ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดิ่งหนัก ลามทั่วเอเชีย หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

ดัชนีหุ้นนิกเกอิ 225 ซึ่งเป็นดัชนีหลักของญี่ปุ่น ดิ่งลงถึง 12.4% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเร่งเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ที่กำลังสั่นคลอนตลาดโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ 31,458.42 จุด ลดลง 4,451.28 จุด ส่วนดัชนี TOPIX ลดลง 12.8% โดยแรงขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงบ่าย

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นในยุโรปก็ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเปิดทำการในวันจันทร์ ตามหลังการเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ในเอเชีย

ตลาดแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนีลดลงมากกว่า 3% ในขณะที่ตลาดปารีสลดลง 2.6% และลอนดอนลดลง 2.3%  ตลาดมิลานดิ่งลง 4% และมาดริดลดลง 2.8%

สถานการณ์ยิ่งดูมืดมนสำหรับการซื้อขายในวอลล์สตรีท โดยในช่วงเช้าวันจันทร์ ฟิวเจอร์สของ S&P 500 ลดลง 2.5% และของดาวโจนส์ลดลง 1.6%

จากรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานโดยนายจ้างในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนที่แล้วมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงิน ทำลายความคึกคักที่ทำให้ดัชนีนิกเกอิพุ่งสูงถึงกว่า 42,000 จุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีนิกเกอิ 225 ลดลง 5.8% เมื่อวันศุกร์ ทำให้นี่เป็นการลดลงสองวันที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การลดลงในวันเดียวที่แย่ที่สุดคือการดิ่งลง 3,836 จุด หรือ 14.9% ในวันที่เรียกว่า "Black Monday" ในเดือนตุลาคม 1987 ในช่วงหนึ่งของวันจันทร์นี้ ดัชนีดิ่งลงมากถึง 13.4%

ราคาหุ้นในโตเกียวลดลงตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อวันพุธ ตอนนี้ดัชนีนิกเกอิลดลง 3.8% จากปีที่แล้ว

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นต้องขึ้นดอกเบี้ยคือความอ่อนแอที่ยืดเยื้อของเงินเยน ซึ่งผลักดันให้เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลาง ในช่วงเช้าวันจันทร์ ดอลลาร์ซื้อขายที่ 142.39 เยน ลดลงจาก 146.45 เยนเมื่อวันศุกร์ และต่ำกว่าระดับ 160 เยนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนอย่างมาก

การเทขายหุ้นรอบใหม่นี้ ส่งผลกระทบต่อตลาดที่มีน้ำหนักมากในบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์อย่างซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์และหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ ในวันจันทร์ ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ร่วงลง 9.3% ขณะที่หุ้นของซัมซุงลดลง 11.6%

ดัชนี Taiex ของไต้หวันก็พังทลายเช่นกัน โดยลดลง 8.4% ขณะที่บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดลง 9.8%

ในที่อื่นๆ ของเอเชีย ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 2.5% มาอยู่ที่ 16,519.78 และดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 3.8% มาอยู่ที่ 7,637.40

ดัชนี Shanghai Composite ของจีน ซึ่งค่อนข้างแยกตัวจากตลาดโลกอื่นๆ ด้วยการควบคุมเงินทุน เริ่มต้นด้วยการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วก็พลิกกลับลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 2,870.34