ผู้ผลิตรถยนต์ในจีน หันไปใช้รถไฮบริดเจาะตลาดยุโรปเพื่อตอบโต้ภาษี EV

อัตราภาษี EV ล่าสุดของกลุ่มเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์จากการนำเข้าราคาถูกของจีน ไม่สามารถใช้กับรถยนต์ไฮบริดได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่าแบรนด์หลักๆ เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน BYD (จะยังคงสามารถขยายธุรกิจในภูมิภาคต่อไป

ผู้ผลิตบางรายยังย้ายการผลิตและการประกอบไปยังยุโรปเพื่อลดต้นทุนเกี่ยวกับภาษี

“การส่งออกเพิ่มขึ้นดังกล่าว ได้รับแรงผลักดันจากผู้ผลิต OEM ของจีนที่หันมาใช้ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรใหม่ของสหภาพยุโรปสำหรับการนำเข้า BEV (EV ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่) จากประเทศจีน” Murtuza Ali นักวิเคราะห์จาก Counterpoint Research กล่าว

เขาคาดว่าการส่งออกแบบไฮบริดของจีนไปยังยุโรปจะเติบโต 20% ในปีนี้ และขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่านั้นในปีหน้า

อัตราภาษีของสหภาพยุโรปสูงถึง 45.3% สำหรับการนำเข้า EV ของจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปลายเดือนตุลาคม เพื่อตอบโต้สิ่งที่คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า เป็นการอุดหนุนที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งช่วยสร้างกำลังการผลิต EV สำรอง 3 ล้านคันต่อปีในจีน ซึ่งใหญ่กว่าตลาดสหภาพยุโรปถึง 2 เท่า

การสอบสวนต่อต้านเงินอุดหนุนสำหรับการนำเข้า EV ของจีน ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 และการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ในจีนจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์บางรายเปลี่ยนกลยุทธ์ของยุโรปเพื่อมุ่งเน้นไปที่การส่งออกแบบไฮบริดมากขึ้น

รถยนต์ไฮบริดซึ่งใช้น้ำมันเบนซินและไฟฟ้าร่วมกัน กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากผู้ซื้อพิจารณาว่าสามารถลดข้อจำกัดระหว่างรถยนต์สันดาปและรถไฟฟ้าได้

ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม การส่งออกรถไฮบริดไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าเป็น 65,800 คันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่วยให้การส่งออกปลั๊กอินไฮบริดและไฮบริดทั่วไปคิดเป็น 18% ของยอดขายรถยนต์รวมของจีนไปยังยุโรปในไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 9% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการจัดส่ง EV ลดลงเหลือ 58% จาก 62% ในช่วงเวลาเดียวกัน

นักวิเคราะห์กล่าวว่าจีน ซึ่งแซงหน้าญี่ปุ่นในฐานะผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นผลจากการครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า กำลังเร่งผลักดันการส่งออกเพื่อจัดการกับกำลังการผลิตส่วนเกินในประเทศ  

เมื่อพิจารณาจากอัตราภาษี 100% สำหรับ EV ที่ผลิตในจีนในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ยุโรปยังเป็นหนึ่งในตลาดที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จีน

BYD กำลังแข่งขันกับ Volkswagen และ Toyota ในยุโรปด้วยโมเดลปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกสำหรับภูมิภาคนี้ นั่นคือ Seal U DM-i

รุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 35,900 ยูโร (37,700 ดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น PHEV ที่ขายดีที่สุดของ VW ถึง 700 ยูโร Tiguan และถูกกว่า C-HR PHEV ของ Toyota ถึง 10%

นอกจากนี้ ยังกำลังพิจารณาการผลิตทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดในโรงงานในฮังการี สื่อทางการของจีน China Auto News รายงาน

Yale Zhang กรรมการผู้จัดการของ Automotive Foresight กล่าวว่า "กลุ่มธุรกิจนี้มองเห็นศักยภาพในการเติบโตที่มากขึ้น โดยผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนนำเสนอทางเลือกที่ราคาไม่แพงแก่ผู้บริโภคในยุโรป ซึ่งน่าดึงดูดใจสำหรับผู้บริโภคที่คำนึงถึงราคา"