ภาษีสหรัฐฯ ครองเวทีการค้า APEC แถลงการณ์ร่วมยังไม่แน่นอน
การประชุมการค้าของAPEC จะปิดฉากลงในวันศุกร์นี้ โดยประเด็นภาษีของสหรัฐฯ และการปฏิรูปองค์การการค้าโลก ส่งผลให้การออกแถลงการณ์ร่วมยังอยู่ในภาวะไม่แน่นอน
การประชุมประจำปีระดับรัฐมนตรีด้านการค้าครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมการค้าพหุภาคีครั้งสำคัญครั้งแรก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้ง 21 ประเทศในกลุ่มกำลังเผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ ที่สูงเกินกว่าขั้นต่ำ 10%
APEC ได้เตือนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การส่งออกจากภูมิภาคที่คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของการค้าโลกจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้ และแทบจะไม่เติบโตเลย อันเป็นผลมาจากการประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯ
การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคีด้านเศรษฐกิจและการค้า ขณะที่การปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) ที่มีความขัดแย้งก็เป็นประเด็นสำคัญในปีนี้ด้วย
รัฐบาลทรัมป์มองว่า WTO เป็นองค์กรที่เอื้อให้จีนได้เปรียบทางการส่งออกอย่างไม่เป็นธรรม และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ดำเนินการระงับเงินสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อสถาบันนี้
นักการทูตระดับสูงจากประเทศสมาชิกรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ โดยแสดงความสงสัยเกี่ยวกับการออกแถลงการณ์ร่วมกันก่อนการประชุมสองวันจะสิ้นสุดลง เนื่องจากมีประเทศสมาชิกที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ ยังคงมีความเห็นที่แข็งกร้าว
ขณะเจ้าหน้าที่จากอีกประเทศหนึ่ง แสดงความสงสัยเกี่ยวกับการออกแถลงการณ์ร่วม โดยกล่าวว่า การเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินไปจนดึกดื่นในคืนวันพฤหัสบดี
สำหรับประเทศสมาชิกหลายประเทศ การเข้าร่วมของผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เจมิสัน เกรียร์ ยิ่งเพิ่มความสำคัญให้กับการประชุมที่จัดขึ้นที่เกาะเชจูของเกาหลีใต้ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำที่กำหนดไว้ในช่วงหลังของปีนี้
ในวันแรก ผู้แทนหลายประเทศ ได้พยายามขอประชุมกับเกรียร์ ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ประเทศเจ้าภาพ
"ประเทศต่างๆ จำนวนมากวางแผนที่จะส่งรัฐมนตรีช่วยมา แต่ภายหลังตัดสินใจส่งรัฐมนตรีหลังจากที่ยืนยันการเข้าร่วมของเอกอัครราชทูตเกรียร์" ชองกล่าว
เกรียร์ได้พบกับรองรัฐมนตรีพาณิชย์จีน หลี่ เฉิงกั่ง น้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากการพบหน้ากันครั้งแรกที่เจนีวาเมื่อวันที่ 10-11 พฤษภาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะลดภาษีอย่างมีนัยสำคัญเป็นเวลา 90 วัน
เกรียร์ยังได้พบกับชองของประเทศเจ้าภาพ สามสัปดาห์หลังจากที่โซลและวอชิงตันจัดการเจรจาการค้ารอบแรก และพบกับตังกู ซาฟรุล อาซิซ รัฐมนตรีการค้ามาเลเซีย ซึ่งแสดงความหวังหลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่สองในสองสัปดาห์
ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และรัสเซีย อยู่ในกลุ่มประเทศที่ผู้นำด้านการค้าไม่ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ที่จัดขึ้นที่เคปทาวน์ ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ไม่เข้าร่วม
การประชุมสรุปด้วย "สรุปของประธาน" ที่ออกโดยเจ้าภาพ ซึ่งระบุว่าผู้เข้าร่วม "ยืนยันคำมั่นในการต่อต้านการปกป้องทางการค้า" และใช้คำหลายคำที่รัฐบาลทรัมป์คัดค้านอย่างรุนแรง
รัฐมนตรีชองมีกำหนดจะแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมในช่วงบ่ายวันศุกร์


