาท

ส่วนรายการอาหารในเมนูดงบุริ อาหารแนะนำได้แก่ ข้าวหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน (salmon & salmon roe donburi) ราคา 700 บาท, ข้าวหน้าปลาไหลย่าง (grilled eel donburi) ราคา 650 บาท และ ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ (pork loin cutlet donburi) ราคา 450 บาท และ อื่น ๆ อีกหลายรายการ สั่งอาหารได้ทุกวันระหว่างเวลา 11:30 น. ถึง 14:30 น. และ 17:30 น. ถึง 21:30 น. ที่ห้องอาหารยามาซาโตะ โทรศัพท์ 02-687-9000 อีเมล์ [email protected] ส่วนบริการเดลิเวอรี่นั้น จะใช้บริการผ่าน Line Man หรือ Grab โดยค่าบริการจัดส่งจะถูกเรียกเก็บปลายทางตามที่ Line Man หรือ Grab กำหนด

โปรโมชั่นใหม่ บริการใหม่ จากดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งอาหารติดต่อ 02 687 9000 หรือ [email protected]