(ภาพ) ทรัมป์ร่วมพิธีสวนสนามกองทัพสหรัฐ ท่ามกลางความชังของประชาชน

ขบวนสวนสนามทางทหารตามความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีของกองทัพสหรัฐฯ ได้เคลื่อนขบวนผ่านใจกลางกรุงวอชิงตันท่ามกลางความตึงเครียดในระดับชาติและการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทรัมป์กลับมามีอำนาจอีกครั้งในเดือนมกราคม

 

 

เหตุการณ์รุนแรงก่อนขบวนสวนสนาม

ก่อนเริ่มพิธีสวนสนามไม่นาน ประเทศต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อมีการลอบสังหารสมาชิกสภาจากพรรคเดโมแครตในรัฐมินนิโซตา พร้อมกับมีอีกหนึ่งรายได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุยังคงหลบหนี ขณะเดียวกันการประท้วงต่อต้านทรัมป์เกิดขึ้นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในนิวยอร์ก ชิคาโก หรือ ลอสแอนเจลิส มีผู้เข้าร่วมหลายแสนคน พร้อมเสียงเรียกร้องให้เคารพหลักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

 

ในลอสแอนเจลิส มีการประท้วงต่อต้านปฏิบัติการบุกตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางจนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ทรัมป์สั่งระดมกำลังทหารและนาวิกโยธินเข้าควบคุมสถานการณ์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้ว่าการรัฐ แกวิน นิวซัม

 

ขบวนสวนสนามเฉลิมฉลองในแบบไม่ธรรมดา

ขบวนสวนสนามเริ่มต้นเร็วกว่ากำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงพายุฝนที่อาจกระทบพิธีการ โดยขบวนได้เคลื่อนผ่านถนน Constitution Avenue ซึ่งเป็นสายหลักในกรุงวอชิงตัน พร้อมการแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ทั้งรถถัง M1 Abrams กว่า 25 คัน รถเกราะ Stryker 28 คัน ปืนใหญ่อัตตาจร Paladin และปืนใหญ่ M777 และ M119 รวมถึงกำลังพลเกือบ 7,000 นายจากกองทัพบกสหรัฐฯ

 

ทรัมป์ ซึ่งร่วมชมขบวนจากอัฒจันทร์ที่มีกระจกกันกระสุน ได้กล่าวแก่ประชาชนว่า

 

“ทุกประเทศต่างเฉลิมฉลองชัยชนะของตนเอง ถึงเวลาแล้วที่อเมริกาควรทำเช่นกัน”

 

บรรดาผู้ชมหลายพันคนยืนเรียงรายสองฝั่งถนน ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนแทรกตัวเข้าไปในพื้นที่ พร้อมถือป้ายข้อความต่อต้าน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งถูกกันออกไปโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

 

รัฐมนตรีในรัฐบาลหลายรายเข้าร่วมงาน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเสธ และรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ซึ่งต่างให้การสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว ทรัมป์เคยแสดงความประสงค์จัดขบวนทหารในกรุงวอชิงตันตั้งแต่สมัยแรกที่ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017

 

อย่างไรก็ดี ขบวนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 25-45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างความกังวลถึงการใช้จ่ายเกินควรในขณะที่รัฐบาลพยายามลดงบประมาณในหน่วยงานต่างๆ นักวิจารณ์บางรายระบุว่างานดังกล่าวเป็น “การแสดงอำนาจแบบเผด็จการ” ที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตย

 

กระแสต้านทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “No Kings”

แม้จะมีการเตือนจากทำเนียบขาวไม่ให้ผู้ประท้วงมาร่วมที่ขบวนพาเหรด แต่กลุ่มต่อต้านหลายพันคนก็รวมตัวกันทั่วประเทศกว่า 2,000 จุด ภายใต้ธีม “No Kings” เพื่อแสดงออกว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”

 

ในนิวยอร์ก ผู้ชุมนุมหลายพันคนมารวมตัวที่ไบรอันต์พาร์ค พร้อมป้ายข้อความ เช่น “No crown for a clown” (ไม่มีมงกุฎให้ตัวตลก) และมีนักแสดง มาร์ค รัฟฟาโล ร่วมชุมนุมในหมวกที่มีข้อความ “immigrant”

 

ในชิคาโก ผู้ชุมนุมปะทะกับตำรวจ ขณะชูธงชาติกลับด้าน พร้อมตะโกนว่า “คุณปกป้องใคร? คุณรับใช้ใคร?” และ “ไม่มีความยุติธรรม ก็ไม่มีสันติภาพ”

 

ในแอตแลนตา สมาชิกกลุ่มฝ่ายขวาจัด “Proud Boys” ปรากฏตัวในเครื่องแบบประจำกลุ่ม สร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ขณะที่กรุงวอชิงตัน มีกลุ่ม RefuseFascism.org เดินขบวนกว่า 400 คน ไปยังบริเวณตรงข้ามทำเนียบขาว

 

 

ซันซารา เทย์เลอร์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มกล่าวต่อผู้ชุมนุมว่า

 

“วันนี้พวกเราไม่ยอมรับให้ทรัมป์ใช้กองทัพปราบประชาชนในถนนหนทางของประเทศนี้ พวกเราขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง”