posttoday

แมวมงคง...ในตำราสมุดข่อยโบราณวัดทองนพคุณ

31 กรกฎาคม 2556

แมวมงคล...ในตำราสมุดข่อยโบราณ วัดทองนพคุณฝรั่งชาวอังกฤษคนหนึ่งผู้หลงรักแมวไทย “มาร์ติน คลัตเตอร์บัคข์”

โดย...วรธารที ภาพ มาร์ติน คลัตเตอร์บัคข์ –วรธาร ทัดแก้ว

แมวมงคล...ในตำราสมุดข่อยโบราณ วัดทองนพคุณฝรั่งชาวอังกฤษคนหนึ่งผู้หลงรักแมวไทย “มาร์ติน คลัตเตอร์บัคข์” เจ้าหน้าที่สื่อสารภายนอก เทสโก้ โลตัส ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับแมวไทย จนเขียนตำราแมวไทยขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อ Siamese Cats : Legends and Reality (แมวสยาม : ตำนานและความเป็นจริง) คาดคะเนจำนวนแมวจรจัดในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยเวลานี้ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตัว!

สมมติถ้าจริงตามนี้ ก็ต้องบอกว่าปริมาณ “พิฬาร” นำหน้าหมาจรจัดในกรุงเทพฯ ซึ่งก็มีคนคาดจำนวนว่าอยู่ที่ 45 แสนตัวโดยประมาณ (จำนวนอาจมากกว่านี้ หรืออาจทะลุหลักล้านก็ได้)

เรื่องจำนวน...หมาแมวคงไม่ทะเลาะกันว่า ฉันมากกว่าเธอ เธอน้อยกว่าฉัน เพราะยังไงก็หาคำตอบเกี่ยวกับจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ แต่คุณทราบไหมว่า ในบรรดาแมวจรจัดเหล่านั้น มีแมวจำนวนมิใช่น้อยต้องตามลักษณะ “แมวมงคล” ของไทย ซึ่งปรากฏอยู่ในตำราแมวไทยที่เป็น “สมุดข่อยโบราณ” อันเก่าแก่ที่สุด

คุณเคยได้ยินไหม “แมวไทย” ที่วัดทองนพคุณ!

วัดทองนพคุณ...ชุมนุมแมว (จร)

อยากจะบอกว่าที่คณะ 8 วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากโรงพยาบาลตากสิน มีแมวจรจัดค่อนข้างมากมาอาศัยความเมตตาจากพระสงฆ์ ทั้งหมดเป็นแมวที่เจ้าของนำมาปล่อยทิ้ง หลายๆ ตัวก็ดั้นด้นพเนจรมาเองตามยถากรรม

ปัจจุบันที่คณะ 8 มีแมวเหลืออยู่ประมาณ 4050 ตัวเท่านั้น จากเดิมก่อนนี้จำนวนหลักร้อย ทว่าต่อมาก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น ตายเพราะโรค ตายเพราะแก่ชรา และตายเพราะถูกงูเหลือมเขมือบ รวมทั้งชาวบ้านมาขอไปเลี้ยง ซึ่งผู้ที่มีจิตเมตตาเลี้ยงดูแมว คือ “พระครูวิบูลญาณกิจ” หรือหลวงปู่คณิสสร อายุ 92 ปี (บวชสามเณรเมื่ออายุ 13 ปี) ปัจจุบันเป็นเจ้าคณะ 8 เริ่มเลี้ยงแมวตั้งแต่ได้อุปสมบทเป็นพระ ซึ่งสาเหตุที่เลี้ยงมาจากความสงสาร

“แมวเหล่านี้เป็นแมวที่ชาวบ้านเอามาปล่อยวัด จะด้วยไม่อยากเลี้ยงเพราะกลัวจะสร้างปัญหา หรือเป็นภาระไม่ทราบนะ อาตมาเห็นเพ่นพ่านในวัดก็รู้สึกสงสาร เลยเอามาเลี้ยงที่คณะ ต่อมามันก็เพิ่มจำนวนขึ้นจากการผสมพันธุ์กัน แต่ก็มีหลายๆ ตัวพเนจรรอนแรมจากไหนไม่รู้มาสมทบในภายหลัง จนกระทั่งคณะ 8 เต็มไปด้วยหมู่แมวไทยหลากหลายสี พันธุ์ และวัย” เจ้าคณะ 8 เล่าที่มาของการเลี้ยงแมวในวัด

ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ในบรรดาแมวจรจัดเหล่านั้นมี “แมวมงคล” ต้องตามลักษณะในตำราแมวไทยในสมุดข่อยโบราณ 45 ชนิดพันธุ์ ไม่นับพันธุ์อื่นๆ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม่บริสุทธิ์ และไม่ปรากฏในตำรา เพราะเป็นพันธุ์ผสม

“ตอนแรกที่เลี้ยงก็ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไร รู้แต่ว่าแมวไทย แต่ตอนหลังอาตมาได้หนังสือที่พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม เขียนเกี่ยวกับแมวไทยโดยอ้างข้อมูลจากตำราสมุดข่อยโบราณก็เกิดความสนใจศึกษา จึงได้รู้ว่าแมวที่ตัวเองเลี้ยงพันธุ์อะไร เท่าที่เคยเลี้ยงก็จะมีพันธุ์วิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ ขาวมณี นิลรัตน์ สีสวาด ปัจจุบันเหลือ 2 พันธุ์ คือ วิเชียรมาศ กับศุภลักษณ์ นอกนั้นเป็นแมวที่พบได้ทั่วไปในที่ต่างๆ เช่น แมวสีเหลือง แมวลายเสือ แมวดำ เป็นต้น”

ปล่อยอิสระ แต่ปัญหาคืองูเหลือม

ขณะที่วิธีการเลี้ยง “กบ” เด็กวัดที่รับใช้หลวงปู่ เล่าว่า จะเลี้ยงแบบวิธีธรรมชาติ คือ ปล่อยให้มีชีวิตเสรี ไม่มีการจับขังกรง แต่จะปิดประตูหน้าคณะไว้เพื่อป้องกันหมามาทำร้าย บรรดาแมวจึงอยู่ได้ทุกที่ภายในคณะ บางตัวก็ไต่ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ แอบในพุ่มไม้ นอนใต้เก้าอี้ อยู่บนกุฏิ หมอบบนรั้วกำแพงคณะ

อาหารที่นำมาเลี้ยงพวกมันวันละ 2 เวลา เช้าเย็น ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทูนึ่งสุกคลุกกับข้าว บางมื้อก็อาหารกระป๋อง อาหารเม็ด ซึ่งต้องซื้อทุกอย่าง ยกเว้นข้าวก้นบาตรพระในบางวัน โดยหลวงปู่จะให้เงินไปซื้อ บางวันญาติโยมนำมาถวายที่คณะ ซึ่งถ้าใครจะบริจาคอาหารหรือเงินก็สามารถบริจาคได้ที่หลวงปู่

“เมื่อก่อนหลวงปู่เลี้ยง แต่ตอนนี้ท่านอายุมากไม่ไหวแล้ว ผมจึงเป็นคนดูแลพวกมันทุกอย่าง บางทีหลวงพี่ในคณะก็ลงมาช่วย เช่น ให้อาหาร พาไปหาหมอเมื่อไม่สบาย ส่วนใหญ่จะเป็นพยาธิและหวัด โดยเฉพาะเป็นหวัดมักเบื่ออาหาร แต่โชคดีแมวพวกนี้ไม่ป่วยบ่อย อาจเพราะเลี้ยงแบบไม่ได้ขังกรง ปล่อยอิสระ ทำให้ได้ออกกำลังกาย เดินไปโน่นไปนี่ ปัญหาในการเลี้ยงไม่ค่อยมี จะมีก็งูเหลือมที่แอบมากินแมวประจำ เนื่องจากวัดอยู่ใกล้คลองน้ำ ซึ่งปัญหานี้แก้ไม่ได้ และเป็นสาเหตุหลักของการลดลงของจำนวนแมว” กบเล่า

แม้การเลี้ยงจะด้วยวิธีธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ความผูกพันที่แมวมีต่อผู้เลี้ยงอย่างจับจิตจับใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ทั่วไปจากพฤติกรรมของแมว มาร์ติน เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีคนมาขอซื้อแมววิเชียรมาศจากหลวงปู่ด้วยเงิน 2,000 บาท แต่หลวงปู่ไม่ขาย และบอกว่าอยากได้ก็เอาไปเลย แต่คนนั้นก็จับวิเชียรมาศนั้นไม่ได้

