ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก รับอานิสงส์ผลประกอบการบริษัทเชิงบวก

ปัจจัยหนุนตลาด คือการที่หุ้น FedEx ปรับตัวขึ้น 2.1% หลังประกาศผลกำไรและรายได้ไตรมาสล่าสุดสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยได้แรงหนุนจากมาตรการลดต้นทุนและการขนส่งภายในประเทศที่แข็งแกร่ง แม้ยอดส่งออกต่างประเทศชะลอตัว

 

ส่วนหุ้น Apple พุ่งขึ้น 3.2% หลังได้รับการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก J.P. Morgan ขณะที่ Palantir Technologies และ Oracle ปรับตัวบวก ช่วยขับเคลื่อนดัชนี S&P 500 กลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.19%

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็จับตาข่าวดี หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน โดยทรัมป์ระบุว่าทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง TikTok และอาจพบปะกันแบบตัวต่อตัวในเดือนหน้า ณ ประเทศเกาหลีใต้

 

• ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์  (DJIA) ปิดที่ 46,315.27 จุด เพิ่มขึ้น 172.85 จุด หรือ 0.37%

• เอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปิดที่ 6,664.36 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด หรือ 0.49%

• แนสแด็ก คอมโพสิต (Nasdaq) ปิดที่ 22,631.48 จุด เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ 0.72%

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

 

น้ำมันดิบ ร่วงลงจากแรงกดดันด้านอุปทานส่วนเกินและความต้องการที่อ่อนแอ

• น้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 66.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.76 ดอลลาร์ หรือ 1.1%

• น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 62.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.89 ดอลลาร์ หรือ 1.4%

 

ทองคำ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 หลังธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี

• ราคาทองสปอตปิดที่ 3,672.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.8%

• สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐ (ส่งมอบเดือนธันวาคม) ปิดที่ 3,705.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.7%