กระเทาะ Colin Huang เจ้าของแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ TEMU ชายที่รวยที่สุดในจีน

Colin Huang ผู้ก่อตั้ง Temu วัย 44 ปี ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีนเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีทรัพย์สินสุทธิ 48.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1.71 ล้านล้านบาท) ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ทำให้เขาแซงหน้า Zhong Shanshan เจ้าพ่อธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวด ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเครื่องดื่ม Nongfu Spring ซึ่งครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 และยังรั้งตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 25 ด้วย

Huang เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 1980 ในครอบครัวชนชั้นแรงงาน แต่มีทักษะด้านคณิตศาสตร์สูงมาก ในวัยเด็กเขาเข้าโรงเรียนภาษาต่างประเทศของหางโจว ซึ่งเขาได้ร่วมชั้นเรียนกับบุตรหลานของชนชั้นสูงทางการเมืองและสังคมของจีนมากมาย และหลังจากสำเร็จการศึกษาในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในปี 2002 เขาก็เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้ Huang เคยทำงานที่ Google China ในตำแหน่งวิศวกร และด้วยความสามารถด้านเทคโนโลยีและการบริหาร เขาก็ได้เปิดบริษัทของตัวเองในปี 2007 ถือเป็นตัวแทนของมหาเศรษฐีจีนรุ่นใหม่ ที่สร้างความมั่งคั่งส่วนใหญ่จากธุรกิจเทคโนโลยี และบุกเบิกด้วยธุรกิจออนไลน์  เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Oku และบริษัทเกมออนไลน์ Xinyoudi  

Huang เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Pinduoduo ในปี 2015 ด้วยโมเดล “การซื้อแบบกลุ่ม” ที่ทำให้ได้สินค้าราคาถูกลง จนเป็นการปฏิวัติวงการอีคอมเมิร์ซของจีน (Pinduoduo อยู่ภายใต้การบริหารของ PDD Holdings เช่นเดียวกับ Temu)

Temu จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเดลาแวร์และมีสำนักงานใหญ่ในบอสตัน สหรัฐอเมริกา แม้บริษัทแม่ PDD Holdings มีสำนักงานใหญ่ในดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ PDD Holding แซงหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Alibaba ทำให้ PDD กลายเป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่ามากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บรรดาเจ้าของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีในจีน ถูกทางการเพ่งเล็ง เช่น  Jack Ma ทำให้ Colin Huang ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของ PDD Holding ในปี 2020 ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการในปี 2021  จนมูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลงเป็นจำนวนมาก

ในปัจจุบัน ความสำเร็จและความมั่งคั่งส่วนใหญ่ ของ Huang มาจาก Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ราคาถูกที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งโมเดลธุรกิจของ Temu ใช้ผู้ขายรายย่อยในจีน ส่งสินค้าตรงถึงลูกค้าทั่วโลกโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ด้วยต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้สามารถแย่งส่วนแบ่งจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด ที่ผู้บริโภคหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้า และต้องการสินค้าราคาถูกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม Temu กำลังเผชิญกับปัญหาหลายอย่างเมื่อไม่นานมานี้ โดยต้องเผชิญหน้ากับประท้วงหลายครั้งจากซัพพลายเออร์ในสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศจีน ต่อค่าปรับที่สูงเกินไปของบริษัทสำหรับเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น การบริการลูกค้าที่ไม่ดี การแจ้งข้อมูลสินค้าผิดหรือพัสดุผิด รวมถึงการจัดส่งล่าช้า ซึ่งค่าปรับอาจสูงถึงห้าเท่าของราคาขายส่งของสินค้าชิ้นนั้นๆ

ขณะที่ มีรายงานว่าสหภาพยุโรปกำลังดำเนินการเก็บภาษีนำเข้าสำหรับพัสดุจากร้านค้าปลีกออนไลน์ราคาถูกของจีน เช่น Shein, AliExpress และ Temu ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ต้องจ่าย การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเมื่อสหภาพยุโรปพยายามปกป้องธุรกิจของตนเองจากราคาที่ถูกมากของร้านค้าปลีกเหล่านี้ และอาจทำให้ Temu ขายสินค้าในระดับราคาปัจจุบันได้ยากขึ้น