อินเดียเปิดฉากโจมตีปากีสถาน 2 ชาตินิวเคลียร์ตึงเครียดหนัก

อินเดียเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อเป้าหมายในปากีสถานและเขตแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย โดยปากีสถานยืนยันว่าจะตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาด ท่ามกลางความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีระหว่างสองประเทศที่เป็นศัตรูกันมายาวนานและต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

 

กองทัพสองชาติยิงตอบโต้ดุเดือดในพื้นที่พิพาท

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจและพยานในพื้นที่ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีการยิงปืนใหญ่และปะทะกันอย่างหนักในอย่างน้อยสามจุดบริเวณเส้นแบ่งเขตในแคชเมียร์ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างสองประเทศ โดยเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สังหารนักท่องเที่ยวชาวฮินดูถึง 26 รายในเขตแคชเมียร์ของอินเดีย ซึ่งถือเป็นการโจมตีพลเรือนครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี

 

อินเดียเปิด ‘ปฏิบัติการซินดูร์’ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย

 

รัฐบาลอินเดียระบุว่าได้เริ่ม “ปฏิบัติการซินดูร์” มุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้ายในปากีสถานและแคชเมียร์ที่ถูกปกครองโดยปากีสถาน โดยอ้างว่าเป็นสถานที่ที่มีการวางแผนโจมตีต่ออินเดีย อย่างไรก็ตาม อินเดียยืนยันว่าการโจมตีมีความระมัดระวัง ไม่ขยายวงกว้าง และไม่ได้พุ่งเป้าไปยังสถานที่ทางทหารของปากีสถาน

 

ปากีสถานกล่าวหาว่าอินเดียยิงขีปนาวุธใส่มัสยิดและพลเรือน

 

โฆษกกองทัพปากีสถานเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ Geo ว่า จุดที่อินเดียโจมตีนั้นรวมถึงมัสยิดสองแห่ง และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยสามราย บาดเจ็บอีก 12 ราย ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของปากีสถาน ระบุว่าทุกจุดที่อินเดียโจมตีเป็นพื้นที่พลเรือน ไม่ใช่ค่ายก่อการร้ายตามที่กล่าวอ้าง พร้อมกล่าวหาว่าอินเดียยิงขีปนาวุธจากภายในดินแดนของตนเอง

 

ผลกระทบและปฏิกิริยาในระดับนานาชาติ

 

หลังการโจมตี เมืองมูซัฟฟาราบัด เมืองหลวงของแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถานเผชิญกับการตัดกระแสไฟฟ้า ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นอินเดียตกลงทันที 1.19% ด้านนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ชะห์บาซ ชารีฟ ยืนยันว่าประเทศจะตอบโต้ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเสียใจต่อสถานการณ์ดังกล่าว และกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้า หวังว่าจะยุติลงโดยเร็ว”

 

เบื้องหลังชื่อปฏิบัติการ ‘ซินดูร์’

 

ชื่อ “ซินดูร์” ของปฏิบัติการทหารอินเดียมีนัยสำคัญทางวัฒนธรรม โดยอ้างอิงถึงผงสีแดงที่หญิงชาวฮินดูแต่งงานแล้วใช้แต้มหน้าผาก ซึ่งสื่อถึงการปกป้องและความผูกพันในชีวิตสมรส สื่ออินเดียเชื่อว่า ชื่อปฏิบัติการนี้ตั้งขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยต่อหญิงหม้ายจากเหตุสังหารนักท่องเที่ยวที่เมืองพาฮัลกามในเดือนเมษายน

 

สถานการณ์ยังคงตึงเครียดสูง

 

ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่พิพาทแคชเมียร์ยังคงตึงเครียด โรงพยาบาลและหน่วยฉุกเฉินในรัฐปัญจาบของปากีสถานถูกประกาศให้อยู่ในสถานะพร้อมสูงสุด ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้สร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่การปะทะทางทหารขนาดใหญ่ในภูมิภาค หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถควบคุมความตึงเครียดได้ในเร็ววัน