posttoday

ออมอย่างเดียว ‘ไม่มีวันรวย’

22 พฤศจิกายน 2561

“การออมเป็นฐานแข็งแกร่งของการลงทุน” ท่องประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจ

เรื่อง ราตรีแต่ง

“การออมเป็นฐานแข็งแกร่งของการลงทุน” ท่องประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจ ในระหว่างที่ออมเงินก็ควรหาความรู้การลงทุนไปด้วย โดยตั้งเป้าให้เป็นการเรียนรู้ไม่มีวันจบ ใครเริ่มต้นเร็ว และทำได้ดี ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งชีวิตความมั่งคั่งรออยู่

การมีเงินออมไม่ว่าจะออม 5% หรือ 10% ของเงินเดือน ก็ต้องเก็บออม ซึ่งดีกว่าไม่มีเงินออมเลย ในยามฉุกเฉินเงินออมช่วยได้เสมอ หรือหากมีฝันอยากซื้อบ้าน อยากซื้อรถ อยากเรียนต่อปริญญาอีกใบ เงินออมก็ช่วยเติมให้ฝันเป็นจริงได้ แต่ถ้าเป้าหมายต่อไปจากนี้คืออยากร่ำรวย เงินออมก็จะช่วยต่อยอดการลงทุน แม้จะเป็นเงินออมก้อนน้อย ก็ออกดอกออกผลกลายเป็นเงินก้อนโตได้ เมื่อถึงเวลาแก่ตัวไปก็ไม่ลำบาก ได้ใช้ชีวิตกินเที่ยวตามใจปรารถนา ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพกายก็ดีไปด้วย และยังมีเงินเหลือแบ่งปันให้ลูกหลานเป็นมรดกได้อีก ซึ่งก็ต้องมีคุณสมบัตินักลงทุน ดังนี้

อย่ายึดติดกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน

อย่ารอที่จะรับแค่เงินเดือนอย่างเดียว แล้วสถานการณ์บางบริษัทก็จัดว่าผีซ้ำด้ำพลอย รับเงินเดือนเท่าเดิม ไม่มีการขึ้นเงินเดือนมาแล้วหลายๆ ปี ใครอยู่ในสถานการณ์นี้ต้องหาเงินจากการทำธุรกิจอื่นๆ ไปด้วย แต่ไม่ใช่คิดการใหญ่ถึงกับการทิ้งงานประจำไปทำ แค่หาช่องทางการทำเงินเพิ่มเท่านั้นเอง การทำธุรกิจที่เราถนัดถือเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

วันนี้ดอกเบี้ยเงินฝาก ถูกเงินเฟ้อแซงหน้าไปแล้ว ถ้าใครขืนยังนิ่งดูดาย ฝากเงินในธนาคารเพียงอย่างเดียว แล้วดอกเบี้ยจะผลิดอกออกผลได้อย่างไร

การให้เงินนอนนิ่งๆ เป็นเงินก้อนโตในบัญชีเงินฝาก นับเป็นสิ่งที่ดี แต่กับดอกเบี้ยที่น้อยนิดวันนี้มันไม่ใช่แล้ว ควรศึกษาหาหนทางโยกเงินไปลงทุน ไปทำให้เงินงอกเงย สิ่งที่ทำให้ผลตอบแทนของเรามากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ได้แก่ ตราสารหนี้ หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ตลาดหุ้น กองทุนหุ้นปันผล กองทุนลดภาษี อย่าไปกังวลใจมากเงินอาจจะเพิ่มช้าๆ ก็ยังดีกว่าฝากเงินเย็นไว้เฉยๆ แน่นอน

มีเงินก้อนควรคิดลงทุน

หลายครั้งหลายหน มักจะได้ยินคนอยากร่ำรวยอ้างเหตุผลที่ว่า ไม่มีเวลา ไม่กล้า ไม่มีความรู้ กลัวการขาดทุน