“ปกติแมวตัวนี้มีนิสัยเชื่องมาก ใครจับก็ได้ พอหลวงปู่บอกคนที่จะซื้อว่าอยากได้ก็เอาไป มันได้ยินแค่นั้น มันก็มาแอบใกล้ๆ หลวงปู่ พอคนนั้นจะจับมันก็กระโดดหนี ทุกวันนี้เจ้าตัวนี้ยังอยู่ หลวงปู่ตั้งชื่อมันว่า ‘สองพัน’ และมีลูกอยู่ 2 ตัว หลวงปู่ตั้งชื่อ สามพัน กับสี่พัน”

จิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ก็รูปแมว

สิ่งหนึ่งที่หลายคนคิดไม่ถึงก็คือ ภายในพระอุโบสถวัดทองนพคุณนั้นมีจิตรกรรมฝาผนังรูปแมวพันธุ์ “ขาวมณี” คาดว่ามีการเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3

“ในภาพจิตรกรรมเป็นภาพโต๊ะตั้งพระไตรปิฎก มีหนังสือเล่มวางซ้อนๆ กัน 3 กอง พระวินัยปิฎกหนึ่งกอง พระสุตตันตปิฎกหนึ่งกอง พระอภิธรรมปิฎกอีกหนึ่งกอง ใต้โต๊ะบรรจุคัมภีร์ มีสัตว์น่ารักสองตัวคือแมวขาวมณีกับหนูวิ่งไล่กันอยู่ เข้าใจว่าผู้เขียนภาพนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่าแมวกำลังป้องกันไม่ให้หนูมากัดหรือทำลายหนังสือพระไตรปิฎก” มาร์ติน ให้ความเห็น

มาร์ติน ให้ความเห็นต่อว่า แม้ขาวมณีจะไม่ใช่พันธุ์ที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ แต่ก็เป็นแมวไทยพันธุ์แท้ดั้งเดิมที่เชื่อว่าเป็นแมวมงคลชนิดหนึ่งของไทย

“ด้วยมีลักษณะสวยงาม รูปร่างขนาดปานกลาง ขนสีขาวแน่นอ่อนนุ่ม พันธุ์แท้ต้องสีขาวปลอดทั้งตัว ศีรษะคล้ายรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่แบน หูใหญ่ตั้งสูงเด่น หางยาวปลายแหลมชี้ตรง ขายาวเรียวได้ส่วนกับลำตัว ดวงตาเป็นสีฟ้า หรือสีเหลืองอำพัน หากเลี้ยงดูด้วยความรักและเอาใจใส่จะเชื่องมากและมีความน่ารัก”

แมวไทยชื่อเสียงก้องไกล

มาร์ติน เล่าว่า คุณสมบัติที่ทำให้แมวไทยเหนือกว่าแมวชนิดอื่น คือ อุปนิสัยดี ไม่ดุร้าย ฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักประจบ รักเจ้าของ นอกจากนี้สีสันตามตัวของแมวไทยรวมถึงขนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักรักแมวรู้สึกสุขใจที่มีแมวไทยอยู่ในบ้าน

“ถือเป็นแมวที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และต่างชาติอยากได้ไปเลี้ยง โดยเฉพาะเอาไปผสมพันธุ์กับแมวพันธุ์อื่นของชาติตัวเอง โดยเฉพาะมักจะเอาไปผสมกับแมวพันธุ์ดุๆ เช่น แมวป่าลายเสือ เพื่อให้ลูกที่ออกมาเชื่องหรือดุน้อยลง ทั้งนี้เพราะความที่แมวไทยเป็นแมวอุปนิสัยดี น่ารัก ไม่ดุ ขนก็สวยงาม หลากหลาย ไม่เหมือนแมวที่อื่นในโลก”

มาร์ติน เล่าต่อว่า อย่างไรก็ดี เอกลักษณ์ของแมวไทยในตำราสมุดข่อยโบราณจะเน้นพันธุ์บริสุทธิ์ ไม่ผสมพันธุ์ต่างสายพันธุ์ วิเชียรมาศก็ผสมพันธุ์กับวิเชียรมาศ ศุภลักษณ์ก็ผสมกับศุภลักษณ์ ซึ่งต่างจากแมวชาติต่างๆ ที่มักมีการผสมกับสายพันธุ์อื่น ลูกที่ออกมาจึงไม่ใช่พันธุ์ที่บริสุทธิ์