posttoday

บรูไน...ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก

01 ธันวาคม 2561

หลายคนตั้งคำถามว่า ไปทำไม “บรูไน” เมื่อรู้ว่าจุดหมายปลายทางถัดไปของพวกเราคือ “บรูไนดารุสซาลาม”

หลายคนตั้งคำถามว่า ไปทำไม “บรูไน” เมื่อรู้ว่าจุดหมายปลายทางถัดไปของพวกเราคือ “บรูไนดารุสซาลาม” (Brunei Darussalam) หนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยบรูไนมีขนาดพื้นที่ราว 5,765 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรเพียง 4 แสนกว่าคน

บางคนอาจจะคิดว่าประเทศเล็กนิดเดียวไม่น่าจะมีอะไรให้ค้นหา หรือบางคนก็อาจจะบอกว่าประเทศนี้ร่ำรวยมหาศาลจากการขุดพบน้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่บอกต่อกันมาหลายสิบปี นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทีมงานโลก 360 องศา เดินทางสู่บรูไนอีกครั้ง เพื่อทำความรู้จักกับประเทศนี้ในช่วงเวลาปัจจุบัน โดยได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน

การเดินทางสู่บรูไนนั้น จริงแล้วทำได้ไม่ยากเพราะมีสายการบินรอยัล บรูไน บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของประเทศบรูไนทุกวัน โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที และข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สายการบินก็ทำให้เรารู้ว่า แม้บรูไนจะเป็นประเทศมุสลิมแต่ก็เปิดกว้างพอสมควร เช่น ชาวต่างชาติสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แต่ต้องไม่ใช่ในที่สาธารณะ นอกจากนี้แล้วคนบรูไนจะไม่ใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่สิ่งของเพราะถือเป็นเรื่องไม่สุภาพ แต่ใช้การผายมือแทน และที่สำคัญคือ สีเหลืองเป็นสีของพระมหากษัตริย์ ดังนั้นคนบรูไนเองจะไม่ใส่เสื้อผ้าสีเหลือง

บรูไน...ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก

แม้ว่าความตั้งใจแรกของพวกเราคือการทำความรู้จักและค้นหามุมมองอื่นๆ ของประเทศบรูไนนอกเหนือจากความร่ำรวยจากภาพที่คนทั่วไปรู้จัก แต่เมื่อเดินทางถึงประเทศนี้แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งหนึ่งที่จะต้องไม่พลาดคือการไปเยี่ยมชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ด้านสถาปัตยกรรมต่างๆ ของที่นี่ โดยหนึ่งในนั้นคือ มัสยิดจามี อัสรี ฮัซซานิล โบลเกียห์ (Jame’ Asr Hassanil Bolkiah Mosque)

มัสยิดแห่งนี้เป็นมัสยิดประจำรัชกาลปัจจุบัน คือ สมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 29 แห่งบรูไน และนับเป็นมัสยิดหลวงแห่งที่ 2 เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1994 นับเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรูไน สร้างขึ้นบนพื้นที่ราว 2 แสนตารางเมตร สามารถจุคนได้ถึง 4,500 คน โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านในได้ ด้วยการกำหนดพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ด้านในแล้วสีเหลืองทองอร่ามที่ประดับประดาไว้อย่างวิจิตรตระการตา สามารถสะกดสายตาผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

เมื่อไปเยือนมัสยิดหลวงในรัชกาลปัจจุบันแล้ว สถานที่สำคัญอีกแห่งที่ควรไม่ควรพลาดเช่นกันคือ มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน (Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque) มัสยิดหลวงแห่งแรก อีกหนึ่งสถานที่ซึ่งกลายเป็นภาพจำของหลายๆ คนเมื่อพูดถึงประเทศบรูไน และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว

บรูไน...ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก

มัสยิสหลวงแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 28 ความสูงจากฐานมัสยิดถึงยอดโดมทอง 52 เมตร นับเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสูงที่สุดในกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน จุดเด่นของที่นี่คือสระขนาดใหญ่ด้านนอก ซึ่งมีเรือพระที่นั่งจำลองของสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 2 แห่งบรูไน สร้างด้วยหินตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางสระ รวมทั้งยังมีพื้นที่ลานกว้างขนาดใหญ่ด้านหน้าให้ผู้คนได้ทำกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย

สถานที่ต่างๆ ในกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันที่พวกเราได้พบ ล้วนแล้วแต่ภาพสะท้อนความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความเลื่อมใสต่อศาสนาของผู้คนที่นี่ ผ่านทางสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ ประดับประดาด้วยข้าวของมีค่าต่างๆนอกจากนี้แล้วหากมีโอกาสไปเยือนพิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum) หรือพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ก็จะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญของสุลต่าน ทั้งนี้ราชวงศ์โบลเกียห์แห่งบรูไน นับเป็นราชวงศ์ที่นับถือศาสนาอิสลามซึ่งเก่าแก่ที่สุดในโลก

พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวพระราชประวัติสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ปัจจุบัน รวมทั้งเครื่องบรรณาการจากผู้นำประเทศต่างๆ ภายในแบ่งออกเป็น 4 ห้องคือ ห้องจัดแสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ค.ศ. 1968 หอศิลป์หลวง ห้องจัดแสดงนิทรรศการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบรอบ 25 ปี (Silver Jubilee) และห้องจัดแสดงนิทรรศการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี (Golden Jubilee)

บรูไน...ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก

แม้ว่าบรูไนจะเป็นประเทศเล็กๆ จากขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรแต่ก็นับว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ต่อภูมิภาคนี้มายาวนานเช่นกัน โดยในสมัยศตวรรษที่ 14-17 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของการเดินเรือและการค้าโกตาบาตูของบรูไน เคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญของภูมิภาค มีการค้นพบโบราณวัตถุนับหมื่นชิ้น และจัดแสดงเรื่องราวไว้ที่พิพิธภัณฑ์การเดินเรือทางทะเลบรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam Maritime Museum) ที่เปิดให้เข้าชมเพื่อให้พวกเราได้เข้าใจและเห็นภาพความสำคัญของประเทศนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนบรูไนคือ การเที่ยวชมหมู่บ้านน้ำ (Kampong Ayer) หนึ่งในสถานที่ได้สมญานามว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” (Venice of the East) นอกจากนั้นคือการลองชิมอาหารพื้นถิ่นที่ทำจากแป้งสาคู ซึ่งชาวบรูไนเรียกกันว่า Ambuyat แล้วต่อด้วยการล่องไปตามแม่น้ำชมภาพความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสองฝั่งน้ำ และหากโชคดีก็อาจจะได้เจอสัตว์หายากของเกาะบอร์เนียว แล้วปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกที่ Empire Hotel & Country Club พื้นที่ชายหาดติดทะเลจีนใต้ ในมุมที่ว่ากันว่าสวยที่สุดแล้วในประเทศบรูไน

เรื่องราวของประเทศบรูไนสำหรับพวกเราเพิ่งเริ่มต้น ยังมีสิ่งต่างๆ ที่นอกเหนือไปจากที่คาดคิดไว้อีกมากเลยทีเดียว รับชมเพิ่มเติมได้ในรายการโลก 360 องศา ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD เช้าวันอาทิตย์ เวลา 08.00-08.30 น.หรือติดตามได้ที่ Facebook ของรายการโลก 360 องศา รวมทั้งชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube Chanel รายการโลก 360 องศา