เฟดคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับดีดตัวขึ้นทุกดัชนี

ดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นสูงสุดต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ และดัชนี Dow ก็ปรับตัวขึ้นในวันพุธ เนื่องจากหุ้นชิปปรับตัวสูงขึ้น 

 

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของตลาด S&P 500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นสินค้าฟุ่มเฟือย,การดูแลสุขภาพ, อสังหาริมทรัพย์ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวน้อยที่สุด

 

แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ หลังสิ้สุดการประชุมในวันพุธ ระบุความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ 2% และกล่าวว่าเศรษฐกิจ "ยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง" ในขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง และอัตราการว่างงาน "ยังคงต่ำ"

 

ทำให้เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนไว้ที่ระดับ 5.25%-5.50% ตามคาด และยังเปิดประตูสู่การผ่อนคลายนโยบายดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเจ็ดสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ลดลง 9.8 จุดมาอยู่ที่ 4.043%

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 0.24% เป็น 40,842.79 จุด, S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 1.58% เป็น 5,522.30 จุดและ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 2.64% เป็น 17,599.40 จุด

 

ในด้านพลังงาน ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์หลังจากการสังหารผู้นำกลุ่มฮามาสในอิหร่านทำให้เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการลดลงอย่างรวดเร็วของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ

 

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตัวเพิ่มสูงขึ้น 4.26% อยู่ที่ 77.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเบรนต์เพิ่มขึ้นเป็น 80.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.66% ในวันเดียว

 

ราคาทองคำขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้น

 

ราคาทองสปอตพุ่งขึ้น 1.63% อยู่ที่ 2,447.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.77% สู่ระดับ 2,447.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์