เบิร์กเชียร์เผยลดหุ้น Apple ก่อนบัฟเฟตต์ลงจากเก้าอี้ CEO
เบิร์กเชียร์เปิดเผยการถือหุ้น Alphabet มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ขายหุ้น Apple เพิ่ม ก่อนบัฟเฟตต์อำลาตำแหน่ง CEO
KEY
POINTS
- เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เปิดเผยการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Apple ลงเพิ่มเติม
- การปรับพอร์ตครั้งนี้เป็นการเปิดเผยข้อมูลครั้งสุดท้ายก่อนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะยุติบทบาทซีอีโอ
- นอกจากการลดหุ้น Apple แล้ว เบิร์กเชียร์ยังได้เข้าลงทุนใน Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google
เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) เปิดเผยว่าได้เข้าถือหุ้นในอัลฟาเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของ google มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งลดสัดส่วนการถือหุ้นในแอปเปิลลงเพิ่มเติม ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ซึ่งเป็นการเปิดเผย
โครงสร้างพอร์ตการลงทุนครั้งสุดท้ายก่อนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะยุติบทบาทซีอีโอในรอบ 60 ปี
ตามเอกสารดังกล่าว ระบุว่า ณ วันที่ 30 กันยายน เบิร์กเชียร์ถือหุ้นอัลฟาเบทจำนวน 17.85 ล้านหุ้น ขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นในแอปเปิลลดลงเหลือ 238.2 ล้านหุ้น จากเดิม 280 ล้านหุ้นในไตรมาสสาม รวมถึงได้ขายหุ้นแอปเปิลไปแล้วเกือบสามในสี่จากจำนวนมากกว่า 900 ล้านหุ้นที่เคยถืออยู่ โดยแอปเปิลยังคงเป็นการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของบริษัท คิดเป็นมูลค่า 60.7 พันล้านดอลลาร์
ข้อมูลในเอกสารยังแสดงการถือหุ้นสหรัฐทั้งหมดของเบิร์กเชียร์ ณ วันที่ 30 กันยายน ซึ่งคิดเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตโฟลิโอรวมมูลค่า 283.2 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การลงทุนในอัลฟาเบทซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสิบการถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากบัฟเฟตต์มักยึดแนวทางการลงทุนเชิงคุณค่าและหลีกเลี่ยงบริษัทเทคโนโลยี แต่เขามองว่าแอปเปิลเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี
ยังไม่มีความชัดเจนว่าการตัดสินใจลงทุนครั้งนี้มาจากบัฟเฟตต์ ผู้จัดการกองทุนของเบิร์กเชียร์ ได้แก่ ท็อดด์ คอมส์ และเท็ด เวเชลอร์ หรือเกร็ก อาเบล ซีอีโอคนต่อไป แม้ว่าปกติแล้วบัฟเฟตต์มักเป็นผู้ตัดสินใจในดีลขนาดใหญ่ก็ตาม ในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2019 บัฟเฟตต์และชาร์ลี มังเกอร์ อดีตรองประธาน ได้ยอมรับว่าพลาดโอกาสลงทุนในกูเกิลตั้งแต่แรก โดยบัฟเฟตต์กล่าวว่าโมเดลโฆษณาของกูเกิลมีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ไกโกของเบิร์กเชียร์
หลังการเปิดเผยข้อมูล หุ้นอัลฟาเบทปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมีรายงานว่าเบิร์กเชียร์เข้าลงทุนใหม่ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณรับรองจากบัฟเฟตต์
ขณะเดียวกัน บัฟเฟตต์ได้เพิ่มการถือเงินสดในช่วงเตรียมส่งต่ออาณาจักรธุรกิจมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับอาเบลในวันที่ 1 มกราคมนี้ นักวิเคราะห์ชี้ว่าเบิร์กเชียร์มีความระมัดระวังต่อมูลค่าตลาด โดยไม่ได้ซื้อหุ้นคืนมานานกว่าหนึ่งปี และไม่ได้ทำการซื้อกิจการขนาดใหญ่เกือบทศวรรษแล้ว
ปัจจุบัน เบิร์กเชียร์ถือครองธุรกิจเกือบ 200 แห่ง ครอบคลุมอุตสาหกรรมรถไฟ BNSF พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงแบรนด์ค้าปลีกชื่อดังอย่าง Dairy Queen, Fruit of the Loom และ See’s Candies.