เลิกคิดดีกว่าว่าการลงทุนเป็นเรื่องซับซ้อน ควรหันมาสนใจศึกษารูปแบบการลงทุนทางการเงิน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ของใหม่ๆ มาให้เรียนรู้ตลอดเวลา วางแผนชีวิตและวางแผนการเงินควรทำให้เป็นของคู่กัน กระเป๋าสตางค์อู้ฟู่ไม่ได้มาจากการใช้ชีวิตเลื่อนลอยไปวันๆ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐี ไม่มีใครหยุดนิ่งเลยสักราย ร่ำรวยแล้ว ก็ยังทำงานเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ทำให้นักลงทุนมีความอดทน แม้ว่าบางจังหวะชีวิตจะเพลี่ยงพล้ำ ก็ไม่ท้อถอย ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค

ออมอย่างเดียว ‘ไม่มีวันรวย’

หมั่นศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ทำ

ก่อนการตัดสินใจทำธุรกิจหรือลงทุน เรามักจะได้ยินประโยคคุ้นหูเป็นประจำ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” สำหรับคนอยากมั่นคงเรื่องการเงิน กลายเป็นประโยคต่อยอดความรู้ความชำนาญ ยิ่งมีความเสี่ยง ก็ยิ่งต้องมีข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น ทุกความเสี่ยง ก็ยังมีโอกาสและสามารถทำ “กำไร”

ยกตัวอย่างเช่น ทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2018 ราคาหุ้นอสังหาฯ ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีข่าวในสื่อโซเชียลว่าปีนี้ อาจจะเกิดฟองสบู่แตกในภาค
อสังหาฯ หลายคนก็เริ่มกลัวกันยกใหญ่จนไม่กล้าลงทุนทำให้เสียโอกาสไป นั่นคือความกลัวโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริง ราคาคอนโดมิเนียมแพงขึ้นทุกปี จนรุ่นลูกของเรา อาจต้องเช่าอยู่เป็นส่วนใหญ่ หากพ่อแม่ไม่(กล้า)ซื้อเก็บไว้ให้เป็นมรดกที่มั่นคง

ลงมือทำให้เร็วที่สุด

หากไม่เริ่มลงมือทำ แล้วเมื่อใดจะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่จำเป็นต้องรอคอยทุกอย่างให้พร้อม จึงลงมือทำ การเริ่มช้าเท่าไร เป้าหมายที่คุณตั้งก็ยิ่งไกลเกินฝันออกไปเท่านั้น เพราะวิธีที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และเผชิญและแก้ไขปัญหา ซึ่งถือว่าเป็นครูชั้นเยี่ยมยอด ไม่ใช่การเรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียว

บรรดาเศรษฐีเริ่มต้นลงทุนตอนอายุน้อยทั้งนั้น เพราะนั่นหมายความว่าเรายังมีเวลาเรียนรู้จากความผิดพลาดได้อีกมากมายหลายเรื่อง ดีกว่าคิดทำในช่วงวัยที่รับภาระอยู่มาก เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก ไปจนการเลี้ยงดูพ่อแม่ ฯลฯ โอกาสทุ่มเททางการเงินก็จะยากมากขึ้นเป็นเงาตามตัว การลงทุนนี่แหละจะทำให้คุณมีรายรับเข้ามามาก

อย่ากลัว “ขาดทุน”

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักติดกับดักความคิดนี้ จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย ซึ่งการทำธุรกิจหรือการลงทำทุน มีความเสี่ยงเสมอ แต่หากมีความตั้งใจ ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดที่มี อาจเพิ่มรายรับได้มากถึง 3-4 เท่าของเงินลงทุน โดยตอนแรกอาจจะเริ่มลงทุนหลักพัน หรือหลักหมื่นบาทเพื่อป้องกันความเสี่ยง แล้วหากเริ่มไปได้ดี จึงค่อยเพิ่ม หรือขยายการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นไป

เมื่อต้องการความมั่นคงเมื่อเกษียณ วันนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ อย่ากลัวที่จะเสี่ยงกับการลงทุน หรือแม้การขาดทุนบ้างในระยะสั้น แต่การมีเงินไม่พอใช้ในยามแก่ตัวลง เป็นเรื่องควรกลัวกว่ามาก