ปากีสถานอ้างยิงเครื่องบินอินเดียตก 5 ลำ สถานการณ์ตึงเครียดหนัก

ความตึงเครียดระหว่าง อินเดีย และ ปากีสถาน ปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังอินเดียยิงขีปนาวุธโจมตีหลายจุดในปากีสถานและแคว้นแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้เหตุโจมตีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวฮินดู ด้านปากีสถานประกาศจะ “ตอบโต้แน่นอน” และอ้างว่าสามารถยิงเครื่องบินรบอินเดียตกได้ถึง 5 ลำ 

 

นี่ถือเป็น การปะทะรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง และเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคครั้งใหญ่

 

อินเดียเปิดฉาก “ปฏิบัติการ ซินดูร์” โจมตีฐานก่อการร้าย

 

อินเดียระบุว่า ได้เปิด “Operation Sindoor” ถล่ม 9 เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย เช่น Jaish-e-Mohammed และ Lashkar-e-Taiba ที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารนักท่องเที่ยวชาวฮินดู 25 คน เมื่อเดือนก่อน

 

ด้านปากีสถานยืนยันว่า เป้าหมายที่ถูกโจมตีเป็นพลเรือนทั้งหมด โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 31 คน และบาดเจ็บอีก 46 คน ซึ่งรวมถึงมัสยิด-โรงเรียนศาสนาในเมืองมูซาฟฟาราบัดที่ถูกขีปนาวุธโจมตีเสียหายอย่างหนัก

 

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เชห์บาซ ชารีฟ กล่าวในแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ว่า “อินเดียจะต้องชดใช้สำหรับความผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งนี้… พวกเขาคงคิดว่าเราจะถอย แต่นี่คือตัวตนของชาวปากีสถานที่ไม่ยอมแพ้”

 

รัฐมนตรีกลาโหมของปากีสถานระบุว่าจะ ตอบโต้เฉพาะเป้าหมายทางทหารของอินเดีย เท่านั้น ไม่โจมตีพลเรือน

 

ความเสี่ยงลุกลามสู่สงคราม – ผู้นำโลกเร่งเรียกร้องให้ยับยั้ง

 

ทั้งสองฝ่ายมีการยิงปืนใหญ่และปะทะกันอย่างดุเดือดบริเวณ แนวแบ่งเขตควบคุม (LoC) ในแคชเมียร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกหลายราย โดยฝั่งอินเดียเสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บ 43 คน ส่วนฝั่งปากีสถานเสียชีวิตอีก 6 คน

 

แม้รายงานจากอินเดียยังไม่ยืนยันว่ามีเครื่องบินรบตก แต่ในแคว้นแคชเมียร์ มีการพบซากโลหะและร่องรอยการตกของเครื่องบิน 3 จุดในพื้นที่ภูเขา

 

สหรัฐฯ, จีน, รัสเซีย และองค์การสหประชาชาติ ต่างออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย “ยับยั้ง” และ “หลีกเลี่ยงความขัดแย้งเต็มรูปแบบ”

 

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า “ผมอยากเห็นพวกเขายุติเรื่องนี้ และหากผมช่วยอะไรได้ ผมก็ยินดีช่วย”

 

เศรษฐกิจ-สายการบินสั่นสะเทือน

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินทันที:

• หุ้นปากีสถานเปิดร่วงกว่า 6% ก่อนดีดกลับเล็กน้อย

• หุ้นอินเดียปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่ค่าเงินรูปีอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน

• สายการบินจากหลายประเทศ เช่น ซาอุฯ กาตาร์ ยูเออี และจีน ยกเลิกหรือเบี่ยงเส้นทางบิน เนื่องจากการปิดน่านฟ้า

 

ความรุนแรงในครั้งนี้ถือเป็นการตอบโต้ครั้งใหญ่ที่สุดของอินเดียต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายที่กล่าวโทษว่ามีต้นทางจากปากีสถาน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่มั่นคงในเอเชียใต้ครั้งใหม่ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยับยั้งสถานการณ์ได้ เนื่องจากทั้งคู่ถือเป็นชาติมหาอาจนาจทางนิวเคลียร์ ที่ครอบครองหัวรบจำนวนมาก