posttoday

อินเว้นท์หนุนอีคาร์ทสตูดิโอ ลุยพัฒนารับยุคสมาร์ท

21 กุมภาพันธ์ 2562

หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี ล่าสุดบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์ทางด้านภูมิศาสตร์

เรื่อง วันเพ็ญ พุทธานนท์

หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี ล่าสุดบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์ทางด้านภูมิศาสตร์ (Enterprise Location-Based Application) ก็ได้เวลาติดปีกลุย เมื่อได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่าง บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ โดยโครงการอินเว้นท์ (InVent) เข้ามาร่วมลงทุนด้วยมูลค่า 40 ล้านบาท

วุฒิกร มโนมัยวิบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ เปิดเผยว่า บริษัทเติบโตมาจากการทำธุรกิจแผนที่ภูมิศาสตร์หรือโลเกชั่นเบส และซุ่มพัฒนาสมาร์ทซิตี้แพลตฟอร์มในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดพร้อมที่จะเปิดตัวใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งการร่วมลงทุนจากอินทัชครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดี ที่ทางอีคาร์ทสตูดิโอจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับอินทัช เพราะจะช่วยต่อยอดและเสริมศักยภาพให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในกลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าองค์กร รวมทั้งช่วยให้เข้าถึงตลาดใหม่ในระดับภูมิภาคเอเชีย

ทั้งนี้ เงินลงทุนที่ได้รับบริษัทวางแผนที่จะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งเสริมทัพทีมงาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า ที่จะเป็นผู้นำด้าน สมาร์ทซิตี้ แพลตฟอร์มของประเทศที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านบุคคล องค์กรและประเทศ

ขณะเดียวกัน การเข้ามาของ 5จี จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ได้แก่ การที่สมาร์ทซิตี้จะขึ้นไปอยู่บนสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชั่นต่างๆ จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเว็บไซต์และมีความหลากหลายมากขึ้นของแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ การที่ข้อมูลจะมีปริมาณมหาศาล ทำให้การพัฒนาหรือเลือกข้อมูลต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากขึ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการติดต่อสื่อสาร การค้นหาและรับข้อมูล หรือดูกิจกรรมบันเทิงต่างๆ บริษัท จึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะพัฒนานวัตกรรมการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย เพื่อให้คนสามารถใช้ชีวิตได้ง่าย สะดวก คุ้มค่า บริษัทจึงคิดค้นแพลตฟอร์มสำหรับลูกค้าทั่วไป หรือบีทูซี ทั้งในด้านของการอยู่อาศัย การเดินทาง การพกบัตรต่างๆ ด้านสุขภาพและการแพทย์ รวมถึงด้านการช็อปปิ้ง เป็นต้น

สำหรับกลุ่มบีทูซีจะเป็นการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น แอพพลิเคชั่น ServLive เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม แอพพลิเคชั่น ServCard เพื่อลดความยุ่งยากในการพกบัตรสมาชิกต่างๆ เปลี่ยนเป็นเก็บในรูปแบบบัตรดิจิทัล แอพพลิเคชั่น Taxi-Beam และ Bus-Beam เพื่อให้สามารถเข้าถึงรถสาธารณะได้ง่ายและสะดวก และแอพพลิเคชั่น InMall เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเดินห้างเสมือนจริง พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับเกม AR และลุ้นรับส่วนลดโปรโมชั่นมากมาย

ในส่วนของสมาร์ทซิตี้แพลตฟอร์มเพื่อลูกค้าองค์กร หรือบีทูบี นั้น ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางด้านแผนที่เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบ LBIS (Location Based Information System) LIMS (Location Information Management System) และ EcartMap ให้สามารถรองรับการสร้างและบริหารการวางระบบสาธารณูปโภค (Infrastructure) ต่างๆ ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมทั้งระบบคมนาคม ระบบพลังงาน ระบบการจัดการน้ำ และระบบสื่อสาร เป็นต้น

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าองค์กรภาคเอกชนประมาณ 40% และลูกค้าองค์กรภาครัฐประมาณ 60% ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าเอกชนและลูกค้าบุคคลทั่วไปมากยิ่งขึ้น โดยภายในปี 2563 คาดว่าจะมีฐานลูกค้าบุคคลประมาณ 1 ล้านคนทั่วประเทศ

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนงานที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มจากประเทศบรูไนและอินโดนีเซียก่อน ด้วยการนำเสนอบริการระบบ ServLive และ ServCard เนื่องจากยังมีคู่แข่งน้อย ทำให้มีโอกาสเติบโตและขยายฐานลูกค้าได้มาก

ด้าน ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีคาร์ทสตูดิโอ เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยี Location Based Services เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค กลุ่มธุรกิจ และองค์กรภาครัฐในการให้บริการต่างๆ ที่ช่วยให้การบริหารจัดการสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ และลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

“เรามองว่าการนำเทคโนโลยี Location Based Services มาใช้ในธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอื่นๆ มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคต” ณรงค์พนธ์ กล่าว