เดือด!! สหรัฐส่งนาวิกโยธินเข้า LA การชุมนุมยืดเยื้อเป็นวันที่ 4

การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการยกระดับมาตรการตอบโต้ของรัฐบาลกลาง หลังจากก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งระดมกำลังกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) เข้าควบคุมสถานการณ์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา จากเกิดเหตุประท้วงทั่วภูมิภาคแคลิฟอร์เนียตอนใต้ อันเนื่องมาจากการบุกตรวจค้นและจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมาย

 

เมื่อค่ำวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครลอสแอนเจลิสได้เริ่มสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงหลายร้อยคน ซึ่งรวมตัวกันหน้าเรือนจำกลางที่ควบคุมตัวผู้อพยพ ตำรวจได้ใช้กระสุนควบคุมฝูงชนชนิดไม่ร้ายแรง รวมถึงแก๊สน้ำตา ขณะที่มีรายงานว่าผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่

 

 

ขัดแย้งทางกฎหมายระหว่างรัฐและรัฐบาลกลาง

 

รัฐแคลิฟอร์เนียได้ยื่นฟ้องรัฐบาลกลางเพื่อคัดค้านการส่งกำลังนาวิกโยธินและกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ โดยอ้างว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายของรัฐบาลกลางและละเมิดอธิปไตยของรัฐ

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทรัมป์ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศใช้ “กฎหมายปราบจลาจล” (Insurrection Act) ซึ่งจะเปิดทางให้ทหารมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับพลเรือนโดยตรง

 

ประท้วงลุกลามหลายเมืองทั่วประเทศ

 

เหตุประท้วงในนครลอสแอนเจลิสได้ส่งผลให้มีผู้ถูกจับกุมหลายสิบราย รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ไร้คนขับของ Waymo ที่ถูกเผาเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยห้านายในช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงม้าควบคุมฝูงชนอีกห้าตัว

 

นอกจากนี้ มีรายงานการชุมนุมในอีกอย่างน้อยเก้าเมืองทั่วประเทศ เช่น นิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย และซานฟรานซิสโก

 

ประธานาธิบดีทรัมป์ยังแสดงความเห็นสนับสนุนข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองระดับสูง ที่เสนอให้จับกุมผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นายเกวิน นิวซัม โดยกล่าวว่า “ถ้าผมเป็นเขา ผมก็จะทำเหมือนกัน ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดี”

 

การประท้วงต้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของ ICE ยืดเยื้อ

 

ลอสแอนเจลิสเผชิญกับกระแสการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากเหตุการณ์ที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ (ICE) ได้ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัยละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองจำนวนมากทั่วทั้งเมือง

 

การจับกุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความไม่พอใจในวงกว้าง และเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง  

 

หน่วยงาน ICE ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศ การจับกุมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายปราบปรามผู้ลักลอบเข้าเมืองของรัฐบาลทรัมป์  โดยทำเนียบขาวตั้งเป้าให้ ICE จับกุมผู้อพยพอย่างน้อยวันละ 3,000 ราย

 

ปฏิบัติการจับกุมเหล่านี้ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น โดยเฉพาะนายกเทศมนตรีเมืองลอสแอนเจลิส คาเรน บาส ซึ่งระบุว่า การบุกจับในที่สาธารณะ เช่น ร้านฮาร์ดแวร์ โรงงานเสื้อผ้า และคลังสินค้า จะยิ่ง “สร้างความหวาดกลัว” ให้แก่ชุมชน พร้อมกล่าวแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ประวัติการใช้กองทัพในการควบคุมฝูงชน

 

ครั้งล่าสุดที่มีการใช้งานกองทัพภายใต้กฎหมายปราบจลาจล เกิดขึ้นในปี 1992 เมื่อผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในขณะนั้นร้องขอให้ประธานาธิบดีจอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช ส่งทหารเข้าควบคุมเหตุจลาจลจากกรณีการตัดสินยกฟ้องตำรวจที่ทำร้ายร่างกายนายร็อดนีย์ คิง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย และเกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์

 

ตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระดมกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในกรณีที่ประเทศถูกรุกราน เกิดการกบฏ หรือไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ได้ด้วยกองกำลังปกติ