ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก จากแรงหนุนหุ้นเทคโนโลยีและข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัว

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และรายงานเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยเสริมความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยีส์ ผู้ผลิตชิป สะท้อนอุปสงค์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังคงแข็งแกร่ง

 

รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ระบุว่า ราคาผู้บริโภคในช่วง 12 เดือนถึงเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) ภายใต้กระทรวงแรงงาน ไม่ได้เผยแพร่ข้อมูล CPI รายเดือน เนื่องจากการปิดหน่วยงานภาครัฐเป็นเวลา 43 วัน ส่งผลให้ไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลของเดือนตุลาคมได้

 

ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามดัชนีฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Russell 2000 ซึ่งสะท้อนหุ้นขนาดเล็กที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8%

 

รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ระบุว่า จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการรายใหม่ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับการเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงมีเสถียรภาพในเดือนธันวาคม ขณะที่รายงานการจ้างงานอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ระบุว่า การจ้างงานของสหรัฐฟื้นตัวในเดือนพฤศจิกายน และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.6%

 

นักลงทุนประเมินว่ามีโอกาสร้อยละ 58 ที่เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินในทิศทางผ่อนคลายในเดือนมีนาคม ตามข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 65.88 จุด หรือ 0.14% อยู่ที่ 47,951.85 จุด 

 

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 53.33 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 6,774.76 จุด 

 

และดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 313.04 จุด หรือ 1.38% ปิดที่ 23,006.36 จุด

 

ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อย จากความเสี่ยงด้านอุปทาน

 

ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการประเมินของนักลงทุนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม รวมถึงความเสี่ยงด้านอุปทานจากการปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา

 

น้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6% อยู่ที่ 60.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.9% อยู่ที่ 56.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาทองคำอ่อนตัว หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาด

 

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังตลาดประเมินข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอตัวกว่าคาดการณ์ ซึ่งลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานในเดือนพฤศจิกายนยังช่วยจำกัดแรงกดดันขาลงของราคา

 

ราคาทองสปอตลดลง 0.2% อยู่ที่ 4,330.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยก่อนหน้านี้ทองคำเคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม และเคลื่อนไหวใกล้ระดับดังกล่าวในช่วงต้นของการซื้อขาย

 

ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าในตลาดสหรัฐปิดลดลง 0.2% อยู่ที่ 4,364.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์