วุฒิสภาสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายยุติภาวะชัตดาวน์ ส่งต่อคองเกรส
วุฒิสภาสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายยุติภาวะชัตดาวน์รัฐบาล ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ชะลอแผนการเลิกจ้างของทรัมป์จนถึง 30 มกราคมปีหน้า
KEY
POINTS
- วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางที่ยืดเยื้อมานาน
- ข้อตกลงนี้จะช่วยฟื้นฟูงบประมาณของหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 30 มกราคมปีหน้า
- ร่างกฎหมายจะถูกส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีลงนามบังคับใช้
วุฒิสภาสหรัฐ มีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงประนีประนอมเพื่อยุติภาวะ ชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งยุติทางตันทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาหลายสัปดาห์ ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรอาหารให้ประชาชนหลายล้านคน เจ้าหน้าที่รัฐหลายแสนคนไม่ได้รับค่าจ้าง และเกิดความล่าช้าในการเดินอากาศ
ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันเกือบทั้งหมด และสมาชิกพรรคเดโมแครต 8 คน ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามเชื่อมโยงการอนุมัติงบประมาณกับเงินอุดหนุนด้านสุขภาพที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ แม้ข้อตกลงดังกล่าวจะกำหนดให้มีการลงมติอีกครั้งในเดือนธันวาคมเกี่ยวกับเงินอุดหนุนที่ช่วยเหลือชาวอเมริกันกว่า 24 ล้านคน แต่ก็ยังไม่มีการรับประกันว่าจะได้รับการขยายต่อ
ข้อตกลงนี้จะ ฟื้นฟูงบประมาณของหน่วยงานรัฐบาลกลาง ที่หมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม และ ชะลอแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการลดขนาดกำลังพลของรัฐบาล โดยห้ามมีการเลิกจ้างจนถึงวันที่ 30 มกราคมปีหน้า
ร่างดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยัง สภาผู้แทนราษฎรซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกัน โดยนายไมก์ จอห์นสัน ประธานสภาฯ ระบุว่าต้องการให้ผ่านร่างดังกล่าวโดยเร็วที่สุดภายในวันพุธ และส่งให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็น “สิ่งที่ดีมาก”
ร่างกฎหมายนี้จะขยายงบประมาณไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม ทำให้รัฐบาลกลางยังคงมีแนวโน้มเพิ่มหนี้สาธารณะราว 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี จากยอดหนี้รวมปัจจุบันที่ประมาณ 38 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งระดับรัฐในนิวเจอร์ซีย์และเวอร์จิเนีย รวมถึงการที่พรรคได้ผู้สมัครแนวสังคมนิยมประชาธิปไตยเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ของนครนิวยอร์ก ซึ่งทำให้สมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วนไม่พอใจ เนื่องจากข้อตกลงนี้ไม่มีหลักประกันว่าพรรครีพับลิกันในสภาทั้งสองจะเห็นชอบต่อการขยายเงินอุดหนุนสุขภาพ
นายดิก เดอร์บิน วุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์และรองผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา กล่าวว่า “เราต้องการทำได้มากกว่านี้ ภาวะชัตดาวน์น่าจะเป็นโอกาสในการผลักดันนโยบายที่ดีกว่า แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นเช่นนั้น”
ผลสำรวจของ รอยเตอร์/อิปซอส เมื่อปลายเดือนตุลาคมระบุว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 50 โทษพรรครีพับลิกันว่าเป็นต้นเหตุของการชัตดาวน์ ขณะที่ร้อยละ 43 โทษพรรคเดโมแครต
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ ภายหลังมีข่าวความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงเพื่อเปิดทำการรัฐบาลอีกครั้ง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่ง ตัดงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์และลดจำนวนข้าราชการหลายแสนตำแหน่ง โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดอำนาจตามรัฐธรรมนูญด้านการคลัง ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงควรสนับสนุนร่างกฎหมายการใช้จ่ายที่คล้ายกันในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ได้รวมงบประมาณสำหรับ โครงการสนับสนุนอาหาร (SNAP) ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายนปีหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของโครงการ หากรัฐบาลต้องประสบภาวะชัตดาวน์อีกครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว


